เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว อาคารผู้โดยสารภายในประเทศสนามบินภูเก็ต พร้อมเดินหน้าขยายพื้นที่ต่อเฟส2
ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พร้อมเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารภายในประเทศอย่างเป็นทางการแล้วหลังจากการปรับปรุงพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยแล้วชาวต่างชาติ
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 61 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ณ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เป็นประธานเปิดใช้อาคารผู้โดยสารภายในประเทศอย่างเป็นทางการ พร้อมรองรับผู้เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสนิทศรี วิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เรือตรีธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายสนับสนุนธุรกิจ) เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ผู้บริหาร และพนักงาน ทอท. หน่วยงานราชการ บริษัทสายการบิน และผู้ประกอบการภายใน ทภก.เข้าร่วมในพิธี
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ตามที่ ทอท.ได้ดำเนินโครงการพัฒนา ทภก.(ปีงบประมาณ 2553 – 2557) ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิมให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ การขยายลานจอดอากาศยาน การก่อสร้างอาคารคลังสินค้า อาคารจอดรถยนต์ และสำนักงาน พร้อมระบบสาธารณูปโภค โดยเมื่อเดือนกันยายน 2559 ได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และจากนั้นได้ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ขณะนี้การดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว สามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค และระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของ ทภก.เพิ่มขึ้น สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้สูงสุด 7,200 คน และสามารถเพิ่มเก้าอี้พักคอยสำหรับผู้โดยสารได้มากถึง 2,660 ที่นั่ง
สำหรับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทภก.ที่ปรับปรุงใหม่มีพื้นที่ 30,339 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 มีพื้นที่ประมาณ 12,100 ตารางเมตร เป็นส่วนผู้โดยสารขาเข้า ประกอบด้วย โถงผู้โดยสารขาเข้า (Arrival Area) พื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร โถงรับกระเป๋าผู้โดยสารขาเข้า (Baggage Claim Area) พื้นที่ประมาณ 4,200 ตารางเมตร พร้อมสายพานลำเลียงกระเป๋า 4 เส้น นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มประตูทางออกสำหรับผู้โดยสารขาออก ( Bus Gate) ทางด้านทิศเหนือของอาคารอีก 1 จุด หมายเลข 83 – 84 พร้อมเพิ่มห้องน้ำเป็น 6 จุด (ชาย หญิง และคนพิการ)
สำหรับชั้น 2 มีพื้นที่รวมประมาณ 10,500 ตารางเมตร โดยจากการดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารทำให้มีห้องโถงเช็คอินผู้โดยสารขาออกเป็น 4,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย เคาน์เตอร์เช็คอิน จำนวน 66 เคาน์เตอร์ และจุดตรวจค้นสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องพร้อมเครื่องเอ็กซเรย์ จำนวน 7 เครื่อง และสำหรับพื้นที่พักคอยผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่ 6,500 ตารางเมตร ประกอบด้วย ประตูทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 4 – 10 (Boarding Gate) สะพานเทียบอากาศยานจำนวน 7 ชุด ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งห้องน้ำจำนวน 5 จุด (ชาย หญิง และคนพิการ) และชั้น 3 เป็นพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารเป็น 3,500 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านค้า พื้นที่พักคอย สำนักงานสายการบิน ส่วนบริการท่าอากาศยาน และห้องน้ำ 2 จุด (ชาย หญิง และคนพิการ)
นายนิตินัย ยังได้กล่าวต่ออีกว่า การเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ ทำให้โครงการพัฒนา ทภก. (ปีงบประมาณ 2553 – 2557) เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศของ ทภก.โดยสามารถรองรับเที่ยวบินได้ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับผู้โดยสารจากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นอาคารระหว่างประเทศ 5 ล้านคนต่อปี และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ 7.5 ล้านคนต่อปี มีหลุมจอดเพิ่มเป็น 34 หลุมจอด และที่จอดรถยนต์สามารถรองรับเพิ่มเป็น 1,500 คัน ทั้งนี้ ทอท. ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ ทอท.และ ทภก.เป็นอย่างดี และทำให้การดำเนินการต่างๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อย ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดั่งคำขวัญ ทอท. “ปลอดภัยคือมาตรฐาน บริการคือหัวใจ”
นอกจากนี้ การขยายขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวว่า อย่างที่ทราบดีว่าจังหวัดภูเก็ตนั้นนักท่องเที่ยวโตขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ ทภก. สามารถรองรับได้ 6 ล้านคน ก็ปรับปรุงให้เป็น 12.5 ล้านคน แต่วันนี้กลับมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือการเปิดใช้อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ส่วนข่าวร้ายคือคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 20 ล้านคน ซึ่งทางทอท. เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้มีการเตรียมแผนในการขยายพื้นที่ต่อ โดยเฟส 2 ของ ทภก. คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2565 ซึ่งหากเสร็จสิ้นจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 18 ล้านคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อปริมาณนักท่องเที่ยว บอร์ดฯ ทอท. จึงได้อนุมัติในการสร้างสนามบินแห่งใหม่ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ตำบล โคกกลอย จังหวัดพังงา โดยตอนนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการนำเรื่องเข้ากระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอเข้าสู่ครม. ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ที่ดินถึง 4,800 ไร่ ถึง 5,000 ไร่ งบการลงทุน ประมาณ 60,000 ล้านเศษ (ยังไม่รวมที่ดิน) ระยะเวลาก่อสร้างอยู่ที่ 4 ปี สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 10 ล้านคนต่อปี นายนิตินัย ได้กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนทางด้าน นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของท่าอากาศยานภูเก็ตมีความยินดีอย่างยิ่งที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศพร้อมเปิดให้บริการหลังจากมีการเริ่มปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งนอกเหนือจากการขยายอาคารและปรับปรุงพื้นที่ให้ดีขึ้นแล้วนั้นท่าอากาศยานภูเก็ตยังได้มีการยกระดับการให้บริการเทียบเท่าระดับสากล โดยได้เข้าร่วมโครงการประเมินคุณภาพการบริการท่าอากาศยาน (Airport Service Quality : ASQ) ของสภาท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (Airport Council International : ACL) เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับท่าอากาศยานภูเก็ตและประเทศไทยต่อไป