ตม.ภูเก็ต ชี้แจงกรณีสื่อต่างชาติตีข่าวรัสเซียแห่ทำธุรกิจอสังหาฯ แย้งงานคนท้องถิ่น ระบุไม่เป็นความจริง ทุกอย่างขึ้นกับกลไกตลาด
ตม.ภูเก็ต ชี้แจงกรณีสื่อต่างชาติตีข่าวรัสเซียแห่ทำธุรกิจอสังหาฯ
แย้งงานคนท้องถิ่น ระบุไม่เป็นความจริง ทุกอย่างขึ้นกับกลไกตลาด
วันนี้ (8 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว จัดหางานจังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสื่อต่างชาตินำเสนอข่าว ระบุว่า ชาวรัสเซียแห่ทำธุรกิจและยึดกิจการคนไทย มีการแย่งอาชีพคนไทย และปัญหาการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมาเฟียรัสเซียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึง 31 สิงหาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จำนวนกว่า 2,469,052 คน ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวรัสเซีย 487,504 คน (คิดเป็นร้อยละ 19.74) ส่วนใหญ่จะเข้ามาท่องเที่ยวระยะสั้นๆ และเดินทางกลับ ส่วนที่มีวีซ่าระยะยาวและพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมีจำนวน 9,275 คน (คิดเป็นร้อยละ 1.9) ส่วนข่าวที่ปรากฏเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ประเด็นเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ตทางสื่อออนไลน์ ว่า “สื่อต่างชาติตีข่าว ชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแย่งงานแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” โดยเนื้อหาข่าว ระบุว่ามีการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์, การประกอบธุรกิจท่องเที่ยว และ การขับรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น, การทำงานที่ผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย, การแอบเข้ามากบดานของคนร้ายสัญชาติรัสเซีย”
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธเนศ ยังได้กล่าวต่ออีกว่า จากสถิติการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึง 31 สิงหาคม 2566 พบว่า มีคนต่างด้าวกระทำความผิดจำนวน 635 ราย ในจำนวนนี้ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซียจำนวน 78 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.28) โดยมีฐานความผิดที่เกี่ยวกับการทำงาน จำนวน 6 ราย ซึ่งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการ “ที่พักสีขาวสำหรับชาวต่างชาติ (ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด) จังหวัดภูเก็ต” (Phuket Crime-Free) ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการแจ้งเบาะแส หากท่านใดพบเห็น หรือรับทราบเบาะแสการกระทำความผิดของคนต่างด้าว สามารถแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น Traffy fondue หรือหมายเลขสายด่วน ตม.จว.ภูเก็ต โทร.09-6036-5485
ส่วนทางด้าน นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง ในประเด็นเกี่ยวกับการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติมีหลายปัจจัย โดยทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวฯ มีหน้าที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาให้ได้มากที่สุด และเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากที่สุด ปัจจุบันรัสเซียถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่เข้ามาจังหวัดภูเก็ต แต่จะเห็นว่านักท่องเที่ยวรัสเซียที่อยู่ในระยะยาวมีจำนวนน้อยมาก ฉะนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย แต่น่าจะเกิดจากปัจจัยการเปิดประเทศและสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตทำให้นักลงทุนนอกพื้นที่ที่มาลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้ โดยการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของคนต่างด้าว แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิซื้อที่ดินจึงไม่เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทึ่ดินเพิ่มสูงขึ้น กับสิทธิ์ของต่างชาติที่สามารถซื้อได้ คือ ประเภทคอนโดมีเนียมในอัตรา 49 ต่อ 51 จากการสอบถามสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตได้รับคำตอบว่ามีการครอบครองในอัตราปกติ แต่อาจมีที่คนต่างด้าวใช้ช่องทางอื่นในการเช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ระยะยาว
ขณะที่ทางด้าน ตำรวจท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำธุรกิจการท่องเที่ยวในปัจจุบันมีสถิติที่ยังน้อยกว่าก่อนช่วงโควิด ซึ่งข้อมูลที่ว่านักท่องเที่ยวรัสเซียทะลักเข้ามาแล้วทำเอฟเฟค คิดว่าไม่มี และบริษัทนำเที่ยวที่สนามบินจะมีการแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวให้ตำรวจท่องเที่ยวทราบอยู่แล้วซึ่งมีประมาณ 15 บริษัท มีคนรัสเซียทำงานในบริษัทดังกล่าวและมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สำหรับพวกที่เป็นประเด็นตามข่าว น่าจะไม่ได้เป็นบริษัททัวร์ อาจจะเห็นช่องทางจึงมีการลักลอบทำผิดกฎหมาย ขอฝากความร่วมมือของประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส ส่วนประเด็นชาวรัสเซียเข้ามาแย่งงานคนไทยในภูเก็ต เช่น ร้านตัดผม เป็นต้น ทางจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงว่า ข้อมูลล่าสุดมีรัสเซียเข้ามาขอใบอนุญาตทำงาน 2,619 คน ซึ่งสำนักงานจัดหางานได้มีนโยบายหลักที่เป็นมาตรการควบคุมและกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ จะไม่ออกใบอนุญาตทำงานโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการจับกุมในปี 2566 มีการจับกุมเกี่ยวกับการทำงานของคนต่างด้าวประมาณ 20 คดี มีคนสัญชาติรัสเซียเพียง 3 ราย
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวกับสัญชาติรัสเซียประมาณ 3 คดี ซึ่งทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา และออกหมายจับในส่วนที่หลบหนีได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาจะรู้จักกันมาก่อน และมีการประกอบธุรกิจร่วมกัน ซึ่งยืนยันว่าในส่วนที่เป็นมาเฟียไม่มีอย่างแน่นอน