เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ “ประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58” ทั่วโลกจับตาวาระสำคัญ ชูต้นแบบการประชุมรักษ์โลก พร้อมเผยแพร่อัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทย จุดประกายสเก็ตน้ำแข็งไทยสู่ระดับโลก
เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ “ประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58”
ทั่วโลกจับตาวาระสำคัญ ชูต้นแบบการประชุมรักษ์โลก พร้อมเผยแพร่อัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทย
จุดประกายสเก็ตน้ำแข็งไทยสู่ระดับโลก
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ต แอนด์ สปา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, MR.JAN DIJKEMA ประธานสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ, ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการด้านการพัฒนากีฬา สหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ และดร.สีหศักดิ์ อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย เปิดการประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 (58th ISU CONGRESS) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายน 2565 นี้ โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกคณะผู้บริหารสหพันธ์ สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติชุดใหม่
การประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 (58th ISU CONGRESS) ได้เลื่อนมาจากกำหนดการเดิมในปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, การกีฬาแห่งประเทศไทย, หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายภาคส่วน โดยมีประเทศเข้าร่วมกว่า 70 ประเทศ และได้วางแนวทางเป็นการประชุมแบบ Green Meeting ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกคณะผู้บริหารสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติชุดใหม่ และจะมีการพูดคุยถึงผลเกี่ยวเนื่องจากเหตุสงครามระหว่างรัสเซีย เบลารุส และยูเครน จึงเป็นวาระพิเศษที่ถูกจับตามองจากวงการกีฬาต่าง ๆ ทั่วโลก ว่าจะมีแนวทางปฏิบัติเช่นไร ซึ่งจะมีผลดีทำให้ชื่อของประเทศไทยถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย ช่วยให้วงการสเก็ตน้ำแข็งไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นโอกาสอันดีในการโปรโมทภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เผยแพร่ไปสู่สายตาชาวโลก ทั้งการนำเสนอเอกลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต และวัฒนธรรมประเพณีที่งดงามของประเทศไทย
ในโอกาสนี้ทางผู้จัดการประชุม ได้มีกำหนดนำผู้เข้าร่วมประชุมไปสัมผัสการท่องเที่ยวชุมชนภูเก็ตโอลด์ทาวน์ และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของจังหวัดภูเก็ต และมีการนำวัฒนธรรมไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ทั้ง โขน และมโนราห์ มาแสดงต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทยให้ออกสู่สายตาชาวโลก