ลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท ธนบุรี เสริม รัฐ จำกัด กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระงานของโรงพยาบาลรัฐ ลดความ แออัดและขยายพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพให้มากขึ้น
ลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท ธนบุรี เสริม รัฐ จำกัด กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระงานของโรงพยาบาลรัฐ
ลดความ แออัดและขยายพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพให้มากขึ้น
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 น. ที่ “คลินิกหัวเช้า ธนบุรี เสริมรัฐ” ถ.ดิลกอุทิศ 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, นายไพฑูลย์ ศิลปะวิสุทธิ์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท กลางคุ้มครอง ร่วมแสดงความยินและกล่าวอวยพร โดยมี ดร.สุวดี พันธุ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด ได้กล่าวเปิดในพิธีเปิดหัวเช้าสหคลินิก โดย ธนบุรี เสริมรัฐ อย่างเป็นทางการ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง บริษัท ธนบุรี เสริม รัฐ จำกัด กับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อให้การดูแลผู้ประสบภัยจากรถ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เป็นแห่งแรกของภูเก็ต ซึ่งมีคณะผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน เข้าร่วมภายในงาน
ดร.สุวดี พันธุ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด ในเครือ Thonburi Healthier are Group หรือกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี กล่าวว่า มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้มาร่วม พิธีเปิดหัวเช้าสหคลินิก โดย ธนบุรี เสริมรัฐ อย่างเป็นทางการและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง บริษัท ธนบุรี เสริม รัฐ จำกัด กับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อให้การดูแลผู้ประสบภัยจากรถ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เป็นแห่งแรกของภูเก็ต “หัวเข้าสหคลินิก” หรือ “คลินิกหัวเช้า” โดย บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด ซึ่งเป็นคลินิกเวชกรรม และกายภาพบำบัด บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด ทราบถึงความต้องการของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ที่ต้องการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงก่อตั้ง “คลินิกหัวเช้า” ขึ้น คลินิกหัวเช้า มุ่งมั่นในการให้บริการด้านเวชกรรม และกายภาพบำบัดที่ครบวงจร รวมถึงบริการตรวจโรคทั่วไป ตรวจโรคเฉพาะทาง อุบัติเหตุฉุกเฉิน, เอกซเรย์, กายภาพบำบัด และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ปัจจุบันคลินิกหัวเช้าได้รับการรับรองด้านสิทธิประกันสุขภาพและประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รวมถึงยังส่งเสริมให้ทุกคน เข้าถึงบริการของเราอย่างทั่วถึงอีกด้วย จะช่วยสร้างสาธารณสุขที่ยั่งยืนและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง
คลินิกหัวเช้า ธนบุรี เสริมรัฐ สามารถรับสิทธิประกันสุขภาพและประกันภัยรถภาคบังคับ หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พรบ.) ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากร จำกัด ให้ดูแลคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว เนื่องจากยอดบาดเจ็บสะสมจากอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดภูเก็ด พ.ศ. 2560 ผู้บาดเจ็บ 17,186 ราย เสียชีวิต 113 ราย และข้อมูลเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 ผู้บาดเจ็บ 7,054 ราย เสียชีวิต 110 ราย แสดงให้เห็นถึงยอดผู้บาดเจ็บสะสมมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง บริษัท ธนบุรี เสริม รัฐ จำกัด กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระงานของโรงพยาบาลรัฐ ลดความ แออัดและขยายพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ดร.สุวดี ได้กล่าวต่ออีกว่า ได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการไปตาม พื้นที่ที่มีสถิติอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับบริการ และเข้าถึงสิทธิได้อย่างรวดเร็ว โดยกำลังดำเนินการเพื่อ ขยายสิทธิให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึง “คลินิกหัวเช้า” มีบริการหลากหลายไม่ว่าจะเป็นบริการตรวจโรคทั่วไป, ตรวจโรคเฉพาะทาง, อุบัติเหตุฉุกเฉิน, เอกซเรย์, กายภาพบำบัด และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เราให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพและครอบคลุมความต้องของประชาชนได้อย่างทั่วถึง เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคลินิกหัวเช้าจะสร้างประโยชน์มากมาย สำหรับทุกคนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยทีมแพทย์ และ บุคลากรที่พร้อมให้บริการ
ปัจจุบันธนบุรี เสริมรัฐ ได้ขยายบริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง เช่น ศูนย์หัวใจ ศูนย์ไต ศูนย์มะเร็ง เพื่อเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลรัฐในการดูแลผู้ป่วย ลดการรอคอยและหวังว่าคลินิกหัวเช้า โดย ธนบุรี เสริมรัฐ จะได้รับการ ตอบรับและความไว้วางใจให้เราดูแลชาวภูเก็ตต่อไป ซึ่งทาง บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด เรามุ่งที่จะสร้างสาธารณสุขไทยให้ยั่งยืน และเข้าถึงคนไทยทุกคน ดร.สุวดี กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด
