อุโมงค์เข้า “ป่าตอง” ผ่าน EIA ชุดเล็กฉลุย

           นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองเผย โครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ผ่านอนุกรรมการ EIA แล้ว ชุดใหญ่ก็น่าจะผ่านฉลุยหลังจากนั้นก็ไปรอคิวเข้าครม.เห็นชอบ ว่าโครงการนี้ใช้เงินลงทุนหมื่นกว่าล้านบาท รัฐไม่เอาแน่ แต่จะให้การทางพิเศษหาผู้ลงทุน เฉพาะค่าเวนคืนที่ดินก็ปาเข้าไปกว่า 5 พันล้านบาท

           นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตองว่า จากการประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯทราบว่า ขณะนี้รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว รอเข้าสู่การพิจาณาของคณะกรรมการชุดใหญ่ในเร็วๆนี้ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเมื่อรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบในระดับอนุกรรมการฯแล้ว คณะกรรมการชุดใหญ่น่าที่จะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ต่อจากนั้น ก็จะเหลือขั้นตอนการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการต่อไป

            สำหรับการลงทุนโครงการนั้น ทางการทางพิเศษจะกำหนดแนวทางในการลงทุน เพราะเท่าที่ทราบรัฐจะไม่เข้ามาลงทุนในโครงการนี้ ที่จะต้องใช้เงินลงทุน 11,000 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดินของประชาชนที่อุโมงค์และถนนตัดผ่านอีกประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท

            นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวต่อว่า โครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการที่ได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สัญจร มาที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2552 และได้มอบหมายให้การทางพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรบนถนนสายกะทู้-ป่าตอง ทีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก จากถนนที่ต้องตัดผ่านเนินเขา มีความชันและโค้ง ทำให้รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

             ระยะทางอุโมงค์1.85 กม. ลอดใต้เทือกเขานาคเกิด และทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กม. ไปยัง ต.กะทู้ ผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง จนบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 (ถนนพระบารมี) สร้างเป็นทางด่วนขนาด 8 ช่องจราจร หรือไป-กลับ 4 ช่องจราจร สำหรับให้รถยนต์วิ่ง 2 ช่องจราจร และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจร ในบริเวณจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการ จะก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับ พร้อมติดตั้งระบบเก็บเงินค่าผ่านทางเพื่อลดปัญหาการจราจร และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทาง