นายกฯ สั่งทุกหน่วยเร่งเคลียร์และค้นหาผู้สูญหาย ให้ดูแลคนจีนเหมือนคนชาติเดียวกัน พร้อมหามาตรการดูแลไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ย้ำเรือทุกลำต้องปฏิบัติตามคำเตือนของทางราชการ
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.61 เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมายัง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายและการให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ร่วมเกาะติดตามสถานการณ์เหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปของศูนย์ฯ ว่าตั้งใจที่จะมาหลายวันแล้ว แต่เนื่องจากติดภารกิจหลายประการด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเท่ากัน โดยตนให้ความสำคัญกับทุกภารกิจอย่างเท่าเทียมกัน ขณะนี้มีเหตุการณ์หลัก คือ ที่จ.ภูเก็ต กับเหตุการณ์เรือล่ม และ การให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง จ.เชียงราย
ทั้งนี้ “การเดินทางมาในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า ได้มีโอกาสพบกับ Mr.LYO JIAN เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตัวแทนของทางการจีนและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ซึ่งได้นำข้อความจากประธานาธิบดีจีนมายังตน ซึ่งทางการจีนไม่ได้มีการกดดันหรือกำชับใดๆ เป็นพิเศษ เพียงแต่ขอให้ทางการไทยช่วยดูแลผู้บาดเจ็บและสูญเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ได้มีการแจ้งแนวทางการทำงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้บอกกับทางเอกอัครราชทูตจีนให้เข้าใจว่า ไทยกับจีนเราเป็นพี่น้องกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือคนไทย คือ คนประเทศเราเช่นเดียวกัน และในการช่วยเหลือต่างๆ เป็นการดำเนินการตามมาตรฐานสากลอยู่แล้ว และขณะเดียวกันเราจะต้องดูแลคนทุกประเทศที่เข้ามาอาศัยอยู่หรือท่องเที่ยวในประเทศไทยเช่นเดียวกัน”
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า เนื่องจากขณะนี้การท่องเที่ยวมีการเติบโตสูงมาก ดังนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราพยายามเพิ่มในส่วนของบุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆให้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆ ซึ่งจะได้มีการหารือกันต่อไปว่าจะต้องปรับปรุงอย่างไร รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะ จีนซึ่งพร้อมให้ความร่วมมือในเรื่องเหล่านี้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย แต่สามารถเกิดได้ในทุกประเทศ
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือกันของเจ้าของผู้ประกอบการกิจการท่องเที่ยว เจ้าของเรือหรือเจ้าของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งต้องเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐในการประกอบธุรกิจ จะต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย และดูแลผู้ประกอบการให้ถูกต้องทุกประการ เพื่อให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เมื่อการท่องเที่ยวเติบโตมากขึ้น คนจะยิ่งเข้ามามากความเสี่ยงก็จะยิ่งมากตามไปด้วย หากไม่ลงทุนหรือไม่มีการซักซ้อมหรือตรวจสอบ ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นตามมาไปด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องมีการทบทวน
ส่วนการมาในวันนี้เพื่อให้กำลังใจกับผู้ปฎิบัติงานทุกคน ไม่ได้มาเพื่อตำหนิใคร เพราะตนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็เป็นความรับผิดชอบของตนทั้งหมด และขอร้องให้ทุกคนทำให้ดีที่สุด เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน และคนจีนก็ถือเป็นพี่น้องของเราทั้งสิ้น อีกทั้ง ผลประกอบการจีนจะมีการลงทุนเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกับประเทศอื่นๆ เช่นเดียวกันต้องรักษามิตรเหล่านี้ไว้ให้ได้ ต้องช่วยกันอย่าทำอะไรที่ไม่สมควรจะทำ หรือทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ทำอะไรต้องคิดว่าเราเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้สมกับที่เรามีความสัมพันธ์กันมายาวนานกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ จะต้องเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย และต้องวางแผนการดำเนินการต่อไป เพราะฉะนั้นในการออกเรือทุกคนจะต้องฟังประกาศของทางราชการ และเรือทุกลำที่ออกนอกน่านน้ำจะต้องฟังคำเตือนของราชการ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกก็ต้องมาตรวจสอบว่าที่ประกาศออกไปนั้นมีการปฎิบัติกันอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นความผิดก็จะกลับมาที่เจ้าหน้าที่ ฉะนั้นทุกคนต้องมีการความรับผิดชอบร่วมกัน นี่คือการทำงานแบบประชารัฐ เพราะเมื่อเกิดการสูญเสียเราไม่สามารถเรียกร้องกลับมาได้ แต่จะต้องไม่ให้มีการสูญเสียอีกต่อไป นั่นคือประเด็นสำคัญ
ถึงอย่างไรก็ตามก่อนปิดการแถลงข่าวนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคนจีนทุกคน ด้วยคำภาษาจีนว่า เฉี้ยะเฉี่ยะ แล้วหลังจากแถลงข่าวเสร็จจึงเดินทางต่อไปยัง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อเยี่ยมเยียนอาการผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เรือล่ม และให้กำลังใจกับญาติผู้เสียชีวิต โดย“นายกตู่” โผกอดปลอบขวัญกับญาติๆผู้เสียชีวิต ย้ำรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เมื่อช่วงเวลา 14.30 น.วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และ ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือฟินิกซ์ล่มกลางทะเล ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค.61 ที่ผ่านมา รวมทั้งเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ล่ามอาสา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันช่วยเหลือและดูแลอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยมี นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ
เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล นายกรัฐมนตรีได้เดินเข้าไปพูดคุยกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชน โดยได้แวะทักทายในส่วนขององค์กรเอกชน และกาชาดจังหวัดภูเก็ต ที่นำอาหาร เครื่องดื่ม มาให้บริการนักท่องเที่ยว โดยสอบถามถึงอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะและนมเปรี้ยว ว่าทำเองหรือเปล่า พร้อมกับรับนมเปรี้ยวมาดื่ม 1 ขวด
หลังจากนั้น ได้เดินต่อไปยังจุดรับแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่สูญหายและเสียชีวิตพร้อมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก่อนที่จะเดินไปยังจุดที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่งนั่งร้องให้อยู่ที่จุดที่นั่งรอให้ข้อมูล โดยนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปนั่งพูดคุยเพื่อปลอบขวัญญาติผู้เสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะสวมกอดญาติของผู้เสียชีวิต โดยขณะที่สวมกอดนายกรัฐมนตรีน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งทราบว่าหญิงรายดังกล่าวเดินทางมาเที่ยวที่.ภูเก็ต พร้อมกับลูกสาว ลูกเขย และหลาน โดยลูกสาว ลูกเขย และหลานเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จำนวน 3 ราย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องพักผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเรือล่ม โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกกันเป็นพื้นที่เฉพาะ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงเดินทางกลับ อย่างไรก็ตามขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากห้องผู้ป่วย จนถึงลานจอดรถ ประชาชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ต่างก็ส่งเสียงเรียก “ลุงตู่” ตลอดทางเมื่อมาถึงรถนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นไปยืนบนรถพร้อมกับยกมือขวา แสดงสัญลักษณ์ I Love you ให้กับประชาชนที่ไปรอต้อนรับในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ การเดินทางมาเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตก่อนแล้ว พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ ให้กับผู้ป่วยและญาติด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมให้กำลังใจ และ สอบถามว่า ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องไหนบ้าง รัฐบาลพร้อมจะดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของทุกคนที่ได้รับการสูญเสียเพราะเคยสูญเสียมาก่อน อีกทั้งชาวจีนชาวไทยถือเป็นพี่น้องและครอบครัวเดียวกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ และ แพทย์ให้ดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างดีที่สุด ส่วนการส่งศพของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือดำเนินการให้หลังจากตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเรียบร้อยแล้วจะดำเนินการส่งกลับให้ทันที โดยเครื่องบิน C130