รมว.ท่องเที่ยวฯเข้าภูเก็ต เจอแต่ปัญหา108ค้างเก่า
ช่วงโลว์ซีซันที่ผ่านมา สถานการณ์ท่องเที่ยวภูเก็ตประสบวิกฤต นักท่องเที่ยวหดหาย ทำแหล่งท่องเที่ยว และโรงแรมซบเซาเงียบกว่าทุกปีที่ผ่านมา แหล่งบันเทิงย่านป่าตองต่างพากันปิดตาย เลิกกิจการ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต วิเคราะห์แนวโน้มวิกฤตจะลากยาวไปถึงไฮซีซันนี้ จะอยู่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่อง จากปัจจัยลบเศรษฐกิจโลกถดถอย เงินบาทแข็ง เตรียมจัดทัพไปโรดโชว์ 7 ประเทศ ต้อนนักท่องเที่ยวกลับ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อม ด้านรมว.ท่องเที่ยวฯบินด่วนเข้าภูเก็ตนัดพร้อมทุกภาคส่วนรับฟังปัญหา สรุปมีแต่ข้อเสนอให้แก้ 108 ปัญหาเดิมๆ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย ไปจนถึงให้แหล่งบันเทิงเปิดเกินเวลา หรือโต้รุ่ง ด้านร่มเตียงชายหาดขอขยายโซนนิ่งทำกิน บอกอดอยากปากแห้งถึงขั้นตรอมใจตายหลายราย
ว่าปัจจัยทำท่องเที่ยวซบ
เพราะเศรษฐกิจโลกวิกฤต
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงภาพรวมการท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงโลว์ซีซันปีนี้ว่า โดยภาพรวมแล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตอยู่ในภาวะถดถอยจากช่วงไฮซีซัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ในช่วงโลว์ซีซันของทุกปี ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลง ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอยู่ในภาวะที่ต่ำและเงียบเหงากว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา จากการดูตัวเลขการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวในโรงแรมต่างๆ ในภูเก็ต ตัวเลขในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ตัวเลขการจองห้องพักต่ำมากๆ และในช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ตัวเลขการจองห้องพักกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ที่ยังเป็นกังวล และตัวเลขการจองห้องพักค่อนข้างต่ำมากๆ คือ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม การจองห้องพักของนักท่องเที่ยวนั้น ในปัจจุบันจะจองในระยะสั้นมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมการจองห้องพักได้ ซึ่งจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ต่ำมากๆ ในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จำเป็นที่จะต้องกระตุ้นตลาดให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตมากขึ้น เพราะช่วงดังกล่าวโรงเรียนนานาชาติเปิดเทอมแล้ว ในขณะที่โรงเรียนไทยยังไม่ปิดเทอม จึงจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นตลาดในช่วงเดือนกันยายนเพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น
“หากเราสามารถประคับประคองให้พ้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราการจองห้องพักต่ำมากๆ ในขณะนี้ไปได้ เชื่อว่าหลังเดือนตุลาคม สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตน่าที่จะดีขึ้น” นายภูมิกิตต์ กล่าว และว่า
สำหรับแนวโน้มการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปนั้น ผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยวในภูเก็ต ยังกังวลถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันของปีนี้ และไม่แน่ใจว่าการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันจะคึกคักเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะมีปัจจัยลบ 2-3 ปัจจัยที่จะทำให้การท่องเที่ยวซบเซาลงได้ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึง คือปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะถดถอยอยู่ในขณะนี้ ทั้งจากสงครามการค้า ความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย และเศรษฐกิจในยุโรป รวมไปถึงค่าเงินบาทที่แข็ง ซึ่งเรื่องนี้ทางสมาคมฯ ไม่ได้บอกว่าค่าเงินอ่อนจะดี แม้ว่าค่าเงินบาทอ่อนจะดีต่อการท่องเที่ยวก็จริง แต่อาจจะไม่ดีกับธุรกิจในภาคส่วนอื่นก็ได้
ชี้ทางออกปลุกท่องเที่ยว
3 ปัจจัยต้องเร่งฟื้นฟู
สิ่งที่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวของดำเนินการ คือ จะต้องมีกระบวนการในการจัดการไม่ให้เงินบาทแข็งไปมากกว่านี้ เพราะหากเงินบาทแข็งมากกว่านี้ จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต้องจ่ายแพงขึ้นทันทีประมาณ 15% โดยที่ผู้ประกอบการไม่ได้ปรับราคาค่าบริการแต่อย่างใด
และปัจจัยภายในซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถบริหารจัดการและควบคุมได้ภายในจังหวัดภูเก็ต 3 เรื่องหลักๆ คือ ความปลอดภัย สุขอนามัยของนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ต และความพร้อมของด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคของภูเก็ต เพราะต่อให้เงินบาทอ่อนเอื้อต่อการท่องเที่ยวอย่างไร และปัจจัยภายนอกสงบ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตแล้ว ต้องพบปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่พร้อม ไม่มีความปลอดภัย ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จำเป็นที่ภูเก็ตจะต้องเข้ามาบริหารจัดการปัจจัยภายในให้ยั่งยืน และพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวอีกว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ไม่มั่นใจว่าในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึงในช่วงปลายปีนี้ จากการประเมินสถานการณ์คิดว่าน่าจะอยู่ในภาวะทรงตัวจากปีที่แล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต 14.4 ล้านคน และปีนี้ในช่วงครึ่งปีแรกภาพรวมตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3% โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ตัวเลขเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับการส่งเสริมตลาดดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตนั้น นายภูมิกิตติ์ กล่าวว่า สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้วางแผนในการทำตลาดทั้งต่างประเทศ และในประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศนั้นได้วางแผนในการเดินทางโรดโชว์ส่งเสริมการขายประมาณ 7 ประเทศ 13 เมือง ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดึงนักท่องเที่ยวมาภูเก็ตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย จีน เซาท์แอฟริกา งาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี งาน ITB เอเชีย ที่ประเทศสิงคโปร์ รวมไปถึงส่งเสริมตลาดในประเทศ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งการออกไปทำตลาดนั้นถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากสำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวถดถอย และคู่แข่งทางการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เวียดนาม ที่ขณะนี้มาแรงมากทั้งตลาดยุโรปและจีน
“ส่วนตลาดจีนนั้น ตัวเลขที่เข้าประเทศไทยลดลงอยู่แล้ว พบตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาภูเก็ตแม้จะลดลง แต่ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเห็นอย่างชัดเจน โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแบบกรุ๊ปทัวร์ลดลงหลังจากเหตุเรือล่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มาจากเมืองรองของจีน และมาโดยชาร์เตอร์ไฟลต์ เมื่อมีการยกเลิกชาร์เตอร์ไฟลต์ ทำให้นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์หายไป จากการไม่มั่นใจด้านความปลอดภัย แต่เราจะเห็นว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเอง หรือกลุ่ม FIT เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่เดินทางมาท่องเที่ยวเอง จองโรงแรมเอง เที่ยวด้วยตัวเอง พักโรงแรมระดับ 5 ดาว และมีกำลังซื้อสูง” นายภูมิกิตติ์ กล่าวในที่สุด
กลุ่มโรงแรมจัดประชุม
“ฟิสท์2019” ถกปัญหา
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่บลูทรี เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สมาคมโรงแรมภูเก็ต นายแอนโทนี่ ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต น.ส.วิไลพร ปิติมานะอารี รองประธานอาวุโส กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์โฮเทลเวิร์คส์ หัวเรือใหญ่ PHIST 2019 นายไมเคิล ไอลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลูทรี ภูเก็ต จัดแถลงข่าวเตรียมขับเคลื่อนสู่วาระแห่งความยั่งยืน เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพงาน PHIST 2019 (Phuket Hotels for Islands Sustaining Tourism) หรือ “ฟิสท์” งานประชุมสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี ที่รวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต่อสู้ความเสื่อมโทรมสิ่งแวดล้อมบนเกาะทั่วภูมิภาค
PHIST ประจำปี 2019 จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสมาคมโรงแรมภูเก็ต, ซีไนน์ โฮเทล เวิร์คส์ (C9 Hotelworks) และกรีนวิว (Greenview) เป็นการประชุม 1 วันเต็มที่สามารถเข้าร่วมฟรี จะมีขึ้นในวันที่ 23 กันยายน 2562 ณ โรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากถึง 1,000 คน จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมชั้นนำ ผู้ค้าปลีก และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ จากทั่วทั้งภูมิภาคมากกว่า 70 โรงแรม เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านั้น
ในปีนี้มุ่งเน้นไปที่ “การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ต” และ “การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนจะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวได้อย่างไร” ซึ่งได้รับเกียรติจาก นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต มาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาพรวมแผนและกลยุทธ์ของ ททท. ที่จะสร้างความมั่นใจในอนาคตในระยะยาวของเกาะภูเก็ต โดยจับกลุ่มเป้าหมายระดับบน และนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์โฮเทลเวิร์คส์ หัวเรือใหญ่ PHIST 2019 เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวมวลชนเป็นอย่างไร ห้องพักโรงแรมใหม่มากกว่า 15,000 ห้องถูกกำหนดให้เข้าสู่ตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ใครจะเป็นผู้ใช้บริการ ปัญหาที่ภูเก็ตกำลังเผชิญนี้ ไม่ต่างจากจุดหมายปลายทางของเกาะอื่นๆ ในภูมิภาค ที่จำเป็นจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และความมั่นใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสำหรับคนรุ่นต่อไป
ด้าน น.ส.วิไลพร ปิติมานะอารี รองประธานอาวุโสกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งประกาศปฏิญญางดมอบถุงพลาสติกแก่ลูกค้า ในงาน PHIST ปีที่แล้ว ได้เปิดเผยว่า สามารถลดถุงพลาสติกได้มากกว่า 4 ล้านถุงต่อเดือน
ผู้เข้าร่วมงาน PHIST 2019 ในปีนี้จะได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมและเวิร์คชอปกับ ททท. เพื่อกำหนดแนวคิดและเรียนรู้วิธีการจัดการการท่องเที่ยวเชิงมวลบนเกาะในแต่ละจุดหมายปลายทางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในตอนท้าย ผู้เข้าร่วมจะได้ลงนามใน “Phuket Pledge” หรือสัญญาความร่วมมือเพื่อการจัดการที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วมกัน
“Phuket Pledge” ที่เกิดขึ้นในงาน PHIST 2018 ส่งผลให้โรงแรมในสมาคมโรงแรมภูเก็ต จำนวน 71 แห่ง ตกลงที่จะเลิกใช้ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในโรงแรม ซึ่งทำให้สามารถลดการใช้ถึง 51% ในปี 2562 และประหยัดกว่า 4.4 ล้านขวด นอกจากนี้ สมาคมโรงแรมภูเก็ตจะเปิดตัว Great Big Green Guide ซึ่งเป็นแนวคิดและแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้น PHIST 2019 จะมุ่งเน้นที่จะมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ ด้วยเวิร์คชอปและกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ภายในงานประชุมเสวนาจะมีการประกวดรอบชิงชนะเลิศของแคมเปญ Green Beat 60 ซึ่งเป็นการประกวดการสร้างภาพยนตร์ที่เชิญชวนนักสู้ด้านสิ่งแวดล้อมทุกวัยให้ได้แชร์แนวคิดในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
“PHIST 2019 ปีนี้เราต้องการผลักดันความยั่งยืนสู่วาระสูงสุด โดยจัดการกับประเด็นสำคัญที่เกาะทั่วเอเชียกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือ การเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น เราต้องการให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้สัมผัสกับจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องประสบความสำเร็จโดยไม่ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม” นายแอนโทนี่ ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าว
สำหรับผู้สนับสนุนหลักในปีนี้ของ PHIST 2019 คือ บลูทรี ภูเก็ต (Blue Tree Phuket) สวนน้ำ และแหล่งบันเทิงไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวครอบครัวระดับชั้นนำของเกาะ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 140 ไร่ มีบีชคลับ 4 ชั้น โซนออกกำลังกาย คิดส์คลับ พื้นที่ค้าปลีกหลายแห่ง และร้านอาหาร 17 แห่ง พร้อมด้วยคริสตัลลากูนขนาดกลาง โดย บลูทรี ภูเก็ต เป็นตัวแทนของการพัฒนาการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่คำนึงถึงความยั่งยืน สร้างความรับผิดชอบต่อพื้นดิน โดยใช้วิธีการขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและพลังงาน ในขณะเดียวกัน ก็ลดการใช้สารเคมีและลดของเสีย
ไมเคิล ไอลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลูทรี ภูเก็ต กล่าวปิดท้ายว่า บลูทรี ภูเก็ต มีความภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ PHIST 2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราที่จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคของเราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราใช้เวลา 2 ปีที่ผ่านมาในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและการพักผ่อนแบบครบวงจร ด้วยความรับผิดชอบและผลกระทบต่ำ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ร่วมงานกับสมาคมโรงแรมภูเก็ต เพื่อการอภิปรายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ภาครัฐ-เอกชนลงนาม
ฟื้นท่องเที่ยว3แนว ทาง
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมฯ และ นางสุพัตรา จารุอริยานนท์ อุปนายกฝ่ายบริหารกิจการภายใน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ลงนาม MOU สนับสนุนโครงการหลักสูตรบริหารจัดการโรงแรมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กับ ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดี และรองศาสตราจารย์ ดร.นิศศา ศิลปเสรฐ คณบดีวิทยาลัยการท่องเที่ยวนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อดำเนินโครงการอบรมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรม ประเมิน/ติดตามผลการดำเนินงาน และบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน โดยมีกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการ 1 ปี นับจากวันลงนามบันทึกข้อตกลง และให้เป็นไปตามเงื่อนไขในการสนับสนุนงบประมาณของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
โครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการโรงแรม จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารธุรกิจโรงแรมให้มีความรู้ในการบริหารจัดการโรงแรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นการส่งเสริมการประกอบธุรกิจโรงแรมให้มีประสิทธิภาพ หลักสูตรฝึกอบรมความรู้ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้บริหารโรงแรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็น 1 ใน 7 หน่วยงานที่ได้รับการรับรองในการจัดโครงการอบรมวิชาการบริหารจัดการโรงแรม ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมและกํากับธุรกิจโรงแรม กรมการปกครอง เรื่องกําหนดหลักเกณฑ์การรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมการบริหารจัดการโรงแรม ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 ซึ่งผู้ผ่านการอบรมจะได้รับวุฒิบัตรสามารถใช้ประกอบการจดแจ้งเป็นผู้จัดการโรงแรมตามกฎหมาย
จากนั้น นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ นางสุพัตรา จารุอริยานนท์ อุปนายกฝ่ายบริหารกิจการภายใน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ Dr.Yang Wenbo ผู้อำนวยการฝ่ายจีน สถาบันขงจื้อภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ นายกฤณภัช อัศวธีระ เลขานุการสถาบันขงจื้อภูเก็ต เพื่อร่วมมือทางวิชาการด้านภาษาจีน จัดการสอบวัดมาตรฐานความรู้ภาษาจีน และแลกเปลี่ยนการศึกษา พร้อมทำกิจกรรมทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันลงนาม
และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดย นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ นางสุพัตรา จารุอริยานนท์ อุปนายกฝ่ายบริหารกิจการภายใน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ นายอรุณ ลิลาพันธิสิทธิ ผู้จัดการแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานภูเก็ต ตัวแทน นายสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้บริหารสายการบินแอร์เอเซีย เพื่อส่งเสริมและร่วมมือด้านการตลาด การขาย และการประชาสัมพันธ์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และต่อสมาชิกของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อันเป็นภารกิจสำคัญของทั้ง 2 องค์กรจะร่วมมือกันในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ตอบสนองยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และของจังหวัดภูเก็ต ที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กลุ่มเป้าหมาย โดยดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ดังนี้
1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมด้านการตลาด การขาย และการประชาสัมพันธ์ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
2. เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงการตลาด และการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า เพื่อร่วมกันวางแผนกิจกรรมการตลาด การขาย และการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกต่อกลุ่มเป้าหมาย
3. สนับสนุนให้มีการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างองค์กร ในการออกแบบสินค้าทางด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องต่อกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการเชิญบุคลากรในแต่ละองค์กรร่วมให้ความรู้แก่สมาชิกในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ 4.สนับสนุนกิจกรรมหลากหมายมิติ ที่สามารถต่อยอดและสร้างมูลค่าเชิงการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
จัดคอนเสิร์ตใหญ่
ดึงนักท่องเที่ยวเข้า
เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าวงานการจัดคอนเสิร์ต “Amazing Thailand Presents The Iconic Phuket Music Festival” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเก็ต และสร้างความหลากหลายทางดนตรี ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต (Phuket Outdoor Arena) ร่วมกับ นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นางศิรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายกุลพงศ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีสเปซ ดิจิตอล จำกัด น.ส.วิไลพร ปิติมานะอารีย์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานปฏิบัติการสาขา เขต 8 ภูเก็ต Central Phuket นางอรสา โตสว่าง ผู้อำนวยการ Market Intelligence บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ
คอนเสิร์ต “Amazing Thailand Presents The Iconic Phuket Music Festival” เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้กำหนดแผนงานกิจกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Events) ประจำปีงบประมาณ 2562 ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างจุดขาย และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก รวมถึงเป็นการส่งเสริมการแสดงดนตรีของศิลปินไทย และต่างชาติ เป็นการพัฒนากิจกรรมสู่ระดับ World Class Events โดยได้มอบหมายให้ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต บมจ.ไทยเวฟเวอเรจ และพันธมิตรอีกมากมาย
การจัดงานดังกล่าว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาเลือกให้บริษัท ทีสเปซ ดิจิตอล จำกัด เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เบิร์ด กุลพงศ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีสเปซ ดิจิตอล จำกัด เผยว่า เทศกาลดนตรีที่จะเกิดขึ้น ผมพูดได้เลยว่าใครที่เป็นแฟนเพลงของ ไมเคิล แจ็กสัน หรือ มาดอนน่า ก็ดี ไม่อยากให้พลาด เพราะเขามาเต็ม จัดเต็มทั้งแดนเซอร์ คอสตูม อลังการมาก ด้านศิลปินไทยก็เป็นสุดยอดศิลปินที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าผู้ชมจะต้องเต็มอิ่มมาก และที่สำคัญผมอยากกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย อยากฝากเทศกาลดนตรีดีๆ ครั้งนี้ อยากให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้มาร่วมสนุกไปด้วยกัน
ผู้ชมจะได้เต็มอิ่มไปกับดนตรีสไตล์ป็อปแดนซ์จากศิลปินทั้งไทยและเทศมากมาย เช่น วง Who’s Bad สุดยอด Tribute band ชื่อดังจากต่างประเทศของราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็กสัน ซึ่งการแสดงของเขาสะกดสายตาคนมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา จีน บราซิล โรมาเนีย ต่อด้วยอีกหนึ่งสุดยอด Tribute band อย่าง IMMACULATE MADONNA จะนำคุณสู่ยานแม่นั่งไทม์แมชชีนทะลุกาลเวลาผ่านเพลงฮิตสุดคลาสสิดที่คุณคุ้นหูของราชินีเพลงป็อปอย่าง มาดอนน่า ทางด้านศิลปินไทยเตรียมพบกับตัวพ่อแห่งวงการดนตรี เช่น บี พีระพัฒน์, มิสเตอร์ทีม, ETC และ พาราด็อกซ์ เป็นต้น ร่วมด้วยดีเจชั้นนำจะมาสร้างความสนุกแบบหยุดไม่อยู่
“Amazing Thailand Presents The Iconic Phuket Music Festival” จัดขึ้นในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต (Phuket Outdoor Area) ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป บัตรราคา 300 บาท ซื้อบัตรได้ที่ WWW.ICONICPHUKETMUSIC.COM รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาลป่าตอง
นอกจากนี้ทางสายการบินแอร์เอเชียยังเข้ามาสนับสนุนตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษสำหรับเส้นทางในประเทศที่จะเดินทางมางานคอนเสิร์ตดังกล่าว 10% โดยสามารถจองได้ระหว่างวันที่ 29 ก.ค.- 4 ส.ค.2562 นี้ และสามารถเดินทางได้ก่อนและหลังคอนเสริต ระหว่างวันที่ 20 – 30 ส.ค.2562 โดยสามารถจองตั๋วได้ผ่านทางเว็ปไซต์แอร์เอเชีย โดยพิมพ์คำว่า “ICONIC10” .ในช่อง Promocoed
รมว.ท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต
ว่าสถานการณ์ไม่ซบจริง
เมื่อบ่ายวันที่ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับทราบสถาการณ์ และรับฟังปัญหาทางการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ททท.สำนักงานภูเก็ต ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ โรงแรมภูเก็ตโบ๊ท ลากูน เพื่อรับทราบปัญหาทางด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือยอชต์
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อมารับฟังปัญหาอุปสรรคจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งทางทะเลทางบก ผู้ประกอบธุรกิจการโรงแรม และที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปหารือและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการแก้ไข และขับเคลื่อน งานด้านการท่องเที่ยว ให้บรรลุ และเกิดประสิทธิผล เนื่องจากภาคบริการและท่องเที่ยวเป็นภาคหลักที่จะนำเงินเข้าประเทศ รัฐบาลตั้งเป้าในอีก 2 ปีข้างหน้า ต้องให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว 30% ของ GDP ดังนั้นทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จึงต้องช่วยหาแนวทางและขับเคลื่อนเพื่อให้ธุรกิจการท่องเที่ยวมีความเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง
ภายหลังจากที่ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว นายพิพัฒน์ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนว่า จากการลงพื้นที่ของภูเก็ตในครั้งนี้ โดยภาพรวมแล้ว ภูเก็ตไม่ได้ซบเซา เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง อาจจะซบเซาลงบ้างแต่ไม่มากดังที่เป็นข่าว โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตมากขึ้น ข้อมูลจากการท่าอากาศยานภูเก็ต รายงานว่า มีเครื่องบินเช่าเหมาลำเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
กระทรวงการท่องเที่ยวพร้อมที่จะสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามันมีการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 365 วัน ไม่มีช่วงไฮซีซั่นหรือช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ทางจังหวัดนำเสนอ ทั้งในเรื่องของการสร้างท่าจอดเรือ รองรับเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่เรือครุยส์ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเล (Hub) มีเส้นทางท่องเที่ยวจากภูเก็ต ปีนัง มะละกา สิงคโปร์ กลับมาที่สงขลา และพัทยา ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยวแบบนี้จะทำให้ประเทศไทยเราได้รับผลประโยชน์ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย
“ประเทศไทยมีความพร้อม ที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี” นายพิพัฒน์ กล่าว
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินทางต่อไปเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ฟุตบอล 7 คน สานสัมพันธ์กะตะกะรน คัพ ต้านยาเสพติด ครั้งที่ 13 ประจำปี 2562 ณ สนามกีฬาเทิดพระเกียรติ นวมินทร์ ตำบลกะรน และเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดพร้อมชมการสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ของทีมไลฟ์การ์ด ณ บริเวณหาดป่าตอง และพบปะกับนักท่องเที่ยว ที่ซอยบางลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ท่ามกลางบรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคัก มีนักท่องเที่ยวออกมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก พร้อมกับกล่าวว่า
จากการที่ได้พูดคุยกับทางไลฟ์การ์ดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทราบว่าไลฟ์การ์ดที่ภูเก็ตมีความเข้มแข็งมาก สามารถให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุจมน้ำได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ตนั้น ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งในเรื่องของไลฟ์การ์ดนั้น ทางกระทรวงจะพิจารณาในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในเรื่องของการฝึกอบรมไลฟ์การด์มาดูแลความปลอดภัย โดยในส่วนของไลฟ์การ์ดนั้นไม่จำเป็นจะต้องมีเฉพาะชายหาดเท่านั้น แต่สามารถที่จะมีตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงด้วย
รมว.ท่องเที่ยวนัดพร้อม
จับเข่าคุยทุกประเด็น
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส.ส.อุทัยธานี และคณะ ประชุมหารือและรับฟังข้อคิดเห็นในการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธัญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.วิศาล พันธ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นางศิระวี วาเลาะห์ ผอ.สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย อดีตประธานกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา นายภูริศ มาศวงศา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวเขตอันดามัน ดร.ชยานนท์ ภู่เจริญ อาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต หอการค้าภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สภาอุตสาหกรรมภูเก็ต สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง ตำรวจท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม
ทั้งเพื่อพบปะผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และพังงา รวมถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำเสนอไปยังกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดร.ชยานนท์ ภู่เจริญ อาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้เสนอข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวในภูเก็ต โดยพบว่านักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตร้อยละ 33 มาแล้วกลับมาอีก จากที่คนภูเก็ตมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ต้นทุนทางวัฒนธรรม จากคุณภาพและความหลากหลายของที่พัก แต่ก็มีสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการให้แก้ไข ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัยด้านคมนาคม ความเชื่อมโยงของระบบคมนาคม ความสะอาดของชายหาด สุขอนามัยด้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงราคาค่าโดยสารรถรับจ้างทั่วไป เป็นต้น
และพบว่านักท่องเที่ยวร้อยละ 90 ที่มาภูเก็ตเพราะหาดทราย ชายทะเล ดังนั้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาแล้วมาอีกครั้งที่ 3 เป็นต้นไป ไม่รู้สึกเบื่อกับการมาภูเก็ต ภูเก็ตจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งจูงใจด้านอื่นๆ รวมอยู่ด้วย และในส่วนของค่าเงินบาทที่แข็งนั้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่ทำให้ต้นทุนการท่องเที่ยวในภูเก็ตของนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น
ผู้ประกอบการเสนอแก้
ล้วนสารพัดปัญหาเดิมๆ
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนในภูเก็ตได้มีการนำเสนอข้อมูลและปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สามารถรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้ทัน ปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหามัคคุเทศก์ ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลง ปัญหาสล็อตของสนามบินภูเก็ต ปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงผลักดันเกิดสนามบินที่พังงา และปัญหาการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะสิมิลัน เป็นต้น
โดย นายรังสิมัน กิ่งแก้ว สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะต้องได้รับการดูแล และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐาน ความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว ปัญหาสล็อตของสนามบินภูเก็ตที่เต็มไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินจากบางเมืองที่ต้องการบินมาภูเก็ตได้ เช่น ตลาดอินเดียยังต้องการมาภูเก็ตอีกมาก แต่ไม่สามารถที่จะเพิ่มเที่ยวบินจากอีก 5-6 เมืองได้จากสล็อตสนามบินภูเก็ตเต็ม รวมไปถึงปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการทำตลาดทั้งในเรื่องของสปอร์ตวีเว้นท์ที่ภูเก็ตมีศักยภาพสูงมาก ตลาด MICE ก็มีศักยภาพ แต่ยังขาดศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ จึงอยากผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในภูเก็ต
“น่าที่จะนำรูปแบบแซนด์บ็อกเข้ามาแก้ปัญหาในหลายเรื่องของภูเก็ต โดยเริ่มต้นจากการเปิด-ปิดของสถานบริการที่หาดป่าตอง ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว สถานบริการน่าที่จะเปิด-ปิด แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ”
ตัวเลขผ่านสนามบินไม่ลด
แต่เข้าพักโรงแรมลดลง
ด้าน นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ภาพรวมนักท่องเที่ยวที่เข้าภูเก็ตตัวเลขที่ผ่านสนามบินภูเก็ตไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด แต่ที่ลดลงคืออัตราการเข้าพักโรงแรม เนื่องจากมีโรงแรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวต้องถูกเฉลี่ยไปตามโรงแรมต่างๆ ทำให้อัตราเข้าพักต่ำลงเรื่อยๆ เฉลี่ยวันพักลดลงจาก 12 คืน เหลือเพียง 4 คืน ทำให้ผลประกอบการย่ำแย่ตามไปด้วย แต่ก็ยังมีแรงจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น
ทำให้ภูเก็ตต้องประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง ที่มีไม่เพียงพอทำให้การจราจรติดขัด ถนนหลายสายถูกนำเสนอของบประมาณแต่ก็ยังไม่ได้รับการจัดสรร ติดปัญหาเรื่อง EIA ปัญหาเรื่องงบประมาณ และอีกหลายๆเรื่อง รวมไปถึงการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ที่ขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตและทางชลประทานมีแผนในการดำเนินการแต่ติดขัดในเรื่องงบประมาณ
ขณะที่ น.ส.นันทิดา อติเศรษฐ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ในส่วนของสมาคมท่องเที่ยวพังงาอยากจะฝากให้ผลักดัน 2 เรื่อง คือ สนามบินที่โคกกลอยที่ขณะนี้อยู่ในขั้นการพิจารณาเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวของพังงาและอันดามัน ที่ขณะนี้สนามบินภูเก็ตไม่สามารถที่จะพัฒนาเพิ่มได้อีก และปัญหาการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะสิมิลัน ที่กรมอุทยานฯกำหนดให้ขึ้นเกาะสิมิลันได้วันละ 3,225 คน ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนมาก และได้มีการฟ้องศาลปกครอง ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครอง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น เป็นหนึ่งในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา ที่รัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนต่อไป และแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยว การมารับฟังปัญหาของภูเก็ตและพังงาในวันนี้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้เลยทางกระทรวงก็จะเข้าไปดำเนินการ ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่นๆ ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯจะได้ประสานกับทางกระทรวงนั้นๆ ต่อไป
อย่างกรณีของการเรียกร้องให้สถานบริการที่ป่าตองเปิดได้เกินเวลาที่กฎหมายกำหนดให้เหมาะสมกับเมืองท่องเที่ยว เรื่องนี้ตนได้หารือกระทรวงที่เกี่ยวข้องแล้ว สำหรับพิจารณาอยู่ว่ามีพื้นที่ใดบ้างในประเทศไทยที่จะพิจารณาให้ปิดตี 2 หรือปิดตี 4 ซึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ทุกเมืองจะได้รับการพิจารณาเท่าเทียมกัน และเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การรับฟังปัญหาทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตในวันนี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตนและคณะจะเดินทางมารับฟังปัญหาการท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนในภูเก็ตรวบรวมปัญหาที่จะนำเสนอพร้อมกับส่งรายละเอียดเบื้องต้นไปยังกระทรวงท่องเที่ยว เพื่อที่จะได้ประสานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการเชิญมาร่วมประชุมรับทราบปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป
ร่มเตียงขอขยายโซนนิ่ง
อดอยากถึงขั้นตรอมใจตาย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา นายอำเพียร เถื่อนถิ่น ประธานวิสาหกิจร่มเตียงหาดป่าตอง นายมนัส เย็นจิต ประธานวิสาหกิจร่มเตียงหาดกะรน พร้อมด้วย ผู้ประกอบการร่มเตียงจากหาดต่างๆ ทุกหาดในภูเก็ต รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เดินทางมาหารือและหาแนวทางพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ทางรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเพิ่มพื้นที่สำหรับให้บริการร่มเตียงบนชายหาดเพิ่มขึ้นจาก 10% ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นที่ความต้องการมีสูงมาก โดยในเบื้องต้นได้ขอให้ทางผู้ที่เกี่ยวของพิจารณาเพิ่มพื้นที่ประมาณ 50% ของชายหาด แต่ทั้งนี้จะเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหนนั้นให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รับหนังสือและกล่าวกับทางผู้ประกอบการว่า การดำเนินการบนชายหาดนั้นจะต้องดำเนินการไปตามระเบียบและกฎหมายกำหนด ส่วนจะเพิ่มได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาถึงความเหมาะสม
นายอำเพียร เถื่อนถิ่น ประธานวิสาหกิจร่มเตียงหาดป่าตอง และ นายมนัส เย็นจิต ประธานวิสาหกิจร่มเตียงหาดกะรน กล่าวว่า ที่กลุ่มผู้ประกอบการร่มเตียงในภูเก็ตทุกหาดรวมตัวกันมายื่นหนังสือในวันนี้ เนื่องจากทุกคนได้รับความเดือดร้อน รายได้ที่เกิดขึ้นจากการให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดเพียง 10%นั้นไม่เพียงพอในการเลี้ยงชีพและเลี้ยงครอบครัว และที่สำคัญพื้นที่ 10% ไม่เพียงพอต่อการให้บริการนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวต้องการใช้บริการจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิ่มพื้นที่ชายหาดให้ผู้ประกอบการได้ทำการหากินเพิ่มขึ้น
“ตอนนี้ผู้ประกอบการร่มเตียงได้รับความเดือดร้อนมาก จากเมื่อก่อนที่มีรายได้ดีในช่วงไฮซีซั่นที่เอามาจุนเจือรายได้ในช่วงโลว์ซีซั่น พอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ตลอดทั้งปี แต่มาตอนนี้รายได้ในช่วงไฮซีซั่น ทำให้เดือดร้อนกันมาก เราทำร่มเตียงบนชายหาดไม่ได้หวังจะร่ำรวยอะไร หวังเพียงพอเลี้ยงชีพและเลี้ยงครอบครัวเท่านั้นเอง ทุกวันนี้รอวันตายเท่านั้น หากยังไม่พิจารณาเพิ่มพื้นที่ให้ประกอบการ” นายมนัส เย็นจิต ประธานวิสาหกิจร่มเตียงหาดกะรน กล่าวและว่า
แต่ที่ยังทนอยู่กันถึงทุกวันนี้ แม้ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ได้พยายามที่จะให้ร่มเตียงหมดไปจากชายหาด โดยการกดดันให้แค่ร่มกับเสื่อ ให้ร่มกับเบาะ แต่ทุกคนก็ยังยืนยันที่จะทำอาชีพร่มเตียงบนชายหาด ในสมัยนั้นผู้ประกอบการได้ไปร้องเรียนไปยังกองทัพภาคที่ 4 จึงได้ร่มและเตียงมาให้บริการ คน 17 คนอยู่ในพื้นที่ให้บริการแค่ กว้าง 70 เมตร ยาว 20 เมตร รวมทั้งนวดชายหาดอีก 20 กว่าคน มันแออัดและลำบากๆ แต่ก็ต้องจำใจทำกันเพราะทำอาชีพนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
“ผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดเดือดร้อนมาก ตรอมใจตายก็มีแล้วตั้งหลายคน ผูกคอตายไปก็มีแล้ว พวกเราลำบากมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว หลังจากจัดระเบียบชายหาด ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด แม้แต่ชายร่มก็เลยออกไปไม่ได้ และทุกคนจะต้องทำเพียงอาชีพเดียวเท่านั้น” นายมนัส กล่าวและว่า
สำหรับผู้ประกอบการร่มเตียงในภูเก็ต ที่หาดกะรนมีทั้งหมด 119 ราย หาดป่าตอง 60 ราย หาดราไวย์ 12 ราย หาดกมลา 70 ราย หาดเลพัง 11 ราย หาดสุรินทร์ 36 ราย
#Phuket #Thailand #กินไหนดีภูเก็ต #มีเดียภูเก็ต #ข่าวภูเก็ต #ท่องเที่ยวภูเก็ต #อาหารภูเก็ต #ช้อปปิ้งภูเก็ต #โรงแรมภูเก็ต #อสังหาฯภูเก็ต#เศรษฐกิจภูเก็ต www.phuketprice.com #ภูเก็ตไพรซ์