ททท.ยกขบวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชน กว่า 100 ราย ร่วมงาน “Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2018”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนทั่วโลกเดินทางร่วมงานเจรจาธุรกิจ “Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2018” ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักกอล์ฟ ณ จ.ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 61 เวลา 11. 00 น. ณ โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขึ้นกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายการสื่อสารการตลาด กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ โดยมี นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต , นายวิรัช พาที ผู้อำนวยการการกีฬา จังหวัดภูเก็ต, นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้, นายภูมิกิตต์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต, ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการโรงแรม ตลอดจนสื่อมวลชนทั่วโลกกว่า 100 ราย เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายการสื่อสารการตลาด กล่าวว่า งาน “Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2018” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2561 ณ โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ด้านกอล์ฟของประเทศไทยในเวทีระดับโลกในฐานะ World Class Golf Destination ประชาสัมพันธ์ศักยภาพความพร้อมด้านกีฬากอล์ฟของประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวชาวต่างประเทศให้รับทราบถึงสินค้าด้านกอล์ฟ และบริการทางการท่องเที่ยวและนำไปเสนอขายในรายการนำเที่ยว สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจกอล์ฟของไทย นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ สู่ตลาดต่างประเทศ และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาเล่นกอล์ฟในประเทศไทย รวมถึงสร้างรายได้จากกิจกรรมกอล์ฟของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ซึ่งการเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้สามารถดึงความสนใจจากเอเจนท์ชั้นนำทั่วโลกได้เป็นอย่างดี จังหวัดภูเก็ตเองนอกจากแหล่งท่องเที่ยวด้านธรรมชาติ ทะเลแล้ว ด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาก็ยังเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะกีฬากอล์ฟซึ่งจะเป็นการตอกย้ำและสร้างภาพจำใหม่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จัก โดยใน 1 ปี มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเล่นกีฬากอล์ฟมากถึง 4 แสนคนต่อปี และมีนักท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวทั่วไปและมาเล่นกีฬากอล์ฟนับล้านคนต่อปี ถือเป็นรายได้อันดับ 2 ของประเทศเมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวในลักษณะอื่น ซึ่งนี้จะเป็นการตอกย้ำและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะ “World Class Golf Destination” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
โดยกิจกรรมภายในงาน ททท. ได้จัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย โดยเชิญผู้ซื้อ (Buyers) จำนวน 128 ราย จากทั่วโลกผ่านการเชิญจากสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ มาพบปะกับผู้ขาย (Sellers) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านกอล์ฟ โรงแรม และสถานบริการด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยกว่า 109 ราย นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมกอล์ฟทัวร์นาเม้นท์ และการนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวด้านกอล์ฟ แหล่งท่องเที่ยวและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมเชิญสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศจำนวน 41 ราย มาเข้าร่วมทำข่าวเผยแพร่การจัดงานฯ ด้วย
นายธเนศวร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพิเศษของการเล่นกอล์ฟในเมืองไทยนอกเหนือจากการเล่นกอล์ฟแล้วยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆได้ อาทิ Spa, การนวด และอาหารการกินต่างๆ เพราะฉะนั้นกอล์ฟจึงเป็นแม่เหล็กที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย และประเทศไทยยังเป็นเมืองที่โดดเด่นในด้านการเล่นกอล์ฟอันดับ 1 ในเอเชีย รวมถึงความพร้อมของสนามที่มีมากกว่า 200 สนามทั่วประเทศ งานนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เอเจนท์จากทั่วโลกด้านกีฬากอล์ฟได้มาพบปะกับเอกชนไทยที่เป็น Sellers ทั่วประเทศ ทำให้เกิดความร่วมมือด้านธุรกิจและเป็นการนำเสนอการท่องเที่ยวให้กับเมืองไทย
ทั้งนี้ กลุ่มกอล์ฟเป็นตลาดความสนใจเฉพาะที่มีศักยภาพสูง ทั้งยังสามารถต่อยอดการขายไปสู่สินค้าอื่น อาทิ ชอปปิ้ง สปา และอาหารไทย โดยในปี 2559 พบว่า มีนักท่องเที่ยวที่มาทำกิจกรรมกอล์ฟในประเทศไทยประมาณ 4 แสนกว่าคนสร้างรายได้ประมาณ 4.8 พันล้านบาท มีค่าใช้จ่ายวันละ 12,215 บาท/คน/วัน และภายใน 2 ปี คาดว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มาจากธุรกิจท่องเที่ยวในด้านกีฬากอล์ฟจะสูงขึ้นจากเดิม 5-7 % เป็น 10 %