มองบ่อนพนัน แบบโลกไม่สวย

          “การพนันเป็นสมบัติของมนุษยชาติ” เป็นคำกล่าวที่มีผู้กล่าวไว้ในอดีต เพราะตราบใดที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน การพนันมักเกิดขึ้นมาทันที

          คนไทยเราเล่นพนันกันทุกชนิดที่สากลเขาคิดกันขึ้นมา อย่างไพ่ ลอตเตอรี่ รูเล็ต ไฮโล ม้าแข่ง พนันมวย พนันฟุตบอล ฯลฯ และคนไทยเราเอาเกือบทุกสิ่งที่ที่อยู่รอบตัวมาพนันกันได้ เช่น กัดปลา ตีไก่ ชนวัวชนควาย ทายเบอร์แบงค์(ทายหมายเลขในธนบัตร) หรือแม้กระทั่งทายเลขหน้าหนังสือ ก็เคยเห็นมีเล่นกันมาแล้ว

           โดยเฉพาะบ้านเรา การพนันได้รับการยอมรับกันว่าเป็น “วิถีชีวิต” ต้องมีบ้าง ไม่งั้นชีวิตไม่มีลุ้น ไม่ตื่นเต้น ต้องแทงหวย เล่นหวยหุ้น แทงบอล ซึ่งมันก็มีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกตำรวจจับ เพราะกฎหมายยังไม่ยอมรับกิจกรรมการพนันทุกประเภท ยกเว้นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่รัฐบาลเป็นเจ้ามือเอง เท่านั้น

          และในแทบทุกครั้งที่มีการเปิดประเด็นเรื่องการ “เปิดบ่อนพนันถูกกฎหมาย” ก็มักมีพวกโลกสวย ศีลธรรมเคร่งครัด มองดูวิธีการแก้ปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมาย กลายเป็นเรื่องของคนใจบาปหยาบช้า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ รัฐบาลไทยก็ไม่สมควรแปดเปื้อนเงินรายได้ ภาษีจากการพนันซึ่งเป็นอบายมุข

          หากมองโลกให้สวย ประเทศเรานี้ก็ดูดีนะ แต่ต้องไม่ชำเลืองตามองไปประเทศรอบ ๆ บ้านเรา เพราะเขาเปิดบ่อนดูดเงินคนไทย วันละเท่าไหร่ เดือนละเท่าไหร่ ปีละเท่าไหร่ เงินเหล่านั้น คือ เงินของคนไทย ที่ทำงาน ทำมาค้าขาย ควรเอามาหมุนเวียนในประเทศมากกว่า ไม่ใช่ปล่อยให้เข้ากระเป๋านายทุนบ่อนตามแนวชายแดนซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยนั่นแหละ

          คนโลกสวยยังมองกันต่อไปว่า ถ้ามีบ่อนการพนันก็จะทำให้ศีลธรรมจรรยาเสื่อมทราม คนในชาติก็จะมัวเมาลุ่มหลงอบายมุข สังคมก็มีแต่เรื่องบาป ๆ เท่านั้น ตรงนี้ขอให้ไปถ่างตาดูประเทศรอบข้างเรา หรือแม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาต้องมีบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายเพื่อรองรับนักพนัน ในเมื่อห้ามเขาเล่นไม่ได้ ก็ไม่ควรปล่อยเขาไปเล่นที่อื่น ให้เขามาเล่นในที่ถูกกฎหมายไม่ดีกว่าหรือ

          มองแบบโลกไม่สวย มองกันตรงไปตรงมา ที่ผู้ประกอบการสถานบริการที่ผิด เจ้ามือหวย นายบ่อนทั้งหลาย เคยออกมาแฉโพยเรื่องส่วยให้กับเจ้าหน้าที่นั้น มันเป็นไปได้หรือไม่ว่า ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้มันถูกกฎหมาย เพื่อจะได้เรียกเก็บส่วยไปชั่วนิจนิรันดร

           แต่แน่นอนว่า คงไม่มีใครไปสนับสนุนการเปิดบ่อนแบบเสรี ใครใคร่เปิดก็เปิดกันโจ่งครึ่ม อย่างกรณีบ่อนกุ้งปลากลางเมืองภูเก็ต แบบนั้นมันก็แย่ไปหน่อย เพราะปล่อยให้เข้าไปเล่นกันเสียงานเสียการ ไม่ต้องไปทำมาค้าขายกันเลย

          รัฐควรแก้กฎหมายเกี่ยวกับการพนันให้มีลักษณะที่ผ่อนปรน และไม่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจล้นฟ้าในการไปตามจับคนเล่นไพ่ตาละห้าบาทสิบบาทที่เล่นกันในหมู่ญาติ เพื่อนฝูง เล่นตามเทศกาลรวมญาติปีใหม่ สงกรานต์ หรือล้อมวงนั่งเล่นกันในงานศพเป็นเพื่อนเจ้าภาพ(กรณีไม่ใช้วัดจัดงานศพ) เป็นต้น

          แต่ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมุ่งมั่นเอาเป็นเอาตายเสียเหลือเกิน กับการจับคนเล่นพนัน ไล่ล่ากันยิ่งกว่าโจรปล้นร้านทองหรือพ่อค้ายาบ้า ทั้งที่อัตราโทษพนันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรนักแค่ปรับเท่านั้น แต่เราก็เคยเห็นเป็นข่าวกันว่า หนีจนไปเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรง บาดเจ็บ เสียชีวิตก็มี

           และถ้าจะมีบ่อนถูกกฎหมาย ก็ต้องเป็นลักษณะของที่จำกัด และควบคุมคนเล่น ไม่ให้ไปได้อย่างเสรี สะดวกสบาย ต้องแสดงเครดิต มีเงินพอที่จะเข้าไปเล่น จำกัดวงเงิน หรืออื่น ๆ เพื่อควบคุมคนเข้าบ่อน ไม่ให้ส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการยืนกระต่ายขาเดียวแล้วมองดูเพื่อนบ้านดูดนักพนันจากบ้านเราและเอาเงินของประเทศเราไปสร้างความร่ำรวยให้ประเทศเขาถ่ายเดียว