ตร.รวบยกแก๊ง18 มงกุฎ ขายทองปลอมได้เป็นล้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตรวบยกแก๊ง 18 มงกุฎชาวอีสาน 6 คน นำทองปลอมตระเวนจำนำ ตามร้านทองในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วม 2 เดือน ได้เงินสดไปเสพสุขร่วม 4 ล้านบาท จนมุมตำรวจคาด่านท่าฉัตรไชยสอบสวนรับสารภาพหมด ล่าสุดไปจนมุมตำรวจสมุยอีก 1 คน เหลืออีก 2คนยังจับไม่ได้
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560เวลา 09.00 น.เศษที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา6 คน ที่นำทองปลอมมาจำนำ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต โดยได้ตระเวนก่อเหตุ ตั้งแต่เดือน เม.ย.60-ต้นเดือน มิ.ย.60
พ.ต.อ.พีรยุทธกล่าวว่า ตลอดระยะ2 เดือนที่ผ่านมา คือตั้งแต่เดือน เม.ย.60-ต้นเดือน มิ.ย.60 ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่าได้มีคนร้ายนำทองปลอมมาตระเวนจำนำขายฝาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งออกตระเวนก่อเหตุในหลายจังหวัด รวมทั้งพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต และพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งวันที่ 3 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา ได้ จำนวน 5 คน ขณะกำลังขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 5 กฎ 4701 กรุงเทพมหานคร ออกจากด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายบุญเทียร ขอนสงเคราะห์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ 2.นางสาวสุภาพ ดำดิน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.7 ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 3.นายพิสิฐ เสริมทรง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.2 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี 4.นางสาวคนึงรัตน์ หาญกำแพง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.5 ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม และ 5.นางสาวประคอง รัตนประทุม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน คือนายอาทิตย์ กองจร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345/43 ม.14 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่นพร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 5 กฎ 4701 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน เงินสด จำนวน 115,000 บาท สร้อยคอคล้ายทองคำ จำนวน 2 เส้น แหวนคล้ายทองคำ จำนวน 2 วง พระเครื่องหุ้มกรอบคล้ายทองคำ จำนวน 1 องค์ และเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จำนวน 26 รายการ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุนำทองปลอม มาตระเวนจำนำขายฝากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จริง โดยทำมาตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.60 ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้มารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ และได้เดินทางด้วยรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 5 กฎ 4701 กรุงเทพฯ มีนายพิสิฐ เสริมทรง เป็นผู้ขับเข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 31 พ.ค.60 เวลาประมาณ 12.00 น. และได้ตระเวนนำทองรูปพรรณปลอมไปขายฝากตามร้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยทองรูปพรรณปลอมดังกล่าวนางสาวสุภาพ ดำดิน และ นายพิสิฐ เสริมทรง เป็นผู้ซื้อมาจากนายโจ ไม่ทราบชื่อสกุลจริงในพื้นที่กรุงเทพฯ. ราคาบาทละ 12,000 บาท โดยมี นายบุญเทียร ขอนสงเคราะห์ นางสาวคนึงรัตน์ หาญกำแพง นางสาวประคอง รัตนประทุม และนายอาทิตย์ กองจร เป็นผู้นำทองรูปพรรณไปขายฝากตามร้านทองต่างๆ โดยนายพิสิษฐ จะเป็นคนขับรถตะเวณหาร้านทองเป้าหมายเมื่อได้เงินจากการขายฝากจะนำเงินมามอบให้กับ นางสาวสุภาพ เป็นผู้เก็บไว้และหลังจากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการขายฝากมาแบ่งกัน โดยผู้ที่เอาทองรูปพรรณปลอมลงไปขายจะได้ส่วนแบ่งจากน้ำหนักทองคำ 1 บาท ได้ส่วนแบ่ง 1,000 บาท
ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-3 มิ.ย.60 กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ร่วมกันนำไปขายที่ร้านทอง ห้างทองทิพย์ สาขา 3 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จำนวนเงินที่ได้ 70,000 บาท ร้านทอง ห้างทองทิพย์ สาขา 2 ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวนเงินที่ 51,000 บาท ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 1 ถนนมนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวนเงินที่ 51,000 บาท ห้างทองใบหยกเจมส์ ต.กมลา อ.กะทู้ ห้างทองกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จำนวนเงินที่ได้ 32,000 บาท และห้างทองในเขตพื้นที่ ต.ฉลอง จำนวนเงินที่ได้ 34,000 บาท รวมเงินที่ได้จากการก่อเหตุทั้งหมด ประมาณ 270,000 บาท
ทั้งนี้จากการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60-27 พ.ค.60 นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ยังมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุซึ่งมีหน้าที่นำทองปลอมไปขายฝาก อีกจำนวน 3 คน คือ น.ส.อุไรวรรณสะเอียบคง อายุ 41 ปี ชาว จ.นครราชสีมา นายวัชรบดินทร์ วัชโรสินทร์ อายุ 23 ปี ชาว จ.สกลนคร และ นายอานนท์ ปินวงศ์วาน อายุ 42 ปี กรุงเทพฯ ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ จำนวนหลายครั้ง ที่ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 1 ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 26 ครั้ง รวมเป็นเงินที่ได้จากการขายฝาก 1,311,500 บาท ที่ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 2 ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 22 ครั้ง รวมเป็นเงินที่ได้รับจากการขายฝาก 1,293,000 บาท และที่ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 3 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รวมเป็นเงินที่ได้รับจากการขายฝาก ประมาณ 800,000 บาท รวมเงินที่ได้จากการก่อเหตุทั้งหมด ประมาณ 3,674,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้นทราบว่า น.ส.อุไรวรรณสะเอียบคง อายุ 41 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ได้ถูกจับกุมแล้วที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนที่เหลืออีก 2 คนยังจับกุมไม่ได้