“ชวน-อภิสิทธิ์” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ภูเก็ต ชาวภูเก็ตกว่าหมื่นคนร่วมฟังเต็มพื้นที่เวทีกลางสะพานหิน พร้อมทั้งขอคะแนนเสียงสนับสนุนจากคนภูเก็ตเลือก ส.ส.เขต ยกทีมและเลือก พรรคประชาธิปัตย์
“ชวน-อภิสิทธิ์” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ภูเก็ต ชาวภูเก็ตกว่าหมื่นคนร่วมฟังเต็มพื้นที่เวทีกลางสะพานหิน
พร้อมทั้งขอคะแนนเสียงสนับสนุนจากคนภูเก็ตเลือก ส.ส.เขต ยกทีมและเลือก พรรคประชาธิปัตย์
วันที่ 30 เม.ย.2566 เวลา 17.00 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียง ซึ่งบรรยากาศคึกคัก มีประชาชนชาวภูเก็ตมาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่าหนึ่งหมื่นคน จนพื้นที่ลานเวทีกลางสะพานหินแน่นขนัดตา ซึ่งเปิดตัวประเดิมเวทีการปราศรัยคนแรกจาก นายเรวัต อารีรอบ พร้อมทีมภูเก็ตหยัดได้มาร่วมแสดงพลัง โดยปราศรัยถึงโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภูเก็ต จากการพลักดันของพรรคประชาธิปัตย์ และสมัยที่นายเรวัต เป็น ส.ส.ภูเก็ต ตามมาด้วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายกวี ตันสุคตานนท์ หมายเลข 10 เขตเลือกตั้งที่ 2 น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ หมายเลข 10 และเขตเลือกตั้งที่ 3 นายชัยยศ ปัญญาไว หมายเลข 11
ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัย ยังได้มีโอกาสไปเดินย่านเมืองเก่าถนนถลางเพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนร โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งมีพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตออกมาให้การต้อนรับและร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอถ่ายภาพด้วยตลอดทาง หลังจากนั้นจึงได้เดินทางมายังเวทีกลางสะพานหินและขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งมีประชาชนมามอบดอกไม้เป็นจำนวนมาก และบอกว่า ที่มาภูเก็ตวันนี้เพื่อมาขอให้คนภูเก็ตเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 เขต ขอเลือกยกทั้งจังหวัดและเลือกพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 เพื่อไปร่วมกันผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ทันสมัยใหม่ด้วยดิจิตอล เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีอำนาจในการบริหาร เพราะภูเก็ตพึ่งพาการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกแล้ว จากวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ชี้ให้เห็นว่าภูเก็ตต้องมีธุรกิจด้านอื่นๆ มารองรับด้วย
หลังจากนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย และปิดท้ายด้วย นายชวน หลีกภัย ซึ่งมีประชาชน เข้ามามอบด้วยไม้และถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ นายชวน ยังได้กล่าว ในบางช่วงบางตอนว่า จริงๆแล้ว ในวันนี้ตนจะต้องไปช่วยหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน แต่เนื่องจากขณะนี้ในหลายพื้นที่ของภาคใต้มีการใช้เงินในการเลือกตั้งครั้งนี้กันมาก จึงต้องปรับเปลี่ยนการหาเสียงใหม่ ตนจึงจะต้องลงมาช่วยในพื้นที่ภาคใต้ เพราะขณะนี้เงินเริ่มออกแล้ว เช่น ที่ จ.ตรัง สุราษฎร์ธานี พังงา ที่ตรังเริ่มจาก 500 บาท และหลายๆพื้นที่ทำในลักษณะของการประมูลใครให้มากกว่าก็เลือกคนนั้น ซึ่งการใช้เงินซื้อเสียไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง คนดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องเลือกคนดีเข้าสภาฯเป็นตัวแทนของพวกเรา
สำหรับ การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์คาดหวังว่าจะได้ ส.ส.ในภาคใต้ 40 ที่นั่ง แต่ถ้ามีการใช้เงินกันมากๆ คงจะต้องเหนื่อยมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอพี่น้องอย่ารับเงินเดี่ยวเขาจะหาว่าไม่สาไหร่ ขอร้องทุกคนช่วยกันเลือก ส.ส.เขตของพรรคประชาธิปัตย์และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะผลโพลที่หลายๆ สำนักทำนั้น ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่ติดอันดับ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค จึงขอฝากพี่น้องชาวภูเก็ต ช่วยกันเลือกพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงยังได้กล่าวถึงเรื่องของกยศ.และ เงินอุดหนุนผู้สูงอายุ ที่ทางพรรคเป็นผู้เสนอโครงการฯ นายชวน กล่าวเสริมทิ้งท้ายไว้ในที่สุด