“จี้หยอย” นำทัพ “ป่าตองฟ้าใหม่” ลงสู้ศึกเลือกตั้งสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ครบทีม ชูนโยบาย “ทำต่อ..ไม่รอแล้วนะ” เร่งแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องป่าตองเป็นเรื่องแรก..!!
“จี้หยอย” นำทัพ “ป่าตองฟ้าใหม่” ลงสู้ศึกเลือกตั้งสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ครบทีม ชูนโยบาย “ทำต่อ..ไม่รอแล้วนะ” เร่งแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องป่าตองเป็นเรื่องแรก..!!
นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า ตนพร้อมสมาชิกทีมป่าตองฟ้าใหม่ เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง เต็มทีมทั้ง 18 คน ลงสมัครครบทั้ง 3 เขต เชื่อมันในลูกทีมทุกท่าน รวมถึงเชื่อมั่นในนโยบายของตัวเอง ที่พร้อมจะเข้ามาทำงานต่อ งานเก่าที่ยังค้างคาอยู่ในเทศบาลเมืองป่าตอง โดยการสมัครในครั้งนี้ ตนได้เบอร์ 3 ส่วนลูกทีมทั้งหมด ได้เบอร์ 13-18 ทั้งทีม
นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในปัจจุบันนี้ การพัฒนาเมืองป่าตอง มีความสำคัญที่มากกว่าการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเร่งทำ หากว่าตนได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชน เพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ก็คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจของป่าตอง ให้กลับมาเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก เรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ดิฉันมองว่า สิ่งที่ต้องทำอย่าเร่งด่วนที่สุด คือ การที่จะทำอย่างไรให้พี่น้องชาวป่าตอง มีรายได้ สามารถทำมาหากินได้ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 นี้ โดยในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองอยู่นั้น ก็ได้ผลักดันการสร้างรายได้ในรูปแบบต่างๆ ให้พี่น้องประชาชน เพื่อประทังการดำเนินชีวิต ให้อยู่รอดกันไปให้ได้ ตั้งแต่การจัดงาน หรอย ริมเล โอลั๊ลล๊า..ป่าตอง งานไบค์วีคเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในซอยบางลา และงานเคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปี 2020 ที่ต้องยกเลิกการจัดงานไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด -19 ครั้งที่ 2 ซึ่งการจัดงานในลักษณะนี้ ทำให้พี่น้องในพื้นที่ป่าตอง ที่เป็นคนป่าตองจริงๆ ได้รับประโยชน์จากการค้าขายอย่างแท้จริง”
ซึ่งนอกจากนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้ว ก็ยังผลักดันเมืองป่าตองสู่เมืองมาตรฐานการท่องเที่ยว..อย่างยั่งยืน คสวบคู่กันไปด้วย พร้อมผลักดัน ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ที่เรียกได้ว่าเป็น “ผู้สมัครหน้าใหม่” ที่พร้อมสานต่อนโยบายของทีมบริหารได้เดินต่อไปอย่างราบรื่น โดยได้แนะนำ นายจิรนันท์ ธรรมดี หรือ นุ ผู้สมัครสมาชิกสภาพเทศบาลเมืองป่าตอง เขต 3 ที่เป็นคนป่าตอง อยู่เมืองป่าตองมาตั้งแต่เกิด ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนตนมองว่า ป่าตองเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ควรที่จะขับเคลื่อนเมืองไปในรูปแบบที่เรียกว่า “สมาร์ทซิตี้” แต่ก็ไม่ควรลืมที่จะมองไปถึงการส่งเสริมด้านเกษตรกรรม เพื่อให้เมืองเราได้มีทางถอย หากว่าวันหนึ่งวันใด การท่องเที่ยวไม่ได้เติบโตไปอย่างที่เราคาดหวัง เราก็ยังสามารถที่จะทำกินได้บนบ้านเกิดของเรา เพื่อให้ป่าตองกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว..อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานที่มีความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยี
ด้าน นายณัฐพงศ์ เก็บทรัพย์ หรือ “เบ๋ง” อีกหนึ่งผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ที่มองว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ป่าตอง จะต้องพัฒนาเมือง โดยอาศัยหลักของความเป็น “สมาร์ทซิตี้” เพื่อนำไปสู่เมืองท่องเที่ยว…อย่างยั่งยืน คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของเมืองได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการนำเข้ามาเพื่อพัฒนาป่าตองสู่เมืองท่องเที่ยว…อย่างยั่งยืน