กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ พัฒนาฝีมือแรง Marine Tourism เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ

กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ
พัฒนาฝีมือแรง Marine Tourism เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ

             กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจับมือกระทรวงแรงงานและผู้ประกอบการลงนาม MOU พัฒนาบุคลากรกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ Marine Tourism ยกระดับประสิทธิภาพการบริการและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันกับเพื่อนบ้าน

              เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ณ เพลย์ยาร์ด อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้มีพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ (Marine Tourism) ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว กับกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน บริษัท ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด และ บริษัท โจโจ้ เอเชีย แปซิฟิค ซุปเปอร์ยอร์ช จำกัด โดยมี นายกองเอกอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้การต้อนรับ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน, และนายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในโอกาสเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ (Marine Tourism) ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, นายดิฐพงศ์ ฐิตะดิลก ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ภูเก็ตซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด, นางสาวตัญญุตา สิงห์มณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจโจ้ เอเชีย แปซิฟิค ซุปเปอร์ยอร์ช จำกัด เป็นผู้ลงนาม

                 นายพลภูมิ เปิดเผยว่า บันทึกความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญน้ำ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำให้มีความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ เนื่องจากการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งของโลกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับประเทศ และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง

               ดังนั้น เพื่อให้การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำของประเทศไทยพัฒนา โดยคำนึงถึงความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยวและการมีส่วนร่วมของชุมชน จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความรู้ ทักษะ และศักยภาพในการปฏิบัติงานและให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพในการให้บริการด้านการท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ โดยทั้ง 4 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำของประเทศไทย หากได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และเชื่อมโยงการดำเนินงานให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันได้ จะส่งผลให้การผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำมีศักยภาพสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ

               นอกจากนี้ ยังเป็นการบูรณาการการทำงานโดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำที่มีคุณภาพของอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล

                โดยขอบเขตการดำเนินงานของกรมการท่องเที่ยวคือจะร่วมกับหน่วยงานภายใต้ MOU ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว/แรงงานในธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงาน ศึกษาความต้องการทักษะที่จำเป็นสำหรับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ และร่วมกันจัดทำมาตรฐานบุคลากรด้านการท่องเที่ยว/แรงงานกลุ่มอาชีพคนบนเรือในธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนร่วมกันจัดทำหลักสูตรและจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว/แรงงานในธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ รวมทั้งบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว/แรงงานในธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ