“พัชรีทัวร์กรุ๊ป” ได้บริหาร ท่าเรืออ่าวปอด้วยทุน 42 ล้าน
ท่าเรืออ่าวปอได้ผู้บริหารจัดการอย่างเป็นทางการ “พัชทรี ทัวร์ กรุ๊ป”ผู้ชนะการประมูลด้วยทุนกว่า 42 ล้านบาทเช่าจากกรมธนารักษ์ 10 ปี เปิดเวทีชี้แจงแนวทางการบริหาร ชูนโยบาย “ความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว”ตามนโยบายของรัฐมนตรีท่องเที่ยว พร้อมปรับระเบียบใหม่ เริ่มเข้ามาบริหารจัดการสะพานเดือนหน้าเป็นต้นไป เผยจะมีการลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท สร้างที่พักผู้ใช้บริการท่าเรือ โรงแรมขึ้นมาใหม่
เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 23 มิถุนายน 2560 ที่ บริษัท พัชทรี ทัวร์ กรุ๊ป จำกัด ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายไชยา ระพือพล ผู้บริหารบริษัท พัชทรี ทัวร์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัทฯ ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการบริหารท่าเทียบเรืออ่าวปอ ให้แก่ผู้ประกอบการนำเที่ยว ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ซึ่งประกอบอาชีพอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวปอ และใช้ท่าเทียบเรืออ่าวปอเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ หลังจากกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของท่าเทียบเรืออ่าวปอ ได้เปิดประมูลและทางบริษัทฯ ชนะการประมูลได้เข้ามาเป็นผู้บริหารท่าเทียบเรือฯ ดังกล่าว จึงได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการบริหารท่าเทียบเรือฯ ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งเพื่อขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดขึ้นใหม่ ตลอดจนรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ โดยมีผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการนำเที่ยวและชาวบ้านที่มีส่วนได้เสียในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม
นายไชยา กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหารจัดการท่าเทียบเรืออ่าวปอ หลังจากที่ใช้งบประมาณในการประมูลฯ จำนวน 42.5 ล้านบาทเศษ เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยจะเข้ามาเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้ในส่วนของชาวบ้านที่ทำหามาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎข้อบังคับและระเบียบของการใช้ท่าเทียบเรือฯ ที่มีการกำหนดขึ้นใหม่ รวมไปถึงอัตราค่าใช้บริการ ซึ่งจะปรับขึ้นจากเดิมเล็กน้อย เช่น ค่าใช้สะพานกรณีของนักท่องเที่ยวคนละ 20 บาท เป็นต้น
หลังจากชนะการประมูล ทางบริษัทฯ จะเริ่มเข้ามาดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ มีโครงการที่จะดำเนินการตามลำดับ คือการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม อย่างละเอียด ดูทุกซอกทุกมุมของสะพาน,จัดให้มีรถบริการรับส่งนักท่องเที่ยว,ปรับเปลี่ยนสถานที่รับรองนักท่องเที่ยว,ตู้เก็บเงิน ระบบการเข้า-ออกท่าเทียบเรือ จะมีระบบที่ใช้ในการเข้ามาใช้บริการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในส่วนของสะพาน จะดูแลความปลอดภัยตามนโยบายของผู้ว่าราชจังหวัดภูเก็ต ของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ที่ว่า “ความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว” ตรงส่วนนี้เป็นหัวใจที่เราต้องเข้ามาบริหารและต้องทำให้ได้
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่ด้านหน้าท่าเทียบเรืออ่าวปอ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงทำเป็นที่พักลูกค้า สร้างตึกขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างบรรยากาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้า ใช้งบลงทุนโครงการด้านหน้าท่าเทียบเรือฯ ประมาณ 40 ล้านบาท ประกอบด้วยไปด้วย โรงแรมขนาด 30 กว่าห้อง ร้านกาแฟ มินิมาร์ท ร้านค้า และที่จอดรถ
โดยในส่วนของร้านค้า คิดว่าใช้เวลาอีก 6 เดือนก็สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ในส่วนโครงการที่เป็นโรงแรม เพื่อที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะใช้บริการ ยังให้คำตอบไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์ก่อน
“เราจะเข้ามาบริหารสะพานเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ งบประมาณที่ใช้อยู่ทั้งหมด 10 ล้านบาทที่จ่ายเพิ่มจากราคาประมูล 42,500,168 บาท ระยะเวลา 10 ปี และที่บอกว่า รายได้ 10% ที่จะแบ่งให้ชุมชน คือรายได้หักภาษีหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่จ่ายให้กับธนารักษ์ จ่ายภาษีคืนให้กับรัฐบาลเสร็จแล้ว ส่วนตอบแทนคือ10% ของกำไรจะให้ชาวบ้านกับชุมชน”
นอกจากนี้นายไชยา กล่าวถึงการใช้บริการท่าเทียบเรือของนักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ ตอนนี้มีบริษัททัวร์ใช้บริการอยู่ประมาณ 30 บริษัท มีนักท่องเที่ยวขึ้นลงท่าเทียบเรือประมาณ 2,500 คน/วัน และในอนาคตหลังจากที่เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเชิญชวนบริษัททัวร์ และบริษัทเรือนำเที่ยวเข้ามาใช้บริการท่าเทียบเรืออ่าวปอให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย ซึ่งท่าเทียบเรือแห่งนี้ยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อีกมาก ประมาณ 4,000-5,000 คน/วัน
“จริงๆแล้วเป็นนโยบายของรัฐบาลต้องการทำให้อ่าวปอเป็นฮับด้านการท่องเที่ยวตั้งแต่ภูเก็ต พังงา กระบี่ เพราะตรงนี้เป็นจุดๆ เดียวที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัด จะไปพังงา กระบี่ ออกจากท่าเทียบเรืออ่าวปอถือว่าเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดแล้ว และผู้ที่จะมาใช้บริการที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอ จะประหยัดเรื่องค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ” นายไชยา กล่าวในที่สุด