กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวดแผนไทยตำบลกะรน, ผู้ประกอบการนวดแผนไทยราไวย์ และฉลองประมาณ 100 คน รวมตัวกันพร้อมแผ่นป้ายขอความเป็นธรรม
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวดแผนไทยตำบลกะรน, ผู้ประกอบการนวดแผนไทยราไวย์ และฉลองประมาณ 100 คน
รวมตัวกันพร้อมแผ่นป้ายขอความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวดแผนไทยตำบลกะรน, ผู้ประกอบการนวดแผนไทยราไวย์ และฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 100 คน รวมตัวกันพร้อมแผ่นป้ายข้อความต่างๆ อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกะตะกะรน มาขอความเป็นธรรมพวกเราเปิดมาเป็น 10ปี ไม่เคยมีปัญหา แต่พอคุณเข้ามาเปิด 150 เท่ากับคุณทำร้ายเพื่อร่วมอาชีพเดียวกันให้ตายทั้งเป็น, 300 อยู่ได้ 150 อยู่ยาก, เป็นต้น เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขอให้ทางจังหวัดภูเก็ตแก้ปัญหาอัตราค่าบริการนวด โดยอ้างว่า ได้รับความเดือดร้อนจากผู้ประกอบการร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุนโดยให้คนไทยเปิดประกอบการร้านนวดแผนไทย และมีการคิดราคาที่ค่อนข้างต่ำกว่าราคาที่ผู้ประกอบการทั่วไปคิดค่อนข้างมาก โดยมีนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมรับฟังปัญหาจากทางตัวแทนผู้เดือดร้อน นำโดยนายธรรพ์ษิวิชย์ คล้ายชะเอม, นายจำเริญ หลักฐาน และนายณรันย์ศักดิ์ สุดจิตร ร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต,ตัวแทนนายอำเภอเมืองภูเก็ต, พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต, กำนันตำบลกะรนและกำนันตำบลราไวย์ นอกจากนี้ยังมีนายเทมส์ ไกรทัศน์ รองโฆษกพรรคกล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต รวมสังเกตการณ์ด้วย
นายธรรพ์ษิวิชย์ คล้ายชะเอม ตัวแทนผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ทางด้วยกลุ่มนวดหาดกะรน รวมถึงในพื้นที่ ต.ฉลอง และราไวย์ ได้รับความเดือดร้อนจากร้านนวดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านนวดไทยที่มีนายทุนต่างชาติเป็นผู้ลงทุนให้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดร้านนวดแผนไทยบริเวณชายหาดกะตะกะรน และทุกๆ หาดเปิดให้บริการเป็นรายชั่วโมงๆ ละ 300 บาท แต่หลังเกิดโควิด -19 ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการทำให้ต้องทยอยปิดกิจการลง และภายหลังเปิดประเทศทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น แต่ร้านนวดดังกล่าวกลับตัดราคาคิดค่าบริการเพียง150 บาทต่อชั่วโมง ทุกๆ รายการบริการ เป็นเหตุให้ร้านนวดแผนไทยอื่นๆ ไม่สามารถเปิดประกอบกิจการได้ เพราะมีต้นทุนสูงกว่า เนื่องจากต้องเสียค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟและอื่นๆ และยังนำมา
ซึ่งความไม่เชื่อถือของนักท่องเที่ยว แม้ที่ผ่านมาจะมีการขอให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยพูดคุยแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงมาขอความอนุเคราะห์จากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน เพราะพวกตนพึ่งมีโอกาสที่จะกลับมาประกอบอาชีพ เพื่อเลี้ยงครอบครัวและผ่อนหนี้ผ่อนสิน โดยไม่มีอาชีพอื่นใด นอกจากอาชีพนวดแผนไทยที่ถนัดและชำนาญ ขณะนี้ร้านดังกล่าวได้ขยายสาขาออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ด้วย ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด
ทางด้านนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังหารือกับตัวแทนผู้เดือดร้อนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่า หลังจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจากับทางผู้ร้านนวดที่เป็นปัญหาซึ่งคิดราคาต่ำกว่าปกติ ทำให้ร้านส่วนใหญ่ ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกันนี้จะได้ตั้งคณะทำงานมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตเป็นหัวหน้าคณะฯ มีหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงานและมีศูนย์ดำรงธรรมฯ เป็นเลขาฯ เพื่อตรวจสอบการให้บริการของร้านดังกล่าวว่า มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่อย่างไร และประสานขอความร่วมมือในการคิดอัตราค่าบริการที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ เบื้องต้นตรวจร้านเดียวก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน จากนั้นก็จะได้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ ต่อไป
