พบสาเหตุน้ำเสียลงหาดป่าตอง โผล่อีกที่กะรนทะลักลงทะเล
ผู้ว่าฯ ภูเก็ตลงพื้นที่ป่าตอง หารือกับนายกฯ ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียที่คลองปากบางไหลลงทะเล ว่าสาเหตุเกิดจากตะกอนในคลองที่หมักหมมเป็นเวลานาน ถูกฝนชะลงทะเลทำ ทั้งดำทั้งเหม็น ไม่ได้ขุดลอกกว่า 2 ปี เพราะรองบการแก้ปัญหาน้ำท่วมป่าตองทั้งระบบจากโยธาฯ เทศบาลฯเกรงงานทับซ้อน ในที่สุดให้เทศบาลฯขุดลอกเร่งด่วน ด้านนายกฯป่าตองบอกบ่อบำบัดน้ำเสียเฟส 4 เสร็จในปีนี้ ล่าสุดพบอีกแห่งที่กะรน น้ำเน่าเสียเหม็นหึ่งทะลักลงทะเล หลังเจอฝนตกหนัก
เมื่อบ่ายวันที่ 25 เมษายน 2561 เวลา 13.30 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตประชุมร่วมกับ น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย ซึ่งมีสีดำ และกลิ่นเหม็น จากคลองปากบางไหลลงสู่ทะเล ที่หาดป่าตอง โดยมีนายเถลิงศักดิ์ ชูประหาร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายทวี หอมหวล โธยาธิการและผังเมืองภูเก็ต ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม และหลังจากประชุม ได้ลงพื้นที่ดูสภาพน้ำเสียที่บริเวณปากคลองปากบาง
นายนรภัทร กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำเสียว่า ปัญหาน้ำเสียสีดำจากคลองปากบางไหลลงสู่หาดป่าตองนั้น จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่า เป็นน้ำเสียที่เกิดจากตะกอนที่มีการหมักหมมเป็นเวลานานในคลองปากบาง เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เทศบาลเมืองป่าตองไม่ได้ดำเนินการขุดลอกตะกอนออกจากคลอง เนื่องจากมีความช้ำช้อนในการใช้งบประมาณ ไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณของเทศบาลมาดำเนินการขุดลอกตะกอนได้ จึงทำให้ตะกอนหมักหมมเป็นเวลานานและมีประมาณมาก เมื่อฝนตกลงมาชะล้างตะกอนดังกล่าวลงทะเลดังที่เป็นอยู่ ขณะนี้ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดสรรงบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท แก้ปัญหาน้ำเสียทั้งระบบของเมืองป่าตอง การขุดลอกตะกอนในคลองปากบางอยู่ในงบดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การแก้ปัญหาน้ำเสียและมีสีดำไหลลงทะเลนั้น จะต้องเร่งขุดลอกตะกอนออกจากคลองปากบาง ซึ่งปกติทางเทศบาลป่าตองจะต้องขุดลอกเป็นประจำ แต่ต้องหยุดชะงัก เพระกรมโยธาธิการมีงบประมาณลงพื้น มีหลายโครงการที่จะต้องดำเนินการ รวมถึงกิจกรรมขุดลอกคลองปากบางด้วย ทำให้เทศบาลเมืองป่าตองไม่กล้าที่จะขุดลอกกลัวว่าจะไปทับซ้อนกับงบประมาณของกรมโยธาธิการ ทั้งๆที่เทศบาลเมืองป่าตองมีงบประมาณในการขุดลอกตะกอนอยู่แล้ว 4 ล้านบาท
โดยในวันที่ 26 เม.ย.61 ได้เชิญผู้รับจ้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเทศบาลเมืองป่าตองมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอตัดแผนงานโครงการในการขุดลอกตะกอนในคลองปากบางออกไป ให้เทศบาลเมืองป่าตองดำเนินการแทนสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและการใช้งบประมาณไม่ซ้ำซ้อน เพราะหากปล่อยไว้เนินนานกว่านี้ เมื่อเกิดฝนตกหนักลงมาตะกอนก็จะไหลลงทะเลอีก จะทำให้เสียหายต่อหาดป่าตองและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้ ซึ่งหากได้มีการขุดลอกคลองปัญหาน่าที่จะน้อยลงกว่าเดิม
ด้าน นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลเมืองป่าตองกำลังดำเนินการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียเฟสที่ 4 อยู่ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ และจะเสร็จภายในปีนี้แน่นอน สามารถบำบัดน้ำเสียได้เพิ่มขึ้นอีก 9,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ครอบคลุมพื้นที่ทั้งป่าตองและเตรียมทำเฟสที่ 5 ต่อ เพราะป่าตองมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันนี้ป่าตองมีโครงข่ายระบบบำบัดน้ำเสียพื้นที่แล้วร้อยละ 80 ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไม่วางระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่รอบนอก คือ พื้นที่สุดทางไปหาดกะหลิม ซึ่งมีชุมชนน้อยมาก ลักษณะเป็นภูเขา การที่จะดึงน้ำเสียฝั่งโน้นเข้ามาในตัวเมืองป่าตองค่อนข้างที่จะลำบาก ทางเทศบาลมีโครงการที่จะทำบ่อบำบัดย่อย ที่บริเวณสวนสาธารณะสวนนก
นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเมืองป่าตองสามารถรองรับน้ำเสียได้ทั้งหมด โดยน้ำเสียอยู่ที่วันละ 22,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ในช่วงไฮซีชั้นจะเพิ่มเป็น 27,000 – 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งระบบที่มีอยู่สามารถบำบัดได้ 20,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แต่ช่วงที่ผ่านมาผู้ออกแบบได้แก้ไขปัญหาเฉเพาะหน้า ด้วยการยกคานบ่อให้สูงขึ้น สามารถบำบัดได้ถึง 27,000 – 28,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งถือว่าเพียงพอ และปลายปีนี้เมื่อระบบบำบัดเฟสที่ 4 แล้วเสร็จก็จะสามารถรองรับเพิ่มได้อีก 9,000 ลูกบาตรเมตร/วัน
ล่าสุด น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผย ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาตะกอนจากคลองปากบาง ไหลลงทะเล ทำให้น้ำดำและมีกลิ่นเหม็น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้หารือร่วมกับเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมได้สั่งการให้หารือกับผู้รับจ้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองป่าตองในการตัดเนื้องานการขุดลอกตะกอนคลองปากบางให้เทศบาลป่าตองเป็นผู้ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหานั้น
จากการหารือร่วมกับผู้รับเหมาโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองป่าตองเป็นไปในแนวทางที่ทางจังหวัดต้องการให้ทางเทศบาลเข้าไปแก้ปัญหาด้วยการขุดลอกตะกอนในคลองปากบางออก โดยขณะนี้ทางเทศบาลอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถหาผู้รับเหมาขุดคลอกตะกอนได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเทศบาลมีงบประมาณในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท และคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อฝนตกลงมาตะกอนในคลองก็จะถูกลอกขึ้นมาผสมกับน้ำฝนไหลลงสู่ทะเลที่หาดป่าตองอีก อย่างไรก็ตาม หากสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จปัญหาก็จะเบาบางลงไปได้
“ปัญหาน้ำเสียในป่าตองนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของตะกอนจากคลองปากบางเท่านั้น ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการมักง่าย หรือไม่ก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำฝนของเทศบาล ทำให้น้ำเสียที่ยังไม่ได้รับการบำบัดผสมกับน้ำฝนไหลลงสู่คลองปากบางและไหลลงสู่ทะเลในที่สุด” นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวและว่า
เรื่องนี้เทศบาลเมืองป่าตอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยได้ตั้งทีมออกสำรวจการปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำในถนน 3 สายหลัก คือ ถนนสายคลองวัด ถนนสายน้ำตกวังขี้อ้อน และถนนผังเมืองสาย ก ซึ่งจากการสำรวจพบยังมีผู้ประกอบการประมาณ 40 – 50 ราย ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร บ้านเรือน ยังปล่อยน้ำเสียที่ยังไม่ผ่านการบำบัดลงสู่ท่อระบายน้ำ และทราบแล้วว่ามีผู้ประกอบการรายใดบ้าง จึงได้แจ้งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด หากเป็นผู้ประกอบการรายย่อย และการดำเนินการไม่ยุ่งยากจะให้เวลาดำเนินการ 1-2 สัปดาห์ หากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ก็จะให้เวลาที่นานขึ้น หากรายใดมีปัญหาในการดำเนินการทางเทศบาลก็จะเข้าไปให้คำปรึกษา และสุดท้ายเมื่อครบกำหนด ผู้ประกอบการยังไม่แก้ปัญหา ยังคงลักลอบปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำเหมือนเดิม ทางเทศบาลจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ด้วยการปิดปากท่อระบายน้ำที่ต่อจากสถานประกอบการลงสู่ท่อระบายน้ำของเทศบาล และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด
น.ส.เฉลิมลักษณ์ ยังกล่าวถึงการก่อสร้างระบบและบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเมืองป่าตอง ว่า ขณะนี้ทางเทศบาลเมืองป่าตองกำลังดำเนินการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเฟสที่ 4 ที่สามารถรองรับน้ำเสียได้อีก 9,000 ลบ.ม./วัน จะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2561 นี้ เมื่อแล้วเสร็จการบำบัดน้ำเสียก็จะเพิ่มจากวันละ 21,300 ลบ.ม.เป็น 30,000 ลบ.ม.รองรับได้เพียงพอกับปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ต้องยอมรับว่าเมืองป่าตองมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสถานประกอบการเกิดขึ้นทุกวัน ปริมาณน้ำเสียก็เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเมือง เทศบาลจึงได้วางแผนที่จะก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเพิ่ม โดยได้ของบประมาณในปี 2562 ก่อสร้างในเฟสที่ 5 ต่อ อีก 9,000 ลบ.ม./วัน ให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น
จะอย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โลกโซเชียล โดยเพจเสียงประชาชนได้มีการแชร์คลิปภาพน้ำสีดำไหลลงทะเลที่บริเวณหาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นภาพที่น้ำไหลอย่างแรงลงทะเล ทำให้น้ำในทะเลบริเวณหน้าชายหาดมีสีดำและขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ โดยคนโพสต์ ระบุว่า “นักท่องเที่ยวตะลึง! #น้ำเสียจำนวนมากทั้งดำและเหม็นมากจากคลองบางลา ถูกปล่อยลงหาดกะรน วอนผู้ว่าฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูและตรวจสอบหน่อย พิกัดหน้ารูปปั้นพญานาค
หลังจากการโพสต์ ภาพดังกล่าว ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า น้ำเสียดังกล่าวถูกปล่อยออกมาจากโรงแรมในพื้นที่ แต่ล่าสุด ทางผู้โพสต์ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมถึงข้อมูลเกี่ยวกับน้ำเสียดังกล่าวว่า “ข้อมูลล่าสุด น้ำเสียดำๆ เหม็นๆ มันไม่ใช่น้ำเสียที่ถูกปล่อยมาจากโรงแรมอย่างที่ทุกคนเข้าใจครับ แต่มันคือดินดำที่อยู่ใต้ท้องคลองออกมาปนเปื้อนกับน้ำทะเล
ทางด้าน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หลังจากทราบข่าว ได้สั่งการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยสั่งการให้ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ ณ บริเวณหน้าหาดกะรน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป
เรื่องนี้ ทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งทีมสอบสวนเหตุน้ำเสีย โดยให้เข้าไปดูทุกจุดที่มีปัญหาในพื้นที่ภูเก็ต เพื่อเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล และพร้อมที่จะแก้ปัญหาเบื้องต้นก่อน ส่วนในระยะยาวจะดำเนินการขุดลอก หรือทำแก้มลิงเป็นช่วง ๆ พร้อมทั้งให้เทศบาลทุกแห่งจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียซึ่งได้กำหนดอยู่ในแผนบริหารจัดการน้ำเสียเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต
ที่กะรน นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า ภาพน้ำสีดำไหลลงทะเลดังกล่าว เกิดจากเหตุที่มีฝนตกหนักในช่วงบ่ายของวันที่ 1 พฤษภาคม เมื่อฝนตกหนัก ทำให้ฝนชะดินดำที่อยู่ใต้ท้องคลองออกมาปนเปื้อนกับน้ำทะเล ทำให้น้ำมีสีดำ และ ขณะนี้ทางเทศบาลกะรน ได้ดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนแล้ว
โดยมอบหมายให้ฝ่ายช่างฯ เข้าดำเนินการขุดลอกดินดำบริเวณคลองดังกล่าว ตั้งแต่เที่ยงคืนวันเกิดเหตุ โดยใช้รถแบ็คโฮ ขุดลอกดินดำ เพื่อแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน ซึ่งจะทำให้ตะกอนที่เป็นสีดำหมดไปจากคลอง ทำให้น้ำที่ไหลลงทะเลจะไม่มีสีดำ คาดว่าหลังจากการขุดลอก เสร็จภายใน 5 – 6 ชม. สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ต่อมา เมื่อเช้าวันที่ 2 พฤษภาคม 2561เวลา 08.30 น. นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายวันชัย แซ่ตัน ผอ.กองช่าง นายฉัตรพร เจริญเวช หัวหน้างานบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลตำบลกะรน และ ดร.วิภาวี ดำมี จากคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียสีดำไหลลงสู่ทะเล และร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา
จากการลงพื้นที่ในวันนี้พบว่า น้ำเสียสีดำที่ไหลลงทะเลดังกล่าว ไม่มีแล้ว เนื่องจากสภาพน้ำในคลองบางลา ซึ่งเป็นคลองที่รองรับน้ำจากชุมชนกะรน ยาวประมาณ 800 เมตร ตั้งแต่ต้นคลองไปจนถึงปลายคลองที่ไหลลงสู่ทะเล อยู่ในสภาพที่แห้งขอด มีน้ำขังในคลองน้อยมาก จะมีบ้างเล็กน้อยที่จุดใกล้กับหาดแต่สภาพน้ำที่ไหลลงหาดไม่ได้มีสีดำเหมือนเมื่อวานนี้ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาและในช่วงเช้าวันนี้ไม่ได้มีฝนตกลงมา
ในขณะเดียวกัน เทศบาลตำบลกะรนได้นำรถแบคโฮเข้าไปขุดลอกตะกอนในคลองบางลาแล้ว โดยได้เริ่มขุดลอกตั้งแต่บริเวณจุดรวบรวมน้ำเสีย และจะทยอยขุดลอกตลอดทั้งลำคลองระยะทางประมาณ 800 เมตร และบริเวณชายหาดมีนักท่องเที่ยวลงมาเล่นน้ำตามปกติ
นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำเสียสีดำที่ไหลลงทะเลที่หาดกะรนเมื่อวานที่ผ่านมา ตามที่มีการแชร์กันในโซเชียลนั้น เกิดจากเมื่อวานช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่หาดกะรน ฝนได้ชะล้างตะกอนที่อยู่ในท้องคลองบางลาขึ้นมาผสมกับน้ำฝนไหลลงสู่ทะเลตามภาพที่เห็นกันในโชเซียล แต่เมื่อฝนหยุดตกน้ำในคลองบางลาได้แห้งขอด ทำให้ในช่วงเช้าวันนี้ปัญหาดังกล่าวได้หมดไป สภาพน้ำที่ไหลลงทะเลเป็นน้ำใสที่ไม่มีตะกอนผสมลงไป ทำให้สภาพน้ำทะเลดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้วางแผนที่จะแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยในระยะเร่งด่วนได้นำรถแบคโฮมาขุดลอกตะกอนในคลองออกทั้งหมดในระยะทางประมาณ 800 เมตร ซึ่งปกติก็มีการขุดลอกในทุกๆปีอยู่แล้ว หลังจากขุดลอกตะกอนแล้วเสร็จจะมีการแก้ปัญหาตะกอนไหลลงทะเลด้วยระบบดักตะกอน หรือ เวสแลนด์ ในคลองบางลา เพื่อให้น้ำที่ไหลลงสู่ทะเลเป็นน้ำใสที่ไม่มีตะกอนรวมอยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารดำเนินการได้ในเร็วๆนี้ และทางเทศบาลมีงบประมาณที่จะดำเนินการอยู่แล้ว คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2 ล้านบาท
“ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงระบบระบายน้ำของเทศบาลกะรนและไหลลงทะเลนั้น จากการสำรวจไม่พบแต่อย่างใด และจากการวัดค่าน้ำที่ไหลลงทะเล อยู่ในค่ามาตรฐานไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร อยู่ที่ประมาณ 12 มิลลิกรัมเท่านั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เป็นเรื่องของตะกอนในคลองเท่านั้น” นายทวี กล่าวและว่า
ส่วนการแก้ปัญหาในระยะต่อไป และระยะยาวนั้น ทางเทศบาลได้วางแผนในการขยายขีดความสามารถของบ่อบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ที่ซอยปฎัก 24 จากเดิมที่มีขีดความสามารถในการรองรับน้ำเสียได้วันละ 6,000 ลบ.ม.ให้สามารถรองรับได้วันละ 10,000 ลบ.ม.ขณะนี้มีงบประมาณในการดำเนินการแล้ว 54 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ แม้ว่าเทศบาลจะประกาศยื่นซองประมูลมาแล้ว 2 ครั้ง และมีโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียระยะที่ 2 เพิ่มอีก วันละ 10,000 ลบ.ม.ได้ของบประมาณในส่วนของกองทุนสิ่งแวดล้อมไปแล้ว 275 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรองรับน้ำเสียในเขตพื้นที่กะรนได้อีกไม่ต่ำกว่า 20 ปี
ด้าน ดร.วิภาวี ดำมี จากคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ทางคณะเทคโนโลยีฯ ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมทางทะเลและต่อเนื่องมาจนถึงบนบก ซึ่งในส่วนของภูเก็ตนั้นได้โฟกัสไปที่ปัญหาน้ำเสีย ในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของภูเก็ต เช่น หาดป่าตอง กะรน กมลา เป็นต้น โดยก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่สำรวจในส่วนของป่าตอง และที่กะรนเมื่อวานนี้เกิดจากกตะกอนในท้องคลองเหมือนกับที่หาดป่าตอง ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการลอกตะกอนออกจากท้องคลอง หลังจากนั้นก็จะใช้ระบบการเติมออกซิเจนลงไปในระบบการย่อยสลาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดตะกอนสีดำและไม่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการนำเสนอไปยังเทศบาลป่าตองแล้วด้วย