นายก อบจ.ภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติ ครั้งที่ 6
นายก อบจ.ภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติ ครั้งที่ 6
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติ ครั้งที่ 6 โดยนายจรัสเดช อุลิต กล่าวรายงานในนามคณะผู้จัดการแข่งขัน และนายประสิทธิ์ สินเสาวภาคย์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวต้อนรับ ซึ่งมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-17 มีนาคม 2567 โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจาก 52 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า 1,200 คน ร่วมแข่งขัน 10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย มวยไทย, มวยโบราณ และการแข่งขันศิลปะมวยไทย, มวยไทยกึ่งสมัครเล่น และมวยไทยอาชีพ, มวยสากล, คิกบ๊อกซิ่ง, จูจิตสุ, ดาบไทย คาราเต้, จิคุนโด และพิธีไหว้ครูมวยไทยโลก ในวันที่ 17 มีนาคม 2567
การแข่งขันมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ โดยสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ และสมาคมครูมวยไทย จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม และส่งเสริมประเพณีไทย การชกมวยไทย รำมวยไทย และการไหว้ครูมวยไทยนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติ และเสริมสร้างน้ำใจนักกีฬา โดยการใช้ศิลปะการสู้มาเชื่อมโยงความเข้าใจอันดีต่อกัน
นายเรวัต อารีรอบ กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติ และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันฯ ในวันนี้ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้มีโอกาสต้อนรับทัพนักกีฬาจากทั่วโลก จำนวน 52 ประเทศ และต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ สมาคมครูมวยไทย ที่มองเห็นศักยภาพ มองเห็นความพร้อม และตัดสินใจเลือกจัดงานฯ ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ต มีนโยบายในการส่งเสริมพัฒนา และยกระดับการกีฬาให้เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดภูเก็ต ได้มีโอกาสบูรณาการและร่วมขับเคลื่อนการจัดมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีกับจังหวัดภูเก็ต”
ด้านนายจรัสเดช อุลิต กล่าวว่า “การแข่งขันมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ จัดมาแล้ว 5 ครั้ง ที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยการจัดที่จังหวัดภูเก็ต เป็นครั้งที่ 6 ซึ่งต้องขอขอบคุณ อบจ.ภูเก็ต ที่สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้”