ทหารตามงานพระราชดำริ พร้อมขับเคลื่อน 3 โครงการ
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตาม การขับเคลื่อนและขยายผลโครงการตามแนวพระราชดำริในจังหวัดรวม 3 โครงการ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช ระยะที่ 5 สร้างฝายคลองพระแทวและอุทยานเทิดพระเกียรติหาดสุรินทร์ ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2560 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ ปภ.เขต 18 ภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พล.อ.ยศนันท์หร่ายเจริญ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุ1 และคณะเดินทางมาประชุมติดตาม การขับเคลื่อนและขยายผลโครงการตามแนวพระราชดำริจังหวัดภูเก็ตโดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต, นายฉลาด แก้วขาว เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต, นายณรงค์ อ่อนอินทร์ ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีการดำเนินโครงการ ตามแนวพระราชดำริ ประกอบด้วย
1)โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับพระราชานุญาตจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งแต่ปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประชาชนเยาวชนได้เห็นความหลากหลายแห่งศักยภาพของทรัพยากรไทยได้เข้ามาเรียนรู้อนุรักษ์พัฒนาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรของชาติอย่างยั่งยืน
โดยขณะนี้จังหวัดภูเก็ตดำเนินการอยู่ในระยะที่ 5 ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2560 จังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชมีมติให้จัดกิจกรรม ดังนี้คือกิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว,กิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เรียนรู้และการใช้ประโยชน์จากพืชอนุรักษ์ รับผิดชอบ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรภูเก็ต,กิจกรรมส่งเสริมการปลูกและดูแลรักษาส้มแขก(ส้มควาย) ดำเนินการโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ตและกิจกรรมจัดทำเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์โครงการของหน่วยงานของ อพ.สธ. รับผิดชอบโดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต และการดำเนินงานโครงการมีการขยายผลไปสู่นักเรียนในโรงเรียนต่างๆจำนวน 9 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โอกาสนี้ พล.อ.ยศนันท์ กล่าวว่าขอชื่นชมจังหวัดภูเก็ตที่ได้มีการจัดโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้เป็นอย่างดีแม้ว่าพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชนอกจากจะส่งเสริมรักษาพันธุ์พืชที่หายากแล้วยังจะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อีกด้วย และอยากให้สร้างพี่เลี้ยงที่เป็นทั้งส่วนของเอกชนและส่วนราชการช่วยกันขยายพื้นที่การดำเนินโครงการ ขยายเครือข่ายการมีส่วนร่วมและช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้แหล่งท่องเที่ยวและศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย การประชาสัมพันธ์บุคคลต้นแบบที่อยู่ในโครงการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การประชาสัมพันธ์ให้ได้รับทราบว่าเมื่อมีการดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริเช่นโครงการฝายทดน้ำก่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนชุมชนและสังคมประชาชนพึ่งพาตนเองได้ เป็นต้น ทั้งหมดจะเป็นตัวชี้วัดที่แสดงได้ว่าโครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
2) โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านป่าครองชีพอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต อันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (โครงการก่อสร้างฝายคลองพระแทว) ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการปรับปรุงฝายคลองพระแทวพร้อมระบบส่งน้ำไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่มีความเดือดร้อน มีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการจำนวน180 ครัวเรือนรวม 900 คน พื้นที่ 620 ไร่และปัจจุบันมีการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโครงการที่ราษฎรได้รับพระเมตตาและมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และ
3) โครงการอุทยานเทิดพระเกียรติหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ตและภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ตร่วมดำเนินโครงการ เพื่อส่งเสริมให้หาดสุรินทร์เป็นอุทยานเทิดพระเกียรติ และต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ตอีกแห่งหนึ่งที่จะมีการนำเรื่องราวกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พระสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ควบคู่กับการ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมพื้นที่สาธารณะอย่างยั่งยืนเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีโครงการที่จะพัฒนาให้เป็นอาคารบริการ,ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล,อาคารแสดงสินค้า,อาคารโครงการพระราชดําริ77จังหวัด,ลานวัฒนธรรม,อาคารจุดชมวิว,อนุสาวรีย์มหาราช 9 พระองค์,อาคารเฉลิมพระเกียรติภาพถ่าย ร. 9,พิพิธภัณฑ์เรือใบ,พลับพลาที่ประทับ,สนามกอล์ฟหลุม 7,ศูนย์อาหารพื้นเมืองประชารัฐ, ลานกิจกรรม,ลานจอดรถและสวนราชพฤกษ์ 4 ภาคเพื่อเป็นพื้นที่ปลูกพันธุ์ไม้หายากโดยการดำเนินโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 800 ล้านบาทขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบประมาณบางส่วนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำโครงการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดสุรินทร์ เป็นต้น
ในเรื่องนี้ พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ กล่าวว่าโครงการอุทยานเทิดพระเกียรติหาดสุรินทร์อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการนำสินค้าพื้นเมืองสินค้าโอทอปซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนผลิตจากประชาชนมาจำหน่ายด้วยอันจะเป็นการส่งเสริมเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายให้กับประชาชนซึ่งจะถือเป็นการสนองพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ได้เป็นอย่างดี