ปัญหาอุบัติเหตุเขาป่าตอง แนะแก้ที่วิศวกรรมจราจร
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางการแก้ไขปัญหารถบัสทัวร์เกิดอุบัติเหตุ บริเวณลงเขาป่าตองข้างวัดสุวรรณคีรีวงค์ซ้ำซาก ล่าสุดนักท่องเที่ยวจีนตายอีก 2 ศพจากรถเบรกแตก ว่าเกิดจากวิศวกรรมจราจร สภาพรถ โชเฟอร์ไม่ชำนาญทาง มีการเสนอมาตรการหลากหลาย ทั้งสั้นทั้งยาว รวมทั้งการสร้างอุโมงค์ นายกฯป่าตองบอกไม่ต้องไปฝันถึงอุโมงค์ ให้แก้ที่วิศวกรรมถนน ขณะที่สำนักงานทางหลวงที่ 17 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จัดการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุบัติเหตุ ทางหลวงหมายเลข 4029 ตอนกะทู้ – ป่าตอง
กรณีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ได้เกิดอุบัติเหตุรถบัสทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีน หมายเลขทะเบียน 30-0902 พังงา เบรกแตก ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ เหตุเกิดที่บริเวณทางลงเขาป่าตอง ซอยข้างวัดสุวรรณคีรีวงก์ ถนนพิสิษฐ์กรณีย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ทำให้มีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 24 ราย เสียชีวิตคาที่ 1 ราย คือ ด.ช.LYU JLE RUI สัญชาติจีน อายุ 10 ขวบ รวมทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมากต่อมาหลังนำนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พบว่า มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือ MR.LYU FEl อายุ 36 ปี พ่อของ ด.ช. LYU JLE RUI สัญชาติจีน ซึ่งเสียชีวิตที่เกิดเหตุ
เมื่อวันเช้าวันที่ 11 กรกฎาคม 2560เวลา 09.00 น.เศษ หลังเกิดเหตุ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมี นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นำยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ตึกศัลยกรรมประสาท จำนวน 3 คน
นายนรภัทร กล่าวภายหลังการเยี่ยมผู้บาดเจ็บว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนเป็นอย่างดี หลังจากนี้ จะมีการจัดห้องพิเศษสำหรับพักฟื้นจนกว่าอาการจะหายดี และเดินทางกลับประเทศ
“จากการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทราบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากรถเบรกแตกขณะลงจากเขาป่าตอง ก่อนที่จะพลิกคว่ำ และลื่นไถลไปชนกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบ้านเรือนบริเวณดังกล่าวเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต”
นายนรภัทร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีอุบัติเหตุรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวเสียหลักตกเขามาแล้ว 3 ครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านวิศวกรรมจราจร เนื่องจากมีสภาพเป็นโค้งหักศอก ไหล่ทางมีความลาดชัน นอกจากนี้ ยังเป็นปัญหาที่เกิดจากสภาพรถอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยปลอดภัย และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง
สำหรับการแก้ไขปัญหานั้น ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เช่น วิศวกรรมจราจร ป้ายจราจร สัญญาณจราจร ทำให้มีความชัดเจนขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาผิวถนนลื่นเกินไปหรือไม่ เพื่อลดปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ความชำนาญของผู้ขับขี่รถโดยสาร และสภาพรถก็เป็นปัจจัยสำคัญ อยากให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว บริษัททัวร์ท่องเที่ยวให้ความสำคัญ มีการตรวจสอบสมรรถนะของรถโดยสารสาธารณะให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งานเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง และในเบื้องต้น ทราบว่า โดยปกติรถใหญ่ที่ขึ้นลงเขาป่าตองจะมีการกำหนดระยะเวลา แต่ช่วงดังกล่าวพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว
นายนรภัทร กล่าวต่อว่า ในช่วงเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีการเสนอขอโครงการจัดทำอุโมงค์ทางลอดป่าตอง ล่าสุด ทางการทางพิเศษฯ เป็นผู้รับผิดชอบ และได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ต่างๆ มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก และไม่น่าจะมีปัญหา โดยอยู่ขั้นตอนพิจารณาการลงทุน
ส่วนกรณีที่มีการเสนอไม่ให้มีรถบัสขนาดใหญ่ขึ้นลงเขาป่าตองนั้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งจะได้มีการมาหารือกันอีกครั้ง รวมไปถึงเรื่องของสภาพรถ และอื่นๆ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งสร้างความเสียหายมหาศาล รวมทั้งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องมาร่วมมือแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม โอกาสนี้ นายนรภัทร ได้มีการพบปะพูดคุยกับทาง น.ส.MA CUI HONG รองกงสุล ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานกงสุลประจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกล่าวขอบคุณจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เข้าไปช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุเป็นอย่างดี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณดังกล่าวบ่อย และครั้งล่าสุดเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา
จึงอยากฝากให้ทางจังหวัดได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย ในส่วนของรถที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นช่วงปิดภาคเรียน จึงทำให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่มของนักเรียน หรือกลุ่มที่มาเป็นครอบครัวกับผู้ปกครอง และยังมีในส่วนของผู้สูงอายุด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อคนขับรถทัวร์คันที่เกิดเหตุว่า ขณะนี้ได้มีการนำตัวมาสอบปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว ทราบว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดเพราะเบรกลมหมด และหักพวงมาลัยหลบจนรถพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว และได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน (11ก.ค.60) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุ บริเวณเขาป่าตอง และการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกรณีรถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุบริเวณเขาป่าตองซึ่งเป็นเหตุให้ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ใช้ถนนได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต, นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต,นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง
ทั้งนี้ เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอความคิดในการกำหนดมาตรการระยะสั้น อาทิ การจัดตั้งจุดเช็คพ้อยท์ ตรวจสภาพรถและคนขับก่อนจะขับขึ้นไปบริเวณเขาป่าตอง, มีการจัดตั้งคณะทำงานในการตรวจหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ,การจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทัวร์และรถบัสนำเที่ยว,เสนอให้มีการทำหลุมทรายและแบริเออร์ (สิ่งกีดขวาง)เพื่อชะลอความเร็วของรถ ตามจุดเสี่ยงต่างๆ และในส่วนของรถบัสนำเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด ต้องเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาข้อมูลเส้นทางภายในจังหวัดภูเก็ตก่อนเพื่อความปลอดภัย และนำรถมาตรวจสอบสภาพตามกำหนดอยู่เสมอ
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการรถบัสนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้มีการดำเนินการร่วมกันรณรงค์ การลดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมกันระหว่างชมรม เครือข่ายผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุคือรถบัสนำเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัดเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตและไม่ชำนาญเส้นทางจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อีกทั้งยังตรวจสอบพบว่าสภาพรถบัสนั้นมีสภาพไม่สมบูรณ์อีกด้วย
ทั้งนี้ทางจังหวัดภูเก็ต คณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ลงพื้นที่บริเวณทางลงเขาป่าตอง หน้าวัดสุวรรณคีรีวงก์ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต และบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อตรวจสอบพื้นที่และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น
ส่วนมาตรการระยะยาวในการแก้ปัญหาการเรื่องของความลาดชันของถนน ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้มีโครงการจะก่อสร้างท่อลอดอุโมงค์ป่าตอง-กะทู้ ซึ่งขณะนี้มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ทางจังหวัดจะเร่งขับเคลื่อนเพื่อให้โครงการท่อลอดอุโมงค์ป่าตอง- กะทู้ ให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ หากมีการก่อสร้างและเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางได้คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวได้อย่างแน่นอน
ด้าน นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วตนไม่หวังกับอุโมงค์ป่าตองเพราะในขณะนี้ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าโครงการดังกล่าวจะได้เริ่มทำการก่อสร้างและแล้วเสร็จเมื่อใด สิ่งที่ควรจะเริ่มทำตั้งแต่วันนี้คือการแก้ไขวิศวกรรมทางถนนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
“จากการประชุมล่าสุดสรุปได้ว่าปัญหาเกิดจากสภาพรถคนขับไม่ชำนาญ และสภาพของถนนที่มันคดโค้งสูงชันในทางปฏิบัติท่านผู้ว่าฯได้มอบให้ขนส่งประสานผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเช่นผู้ประกอบรถทัวร์ และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างรถทัวร์ให้มาพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางร่วมกัน” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
มีผู้ประกอบการบริษัทรถทัวร์รายหนึ่งที่ได้เข้าร่วมในประชุมเสนอว่าบริษัททัวร์กดราคาพวกเขามากเกินไปได้ค่าเช่าวันละ 1,500 – 2,000 ซึ่งมันไม่พอค่าใช้จ่ายที่จะนำมาซ่อมแซมรถให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมใช้งานได้แต่ตัวเขาก็จำเป็นต้องรับค่าจ้างไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีค่าผ่อนรถ
นายกเทศมนตรีป่าตองยอมรับว่า การตรวจสอบสภาพรถและระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ได้อยู่ในอำนาจของเทศบาลที่จะไปควบคุมดูแล แต่สิ่งที่ทำได้คือเสนอแนวทางที่คิดว่าจะเป็นรูปธรรมมากกว่าที่จะรออุโมงค์ป่าตอง ถึงตอนนี้เราเองยังไม่รู้ว่าอุโมงค์ป่าตองจะเกิดหรือไม่เกิด ถ้าเกิดขึ้นจริงอย่างเร็วที่สุดก็จะเปิดใช้ได้ในปี 2567 แสดงว่าจากวันนี้ถึงปี 2567 เราจะต้องหาวิธีการอย่างอื่นที่มาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือการแก้ปัญหาระยะยาวไปเลย
อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากคนขับรถที่ไม่ชินเส้นทาง จุดหน้ารร.ซีเพิร์ลที่มันมีความชัน รถที่มาจากในเมืองจะมองไม่เห็นว่าถนนข้างหน้ามันเป็นอย่างไร พอพ้นเนินจะเป็นเขาและโค้งทำให้คนขับรถปรับตัวไม่ทัน ดิฉันเองได้เสนอขอให้แขวงปรับถนนตรงนั้นลงปรับลดความโค้ง เพื่อให้คนขับมีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายก็จะต้องคุยในรายละเอียดต่อไปเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ป่าตองไม่สามารถจัดการได้เพียงลำพัง” นางสาวเฉลิมลักษณ์กล่าวและได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการติดตั้งโรลเลอร์บอลบริเวณโค้งวัดสุวรรณคีรีวงก์ เพื่อไม่ให้เกิดการอัดกระแทกในจุดดังกล่าวและไม่มีการเจ็บและตายว่า หากติดตั้งแล้วจะไม่เกิดการชนอย่างรุนแรงที่จุดนั้นจริง แต่รถจะไถลและเกิดความเสียหายในบริเวณใกล้เคียงแก้จุดก็เกิดการเจ็บตายอีกจุดอยู่ดี
“ดิฉันเองได้เสนอผู้ว่าฯ ไปแล้วว่าจากอุบัติเหตุใหญ่ทั้ง 2 ครั้งที่มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คนในระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือนถือเป็นภาพใหญ่ของประเทศ และอยากให้ท่านได้ใช้โอกาสนี้เสนอรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาจริงๆ เราต้องหางบประมาณและความช่วยเหลือจากส่วนกลางไม่ใช่แค่โยนให้ทางจังหวัดแก้ไขเพียงฝ่ายเดียว” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.ค.60 ที่ห้องประชุมนภัสสร โรงแรมวินแดม ซีเพิร์ล รีสอร์ท ภูเก็ต อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต สำนักงานทางหลวงที่ 17 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จัดการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุบัติเหตุ ทางหลวงหมายเลข 4029 ตอนกะทู้ – ป่าตอง โดยมี นายสุจิณ มั่งนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ,นายธีระวัฒน์ ทรัพย์เสนาะ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 17 กรมทางหลวง ,นายปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต ,นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุจิณ มั่งนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยความปลอดภัย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ เมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุพุ่งลงจากเขาป่าตอง บริเวณซอยข้างวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยจากลักษณะอุบัติเหตุในครั้งนี้จะพบว่าบริเวณถนนและเส้นทางขึ้น-ลงเขาป่าตองจะมีความลาดชัน และมีโค้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ขับขี่ต้องใช้ความชำนาญและความคุ้นชินพอสมควร หากไม่มีการเตือนและให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังและเข้าใจวิธีการขับให้ถูกต้องก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งในส่วนของเส้นทางและถนนก็ควรต้องหามาตรการในดำเนินการป้องกัน โดยมีการจัดทำคณะทำงาน แก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ,เสนอปรับปรุงถนนลดความลาดชัน เพิ่มความกว้างของโค้ง ,เปลี่ยนแท่งปูนบริเวณ 3 แยกวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ให้ซับแรงกระแทกเพิ่มขึ้น เพื่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วนั้น ก็จะส่งผลให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดหรือสูญเสียน้อยที่สุด
ทั้งนี้กรมทางหลวงได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำนักวิชาการผู้เชียวชาญในเรื่องของระบบบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน เพื่อมาศึกษาและวิเคราะห์หาจุดเสียงทางโค้งต่างๆและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง สำรวจร่วมกับกรมทางหลวงพร้อมหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ซึ่งการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุบัติเหตุ ทางหลวงหมายเลข 4029 ตอนกะทู้ – ป่าตอง ในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งต้นแบบกรณีศึกษาที่จะสามารถนำไปปรับใช้กับสถานที่อื่นๆที่มีจุดเสี่ยงอุบัติเหตุในลักษณะเดี่ยวกันได้อีกด้วย ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นลำดับต้นๆและมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก ฉะนั้นการหามาตรการป้องกันและดูแลในเรื่องของความปลอดภัยนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง