มอ.ภูเก็ต ผนึกยักษ์ใหญ่การขนส่งทางราง จับมือกับเทศบาลป่าตองพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทุ่มงบสองแสนล้านหลังโควิด-19
มอ.ภูเก็ต ผนึกยักษ์ใหญ่การขนส่งทางราง
จับมือกับเทศบาลป่าตองพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
ทุ่มงบสองแสนล้านหลังโควิด-19
วันที่ 26 ม.ค.64 เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์ประสานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต เป็นประธาน การลงนามข้อตกลงร่วมมือพัฒนาภูเก็ตเป็นเมืองเขียวอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวและด้านคมนาคมขนส่งเขียว พร้อมลงนามความร่วมมือ 5 ฝ่าย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เทศบาลเมืองป่าตอง โดย นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด บริษัท พรีีเซ้นต์ เทคโนโลยี จำกัด และ กฎบัตรสุขภาพ สมาคมการผังเมืองไทย
รศ.ศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม กล่าวว่า การลงนามพัฒนาเมืองเขียวอัจฉริยะในครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์และเป้าหมายของมหาวิทยาลัยในการสร้างมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนพลิกฟื้นเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ด้วยการเตรียมการวางแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวรองรับผู้เยี่ยมเยือนกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตหลังจากการระบาดของโควิดลดลงและรัฐบาลได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย
ในการลงทุนระบบคมนาคมขนส่งเขียวนั้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและจังหวัดภูเก็ตที่ต้องการพัฒนาระบบการขนส่งและการเดินทางที่ไม่สร้างปัญหาสภาพแวดล้อม ตนเองเห็นด้วยที่เมืองป่าตองจะมีระบบขนส่งมวลชนระบบไฟฟ้าให้บริการเชื่อมต่อภายในพื้นที่ เป็นการลดมลภาวะและสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและทรัพยากร เพื่อให้เทศบาลเมืองป่าตองและนักลงทุนเอกชนได้พัฒนาจนบรรลุวัตถุประสงค์
ทางด้าน นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด ได้ยืนยันความพร้อมการสนับสนุนการศึกษา เพื่อวางแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวและด้านคมนาคมขนส่งเขียว นายมารุต กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองป่าตองและกฎบัตรไทยสำรวจลักษณะทางกายภาพพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เน้นพื้นที่เทศบาลเมืองป่าตอง เพื่อเตรียมแผนการลงทุนเคเบิลคาร์และชิงช้าสวรรค์พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง เช่น สกายวอร์กและลิฟท์แก้ว บนพื้นที่หลายบริเวณ เพื่อให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมทัศนียภาพมุมสูงของหาดป่าตองและพื้นที่โดยรอบ พบว่าเมืองป่าตองมีพื้นที่หลายบริเวณที่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้และมีศักยภาพระดับสูง ในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด
หลังจากการลงนามในวันนี้แล้ว เอเอ็มอาร์ เอเซีย จะร่วมกับเทศบาลเมืองป่าตองและกฎบัตรไทยกำหนดตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทางของเคเบิลคาร์ ชิงช้าสวรรค์ และสกายวอร์ก โดยจะนำข้อมูลที่ได้มารับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ให้ประชาชนชาวป่าตองและผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นผู้เลือกตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทางที่เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ สนับสนุนการประกอบการของผู้ประกอบการเดิม ไม่บดบังทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติของเมืองป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดและของประเทศ
ในส่วนของระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจาก เอเอ็มอาร์ เอเซีย ได้มีแผนที่จะศึกษาและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charger เพื่อติดตั้ง EV Charger ในพื้นที่เกาะภูเก็ต โดยจะศึกษาเชิงลึกเพื่อดำเนินการในพื้นที่ของเทศบาลเมืองป่าตองก่อนเป็นอันดับแรกในปี 2564 ส่วนระบบขนส่งมวลชนนั้น เอเอ็มอาร์ เอเซีย จะหารือเพิ่มเติมกับเทศบาลเมืองป่าตองและสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขออนุญาตเส้นทางซึ่งจะร่วมกับผู้ประกอบการขนส่งมวลชนที่ดำเนินการอยู่แล้ว รวมทั้งผู้ให้บริการรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซด์รับจ้างโดยจะพิจารณาตำแหน่งจุดจอดรถหรือป้ายจอดรถที่ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ให้บริการเดิม สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความงดงามและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังเมืองป่าตอง สำหรับรูปแบบการให้บริการจะมีมาตรฐานเช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีทองที่ เอเอ็มอาร์ เอเซีย ร่วมกับบีทีเอสให้บริการ ทั้งบริการบัตรโดยสารดิจิทัล ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่จอดรถอัจฉริยะ หรือบริการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด
ในขณะที่ นายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย ในฐานะกรรมการและเลขานุการกฎบัตรไทยและกฎบัตรสุขภาพให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจ เป็นการระดมทรัพยากรจากมหาวิทยาลัย เทศบาลและบริษัทผู้ลงทุนเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิดให้กับจังหวัดภูเก็ต โดยกฎบัตรสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะเป็นผู้ประสานการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน การประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้ร่วมกันขับเคลื่อนการลงทุนทางเศรษฐกิจ โดยใช้ฐานการวิจัยองค์ความรู้ของกฎบัตรในการสร้างสรรค์งานออกแบบ นวัตกรรม และรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ของเมืองที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและสภาวะ new normal ที่เกิดขึ้นหลังโควิด คาดว่าไในเดือนพฤษภาคม 2564 หลังจากเทศบาลและบริษัทฯ ได้สรุปทางเลือกตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทางของเคเบิลคาร์และระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าแล้ว กฎบัตรฯ จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพิจารณาเส้นทางและที่ตั้งอย่างละเอียด และให้เสียงส่วนใหญ่เป็นผู้สรุปรูปแบบการพัฒนา ตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทาง ต่อจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนการขออนุญาต การออกแบบรายละเอียดและการเตรียมการก่อสร้าง ซึ่งจากการหารือไม่เป็นทางการ การลงทุนการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนภายในเขตเทศบาลเมืองป่าตองและ EV Charger น่าจะเริ่มได้ก่อนในช่วงปลายปี 2564 กรณี ที่ได้รับอนุญาตเส้นทางและประชาชนให้การสนับสนุน ส่วนการก่อสร้างเคเบิลคาร์และชิงช้าสวรรค์อาจต้องรอการประกาศใช้ผังเมืองรวมเมืองภูเก็ตฉบับใหม่ในช่วงต้นปี 2565 จึงจะสามารถดำเนินการขออนุญาตและก่อสร้างได้
สำหรับ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จังหวัดภูเก็ต จะได้รับจากการลงทุนนั้นจากการศึกษาเบื้องต้น พบว่าการพัฒนาเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองเขียวอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวและด้านคมนาคมขนส่งเขียวจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลในเชิงบวกต่อการยกระดับทางเศรษฐกิจ การมีสุขภาพและคุณภาพที่ดีของประชาชน