“จุรินทร์” นำทีมประชาธิปัตย์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ครบทั้ง 3 เขต ชูสโลแกน “ประชาธิปัตย์หยัดได้” พร้อมผลักดันภูเก็ตสู่ “มหานครทันสมัย” ด้วยเทคโนโลยี มั่นใจคนภูเก็ตเทคะแนนให้ทั้ง 3 เขตและพรรค
“จุรินทร์” นำทีมประชาธิปัตย์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ครบทั้ง 3 เขต
ชูสโลแกน “ประชาธิปัตย์หยัดได้” พร้อมผลักดันภูเก็ตสู่ “มหานครทันสมัย”
ด้วยเทคโนโลยี มั่นใจคนภูเก็ตเทคะแนนให้ทั้ง 3 เขตและพรรค
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 29 ม.ค.) ที่โรงยิมเนเซี่ยม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วยเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ภูเก็ตทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายกวี ตันสุคตานนท์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เขต 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย อดีตประธานสภาทนายความจ.ภูเก็ต และอดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต และเขต 3 น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต
โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายชินวรณ์ บุญเกียรติ นายสุชัชวีร์ สุวรณสวัสดิ์ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีต สส.ภูเก็ต สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางประชาชนชาวภูเก็ตเป็นจำนวนมากเต็มโรงยิมเนเซี่ยม 4,000 ที่นั่ง โดยการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 เขต ภายใต้สโลแกน “ประชาธิปัตย์หยัดได้”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวภูเก็ตและชาวปักษ์ใต้ที่มาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมากในวันนี้ บรรยากาศเก่าๆที่พี่น้องชาวภูเก็ตเคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมาอีกครั้ง ที่ผ่านมาคนภูเก็ตเลือกพรรคประชาธิปัตย์มายาวนานถึง 11 สมัย และเพิ่งมาตีจากพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งทีผ่านมา เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่อยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ มีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจนระหว่าง คนไม่เอาตู่กับเอาตู่ และคนไม่เอาทักษิณกับเอาทักษิณ สุดท้ายแล้วคนภูเก็ตตัดสินใจเลือก “ตู่” ทำให้ได้เทวดามา 2 องค์ วันนี้ได้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะสามารถหายตัวได้ แต่การเลือกตั้งในครั้งต่อไปนี้จะไม่เหมือนที่ผ่านมา ไม่ได้บังคับว่าต้องเลือกขั้วไหน เป็นการเลือกตั้งที่แข่งขันกันในระบบรัฐสภา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมทั้ง คน อุดมการณ์ ผลงาน นโยบาย และวิสัยทัศน์ ที่จะประเทศไทยและภูเก็ตเดินไปสู่อนาคต
พรรคประชาธิปัตย์ มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ชาวภูเก็ตจะต้องลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากว่าที่ผ่านมาผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 คน ได้ลงพื้นที่มาอย่างยาวนานและต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2562 แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเดินในวันนี้ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยทอดทิ้งคนภูเก็ต โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดโควิดระบาด ไม่มีนักท่องเที่ยว โรงแรมปิด เศรษฐกิจซบเซา ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับผู้ว่าฯภูเก็ต อบจ.จัดงบประมาณมาจัดกิจกรรม “หรอยริมเล” ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต ทำให้มีเงินหมุนเวียนในภูเก็ต สนับสนุนการเสนอจัดงาน Expo ที่ภูเก็ต ด้วยการให้ทูตพาณิชย์ประสานกับประเทศต่างๆ เพื่อขอการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน รวมไปถึงหาตลาดท่องเที่ยวใหม่ๆมาภูเก็ต และอีกหลายๆ โครงการเพื่อร่วมกันฟื้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภูเก็ต
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่นโยบายสำคัญที่ต้องการจะผลักดันให้เกิดขึ้นในภูเก็ต คือ การผลักดันให้ภูเก็ตเป็น “มหานครที่ทันสมัย”ได้ผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้ง บริหารเมือง บริหารเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
“มีคนถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กลัวไหม ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองหลายๆ พรรคลงมาภูเก็ตและภาคใต้เต็มไปหมด บอกได้เลยว่า ไม่กลัว กลัวไม่มามากกว่า และยิ่งมามากเท่าไหร่เสียงก็จะแตกมากเท่านั้น ภาคใต้วันนี้มีเสียงตอบรับที่ดีขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้ง ทั้ง จ.ชุมพร และสงขลา โดยในหลายๆจังหวัดเราก็มีความพร้อม รวมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ การเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ ภาคใต้เรามี 58 เสียง เรามั่นใจว่าเราจะได้รับการไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ที่เรามั่นใจจะยกทีมผู้สมัครทั้ง 3 คน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย กล่าว
นายจุรินทร์ ยังตอบข้อซักถามกรณีนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ในฐานะนักการเมืองเต็มตัว ว่า ทุกพรรคมีสิทธิ์ตั้งความหวัง ซึ่งถ้าทางพรรคอื่นมีความมั่นใจว่า จ.ชุมพรจะยกทีม เราก็มั่นใจเช่นเดียวกัน ทุกอย่างเป็นเรื่องของการแข่งขัน แม้ว่ามีพรรคการเมืองต่างพุ่งเป้ามายังพื้นที่ภาคใต้นั้น ตนเองมีความกังวลอย่างไรบ้าง ตอบได้เลยว่า ไม่มีความกังวล การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าปักษ์ใต้เราพรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงเหนียวแน่นและมั่นคง”