ผู้ว่าฯภูเก็ตกระฉ่อนอีก 18มงกุฎเอารูปใส่เฟซหากิน
ทีเด็ด 18 มงกุฎ ใช้สื่อโซเชียลเปิดเฟซบุ๊ค แปะรูปภาพผู้ว่าฯ ตีสนิทหลอกสนทนาขอเงินจากหน่วยงานต่างๆ ล่าสุดขอยืมเงินนายกฯท้องถิ่นแถวถลาง หลอกให้โอนเงินเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน แต่นายกฯไหวทัน โทรถามเสียก่อน เลยมอบอำนาจให้ปลัด เข้าแจ้งความดำเนินคดี กับ 18 มงกุฎรายนี้จนถึงที่สุด
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 เวลา กลางคืนในโลกโซเชียลทั้ง FacebooK และMessenger มีบุคคลซึ่งใช้นาม ว่า Nopparat Nonthong แอบอ้างใช้รูปภาพของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นรูปภาพประจำตัว และ มีการสนทนาทางสื่อโซเชียลดังกล่าวกับบุคคลอื่นไปในลักษณะแสวงหาผลประโยชน์จากคู่สนทนาโดยทำให้คู่สนทนา หลงเชื่อว่า บุคคลใช้ที่นามNopprat Nonthong เป็น นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ ข้อเท็จจริงปรากฏตามโลกโซเชียล โดยมีการขอเป็นเพื่อนทั้งสื่อมวลชนและผู้บริหารท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/134 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ นายสุธี คีรีเดช เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ซอยเทศา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นผู้มีอำนาจ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เป็นผู้รับเรื่อง และมี พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เดินทางมาดูคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ให้เอาผิดกับ บุคคลใช้ชื่อเฟซบุ๊ก นาม Nopprat Nonthong ซึ่งนำรูปของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไปใส่ ทำให้บุคคลอื่นเกิดความเข้าใจผิด ว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็น นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้
โดยนายสุธี กล่าวว่า ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้แอบอ้างดังกล่าวในข้อหาความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ ยอมความตามกฎหมายมอบคดีให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนนำชี้ให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจเข้าจับกุมเพื่อดำเนินคดีคามกฎหมาย ให้ถ้อยคำชี้แจ้งข้อเท็จจริง รายละเอียดต่างๆ ยื่นเรื่อง ตรวจสอบ คัดถ่าย รับส่งเอกสาร หรือพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนให้มีอำนาจดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวกับการร้องทุกข์แทนผู้ว่าราชการจังหวัดจนเสร็จการ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวจนถึงที่สุด
นายสุธี กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นผู้ใช้เฟซบุ๊ก ดังกล่าว มีการส่งข้อความไปหานายกฯท้องถิ่นในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร รายหนึ่งโดยมีการขอยืมเงิน จำนวน 25,000 บาท โดยแจ้งว่าขอยืมเงินเป็นค่าตั๋วเครื่องบินให้กับเพื่อนของลูกสาว มีการส่งเลขบัญชีธนาคาร และเบอร์โทรศัพท์มาให้พร้อม แต่นายกฯคนดังกล่าวยังไม่ได้โอนให้ และมีการสอบถามมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า ต้องการใช้เงินจริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่ต้องให้โอนเงินแต่อย่างใด จึงยังไม่มีการโอนเงินเกิดขึ้น นอกจากนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรายดังกล่าวแล้ว พบว่าผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวยังแอบอ้างขอเงินไปยังหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตอีกหลายราย