ท่าเทียบเรือรัษฎา ภูเก็ต จัดระเบียบแท็กซี่ นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานท่าเทียบเรือรัษฎา ภูเก็ต จัดระเบียบแท็กซี่ นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ท่าเทียบเรือรัษฎา ภูเก็ต จัดระเบียบแท็กซี่ นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้
ในการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ห้องประชุมท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต บริษัท ซีทราน ทราเวิล จำกัด โดย นางสาวพรรัตน์ ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการฯ ผู้บริหารท่าเรือรัษฎา จัดแถลงข่าวชี้แจง เกี่ยวกับรายละเอียดการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะที่มารับและส่งผู้โดยสารภายในท่าเทียบเรือรัษฎา โดยมี นายประชา อัศวธีระ ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ภาคใต้ตอนบน, ผู้แทน กอ.รมน.ภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว, งานจราจร สภ.เมืองภูเก็ต, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, อบจ.ภูเก็ต , ผู้แทนจากเทศบาลตำบลรัษฎา และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังและสอบถามข้อมูลการจัดระเบียบ ได้ให้นำระบบเข้ามาและร่วมกับทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคใต้ตอนบน นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะที่มารับและส่งผู้โดยสารภายในท่าเทียบเรือรัษฎา ทั้งนี้ ได้นำมาใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของการจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างสาธารณะ การจัดลำดับในการรับ-ส่งผู้โดยสารของรถยนต์รับจ้างสาธารณะ มีการกำหนดอัตราการค่าโดยสารให้เหมาะสมต่อไป
นางสาวพรรัตน์ ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการฯ ได้กล่าวว่า เนื่องจาก Smart Harbour และท่าเทียบเรือเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาของจังหวัดภูเก็ตการนำเทคโนโลยีมาใช้ จึงทำให้ท่าเทียบเรือต่างๆ มีศักยภาพและมีมาตรฐานการบริการที่ได้ในระดับสากล ท่าเทียบเรือรัษฎาถือว่าเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ช่วงโลว์ซีชั่น มีผู้โดยสาร 2,000 คน/วัน ส่วนในช่วงไฮซีซั่นมีผู้โดยสาร 3,00-4,000 คน/วัน ให้บริการเดินทางจากภูเก็ตไปยังเกาะต่างๆ อาทิ เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะหลีเป๊ะ ฯลฯ และยังมีเรือเฟอรี่ที่ได้ดำเนินการให้บริการมามากกว่า 20 ปี
บริษัท ซีทราน ทราเวิล จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานในการบริหารท่าเทียบเรือรัษฎาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ได้ส่งเสริมให้นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาท่าเทียบเรือรัษฎาได้รับคำแนะนำ และได้รับสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ได้เริ่มต้นโดยบริษัทยัคโก้ เป็นผู้เขียนระบบให้ตรงตามความต้องการ ในการตรวจนับ คัดแยกผู้โดยสาร ช่วงแรกจะเป็นการทดลองใช้ระบบผ่านท่าด้วยระบบ Turnstile ซึ่งในอนาคตระบบจะรองรับการตรวจ QR CODE ที่สามารถแสดงข้อมูลผู้โดยสารโดยละอียดต่อไป
ทั้งนี้ ท่าเทียบเรือรัษฎายังเป็นหนึ่งในท่าเรือในโครงการที่มีการติดตั้งกล้องตรวจจับใบหน้าที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนส่งเสริมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุรรรณภูมิ ด้วยการประสานงาน จาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) เป็นกล้อง CCTV ที่สามารถตรวจจับใบหน้าพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ซึ่งสามารถคัดกรองหรือติดตามผู้ต้องสงสัยได้ และยังร่วมกับกรมการขนส่งทางบกที่เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อมูลรถที่ได้รับการลงทะเบียน เพื่อคัดกรองรถเข้ารับส่งผู้โดยสาร ให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่า รถที่มาใช้บริการได้ผ่านการตรวจสอบว่าถูกต้อง
นางสาวพรรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามท่าเทียบเรือรัษฎาเข้าใจถึงการประกอบการรถแท็กซี่ท้องถิ่น จึงมีการดำเนินการจัดคิวแท็กซี่ ให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ท้องถิ่นได้รับคิวเข้ามาบริการลูกค้าคิดเป็นร้อยละ 70 ของคิวแท็กซี่ทั้งหมด
ในการจัดทำระบบครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้แก่ ทางด้านราคาที่แตกต่างกันของแท็กซี่แอพพลิเคชัน กับแท็กซี่คิวพื้นที่, ลดการทะเลาะวิวาท ที่เกิดจากการปิดกั้นแท็กซี่แอพพลิเคชัน การล่าช้าและไม่เป็นระเบียบในการเข้า-ออก รวมทั้งความต้องการใช้บริการแท็กซี่ไม่พอดีกับการจัดคิว โดยมีการยกเว้นการเก็บคอมมิชชั่นจาก 20% มาเป็นการเก็บเพื่อจัดราคาขายให้ลดลง แท็กซี่ได้กำไรมากขึ้น เก็บแท็กซี่แอพพลิเคชันในการเข้ารับผู้โดยสารเพียง 50 บาท/คัน เพื่อให้รถแอพพลิเคชันเพิ่มราคาค่าบริการ ทั้งนี้จะมีการกั้นทางเดินรถป้องกันลูกค้าลากกระเป๋าออกไปขึ้นรถด้านนอก นำระบบเข้ามาใช้ในการจัดการเข้าออกท่าเทียบเรือ ลดเวลาในการชำระเงิน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้บัตร และเพิ่มระบบให้ลูกค้าสามารถกดคิวเรียกแท็กซี่ได้ด้วยตนเอง
นางสาวพรรัตน์ กล่าวถึง การดำเนินการจัดระเบียบรถเข้า-ออก เพื่อพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้ท่าเทียบเรือมีศักยภาพและมีมาตรฐานการริการในระดับสากล และช่วยแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบ การเข้า-ออก ท่าเทียบเรือให้มีความสะดวกมากขึ้น ไม่ติดขัดรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มทดลองดำเนินการในวันที่ 1 ธันวาคม 2566นี้ เบื้องต้นมีรถแท็กซี่ที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมในการใช้ระบบแล้วประมาณ 200 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ส่วนด้าน นายสิทธิพงศ์ ปิลวาสน์ ผู้จัดการ บริษัท รัษฎาวีไอพีคอรัล กรุ๊ป กล่าวว่า การให้บริการรถแท็กซี่รับส่งนักท่องเที่ยวคิวหน้าท่าเรือรัษฎา ในฐานะที่ตนประกอบธุรกิจอยู่ตรงนี้มานาน จึงข้อเสนอผ่านทางนายก อบจ.ภูเก็ต ไปหารือกับทางบริษัทฯที่ได้รับสัมปทาน ได้ข้อสรุปว่า ข้อแรก คือ ขอให้ยกเลิกการลงทะเบียนของรถนอกพื้นที่ที่ลงทะเบียนมากว่า 200 คัน ส่วนข้อ2 ให้รถที่ให้บริการคิวหน้าท่าเรือรัษฎาทุกคนมาลงเบียนและจัดส่งรายชื่อให้กับนายก อบจ.ภูเก็ต ข้อ 3 ยกเลิกการจัดเก็บค่าใช้จ่าย 20% แต่ขอเก็บคันละ 50 บาทแทน และข้อสุดท้าย ให้ตั้งอัตราค่าบริการรับส่งใหม่ที่ได้มาตรฐาน เช่น จากท่าเรือรัษฎาไปส่งเจดับบลิวไม้ขาวเดิม 1,500 บาท ลดลงเหลือ 1,000 บาท เป็นต้น