ปัญหาน้ำเน่าบางเทาลงทะเล โชว์ผลงานอบต.ไร้น้ำยา

         ชาวบ้านหาดสุรินทร์-บางเทาเอือมระอา ผู้บริหาร อบต.แก้ปัญหาความเดือดร้อนไม่ได้โดยเฉพาะน้ำเสีย น้ำเน่าไหลลงทะเล ช่วงหน้าฝนทุกปี เสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว พาสื่อดูบ่อบำบัด 2 บ่อ จากงบประมาณกว่า 355 ล้านบาทสร้างเสร็จใช้งานไม่ได้ แถมสร้างเขื่อนกันคลื่น โดยไม่ศึกษาระบบสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศน์เสีย อีกทั้งวัตถุก่อสร้าง หลายอย่างใช้งานไม่ได้ แม้กระทั่งเสาไฟฟ้าส่องสว่าง วอนผู้มีอำนาจแก้ไขด้วย ด้านผู้ใหญ่หมู่ 3 บอกหน้าตาเฉย ไม่มีใครร้องเรียน ส่วนรองนายกฯ อบต.ออกมาแจง บ่อบำบัดทำงาน 24 ชั่วโมง แต่มีรายงานระบบน้ำเสีย ใช้งานไม่ได้ ว่าน้ำเสียยังมีอยู่ เพราะผู้ประกอบการไม่ต่อท่อเข้าระบบ พบ 90% ยังลอบปล่อยลงคลองโดยตรง นายกฯอบต.เชิงทะเลเสนอให้ทุกฝ่ายมาประชุมโต๊ะกลมร่วมกันแก้ที่ต้นตอ จัดทีมลงตรวจเชือดโรงแรม สถานประกอบการเห็นตัวปล่อยน้ำทิ้งลงคลอง

ชาวบ้านเอือมระอา

ผู้บริหารไม่เอาไหน

         จากกรณีมีผู้เผยแพร่ภาพและข้อความน้ำเสียภายในคลองบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่ามีสีดำ และส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมากโลกโซเชียล และการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้สื่อข่าว พบว่าภายในลำคลองดังกล่าวสภาพน้ำมีสีดำคล้ำ และส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะช่วงตั้งแต่บริเวณชายหาดจนถึงสะพานข้ามระยะทางประมาณ 120 เมตร สอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวทราบว่า น้ำในบริเวณนี้มีสีดำและส่งกลิ่นเหม็นมากซึ่งเป็นลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้จะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาถาวร มีเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนของระบบบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ก็ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

         เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 นายจำลอง สิทธิเดช ชาวบ้านหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สำรวจหาดสุรินทร์-เชิงทะเล-บางเทา ดูผลงานการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียสองแห่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลหาดสุรินทร์ หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล และใกล้ชายหาดบางเทา บ้านบางเทา หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงทะเล พบว่า บ่อบำบัดน้ำเสียทั้ง 2 แห่ง ไม่ได้เดินเครื่องบำบัดน้ำเสียแต่อย่างใด (ดูภาพประกอบ)

         นายจำลอง กล่าวว่า บ่อบำบัดน้ำเสียทั้ง 2 แห่งก่อสร้างด้วยเงินงบประมาณของแผ่นดิน โดยที่เป็นเงินงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เป็นเงิน 106 ล้านบาท และเงินสมทบจากกองทุนสิ่งแวดล้อม เป็นเงินจำนวน 249 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดรวม 355 ล้านบาท เป็นเงินจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชน หลังจากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2555 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ไม่สามารถเดินเครื่องบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ได้เลย ยังคงมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล ทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายเป็นอย่างมาก

         นอกจากโครงการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียที่สูญเปล่าแล้ว ยังมีความพยายามที่จะก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเล ซึ่งไม่ได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศน์ทะเลตามบริบทเดิม ซึ่งบริเวณหาดสุรินทร์-บางเทา-เลพัง ในแต่ละปีเป็นพื้นที่ที่มีชายหาดในช่วงหนึ่ง และอีกช่วงหนึ่งชายหาดก็ถูกคลื่นซัดหายไปบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของกระแสน้ำ และกระแสคลื่น แม้กระทั่งปัจจุบันจะมีข่าวว่า น้ำทะเลสูงขึ้นจากสภาวะโลกร้อน แต่การก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นด้วยวัสดุที่แข็ง จะทำให้พื้นที่ส่วนอื่นมีผลกระทบไปด้วย หรือเสียความสมดุลทางธรรมชาติของระบบนิเวศน์ทะเลไปจากเดิม ต้องถือว่า หน่วยงานของภาครัฐ ทำให้ระบบนิเวศน์ทะเลพื้นที่ตำบลเชิงทะเลพังทั้งระบบ ความเสียหายเกิดขึ้นประเมินค่ามิได้

         “ยังคงมีสิ่งปลูกสร้างอีกหลายอย่างที่ใช้งานไม่ได้ อาทิ เสาไฟฟ้าแสงสว่างแบบสูง อาคาร และอื่นๆ อีกหลายรายการที่เป็นงบประมาณจากภาษีพี่น้องประชนที่ก่อสร้างเสร็จ ใช้งานไม่ได้” นายจำลอง กล่าว

         ด้าน นายเกชา เกราะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านบางเทา  ต.เชิงทะเล เจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน, ชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และชาวบ้านที่อยู่ริมคลอง ว่ามีน้ำเน่าเสีย และมีกลิ่นเหม็นมากและเป็นบ่อยครั้ง  จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ด้วย  เนื่องจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และการทำมาหากินของพี่น้องในชุมชนโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านการบริการนักท่องเที่ยวรวมถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน

         ปัญหาที่เกิดขึ้นในคลองแห่งนี้ กลุ่มพี่น้องประมงพื้นบ้าน และกลุ่มเรือหางยาวได้มีการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2556 จนปัจจุบันปัญหาก็ยังเหมือนเดิม ทราบว่าทางผู้ว่าฯภูเก็ตมีดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาในบริเวณนี้อย่างจริงจัง และทางชุมชนก็รอความหวังอยู่

         “ในวันนี้ รู้สึกจะทนไม่ได้กับน้ำเสียในพื้นที่ ขอวอนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีอำนาจช่วยแก้ปัญหาน้ำเสีย น้ำดำ น้ำมีกลิ่นเหม็นของพื้นที่ตำบลเชิงทะเลด้วย ที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวแก้ว่า สามารถแก้ปัญหาด้วยการเติมโอโซนต่างๆ แต่สามปี สี่ปี ก็ยังเกิดปัญหาแบบนี้ จึงขออ้อนวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาหน่อย ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพ เรือประมง เรือท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยว ชมรมเรือหางยาวบางเทา จะประกอบอาชีพได้อย่างไร ถ้าสภาพยังเป็นอยู่อย่างนี้” นายเกชา กล่าว

         นายวิสิทธิ์ จำปาดะ ผู้ประกอบการเรือหางยาวบางเทากล่าวว่า ปัญหาน้ำเน่าเป็นมานานแล้ว สิ่งแวดล้อมไม่ดีเป็นอย่างมาก  แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านไปมาบริเวณนี้ ต่างบอกว่า เป็นเรื่องไม่ดีเลย หรือNo Good  และนักท่องเที่ยวก็ไม่มาเล่นน้ำทะเลที่บริเวณปากคลองซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงแรมที่พักซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่ก็จะโทษว่า เกิดจากชาวบ้าน ซึ่งปัญหานี้เป็นมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว  ที่ผ่านมาก็ได้มีการร้องเรียนมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะลงมาตรวจสอบ จากนั้นก็หายไป ไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจังจึง อยากให้มีการแก้ปัญหาอย่างถาวรเพราะบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

จังหวัดยกโขยงดมน้ำเน่า

ผู้ใหญ่ฯบอกไม่มีใครร้อง

         ปรากฏว่า ในเบื้องต้นเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอถลาง ร่วมกับอบต.เชิงทะเล และผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และได้มีการประชุมหาข้อสรุปเพื่อเร่งแก้ไขปัญหา

         ต่อมาในช่วงเย็น เวลา 17.30 น. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้ นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล ปลัดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต, นายสุรชาติ เดชอรัญ ปลัดอำเภอ ปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอถลาง,เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ บริเวณอ่าวบางเทา หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง  เพื่อตรวจสอบกรณีมีการนำเสนอข่าวพบน้ำเสียส่งกลิ่นเน่าเหม็น โดยมีนายศิริ ยกทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลพร้อมด้วยนายชัยยงค์ จันทร์ทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลางให้การต้อนรับ และรายงานข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

         นายชัยยงค์ จันทร์ทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า บริเวณอ่าวบางเทาหมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเลแห่งนี้เป็นพื้นที่ต่ำต้องรับน้ำจากพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 5 ตำบลเชิงทะเล อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยในเบื้องต้นในฐานะผู้นำท้องที่ยังไม่ได้รับการร้องเรียนความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเลแต่อย่างใด

         ด้าน นายศิริ ยกทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลให้ความสำคัญกับการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล โดยขณะนี้ มีระบบบำบัดน้ำเสียใน 2 พื้นที่ แบ่งเป็นโซน คือ โซน A เป็นระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่หาดบางเทา โดยรับน้ำเสียในพื้นที่รับผิดชอบมาทำการบำบัด  และโซน B เป็นระบบบำบัดน้ำเสียรับผิดชอบพื้นที่หาดสุรินทร์ ทั้งนี้ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลจะมี 18 สถานีสูบน้ำที่เป็นจุดรวบรวมน้ำเสีย และส่งน้ำมาบำบัดในพื้นที่โซน A  และโซน B ดังกล่าว

         ขณะนี้ขอยืนยันว่า ระบบบำบัดน้ำเสียโซน A และโซน B ซึ่งรับผิดชอบบริเวณชายหาดบางเทา และหาดสุรินทร์ได้ทำการบำบัดน้ำเสียตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้จากการลงพื้นที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำ คาดว่าจะทราบผลภายใน 5-7 วัน

         สำหรับแผนในการบำบัดน้ำเสีย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ในปีงบประมาณ 2562 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้มีการว่าจ้างบริษัทขวัญระวีเข้ามาดูแลระบบการบำบัดน้ำเสียของพื้นที่ตำบลเชิงทะเลทั้งหมด ปฏิบัติงานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562

         ในส่วนของแผนระยะยาวองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้ลงนามความตกลงกับ องค์การบริหารจัดการน้ำ(อจน.) ที่จะเข้ามาดูแลวางระบบการบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ และไม่ให้เกิดปัญหาน้ำเสีย ซึ่งเป็นมลภาวะที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยมีระยะเวลาในการดำเนินงาน 15 ปี

นายกอบต.ฯแจง

แนะแก้ที่ต้นทาง

         จากกรณีน้ำในคลองบางเทาเน่าเสียและไหลลงทะเลหน้าหาดบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน และนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียไหลลงทะเลนั้น เกิดจากปัญหาผู้ประกอบการและชาวบ้านปล่อยน้ำทิ้งให้ไหลลงคลองโดยตรง ไม่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาก็ยังเกิดอยู่

         แม้ว่าที่ผ่านมาทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติงบประมาณในการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่แล้ว แต่จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณริมคลองบางเทายังมีชาวบ้านโรงแรมสถานประกอบการร้านอาหารยังลักลอบปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดลงคลองโดยตรงอยู่ มีน้ำที่ต่อท่อเข้าสู่ระบบบำบัดประมาณ 5- 10 % เท่านั้นทำให้ปัญหาน้ำเสียไหลลงคลองบางเทา และไหลลงทะเลยังมีคงอยู่

         ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนนั้น ตนได้นำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตผ่านทางปลัดจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วโดยจะนำกระสอบทรายมาปิดที่บริเวณคลองบางเทาก่อนถึงทะเลประมาณ 150 เมตร เพื่อให้น้ำไหลมารวมกันในจุดดังกล่าวและใช้เครื่องสูบน้ำในคลองที่ไหลมารวมกัน ซึ่งมีทั้งน้ำดีและน้ำเสียกลับเข้าสู่ระบบบำบัดก่อนที่จะปล่อยกลับลงคลองโดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป

         นายมาแอน กล่าวต่อว่า แม้การดำเนินการสูบน้ำจากคลองเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย จะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการสูบน้ำที่มารวมกันในคลอง ทั้งจากน้ำดีที่เกิดจากฝนตกและน้ำเสียจากครัวเรือนโรงแรม สถานประกอบการ เมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนมากเข้าสู่ระบบทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำดังกล่าวจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องทำเพื่อไม่ให้น้ำเน่าไหลลงทะเล

         ส่วนการแก้ปัญหาในระยะกลาง และระยะยาวได้เสนอให้จังหวัดเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมโต๊ะกลม เพื่อนำเสนอถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาข้อเท็จจริงของปัญหา ว่าเกิดจากอะไร หลังจากนั้นจะต้องเชิญทั้งหน่วยงานราชการ รวมทั้งภาคส่วนที่ทำให้เกิดน้ำเสีย ทั้งในพื้นที่อบต.เชิงทะเล เทศบาลเชิงทะเลมาร่วมประชุมเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา และกลับไปแก้ไขปัญหาน้ำเสียที่ต้นทาง เพราะปัญหาน้ำเน่าที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากคนที่ไม่ยอมทำตามระเบียบข้อกำหนดไม่ยอมต่อท่อเข้าสู่ระบบซึ่งจะต้องสร้างจิตสำนึก และบังคับใช้กฎหมายกันต่อไป

น้ำฝนไล่น้ำเน่าใสแล้ว

เช็คโรงแรมเห็นแก่ตัว

         ล่าสุด ขณะรายงานข่าววันที่ 13 พฤษภาคม 2562 จากการตรวจสอบน้ำบริเวณปากคลองบางเทาที่ไหลลงทะเลหน้าหาดบางเทา พบว่า ในวันดังกล่าวสภาพน้ำที่ไหลลงคลองเป็นน้ำใส ไม่มีน้ำเน่าสีดำปะปนแต่อย่างใด รวมทั้งกลิ่นน้ำเน่าก็หายไป ทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำทะเลสีปกติ

         นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ขณะนี้สภาพน้ำในคลองบางเทาที่ไหลลงทะเลหาดบางเทาไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสียแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำใสคิดว่า น่าจะเกิดจากการขุดลอกตะกอนในคลอง ห่างจากจุดปากคลองประมาณ 300 – 400เมตร รวมทั้งช่วงนี้มีฝนตกหนักทำให้น้ำในคลองมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เมื่อน้ำดีมากก็จะทำให้น้ำเสียลดน้อยลง

         แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวันนี้น้ำในคลองจะมีความใส และไม่มีกลิ่น แต่ก็ยังไม่วางใจ การดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่คลองบางเทาก็ยังคงทำอยู่ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมถุงทรายเพื่อปิดทางน้ำสำหรับสูบเข้าระบบบำบัดน้ำเสียแล้ว หากมีปัญหาน้ำเน่าน้ำดำก็จะดำเนินการทันที ส่วนการขุดลอกตะกอนก็จะดำเดินการต่อ เพื่อสูบน้ำเน่าจากคลองเข้าสู่ระบบบำบัด

         นายมาแอน กล่าวต่อว่า สำหรับต้นตอที่ทำให้เกิดน้ำเสียนั้นอย่างที่ทราบ ว่าเกิดจากคนที่ไม่ยอมต่อท่อน้ำทิ้งเข้าระบบบำบัด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม พรุ่งนี้ ( 14 พ.ค.) ทาง อบต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรม สถานประกอบการ ร้านอาหาร อื่นๆ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตากฎระเบียบก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

         ทั้งมีการแชร์กันในโซเชียลว่า “วันนี้ที่ 13 พ.ค.62 กลุ่มประมง เรือท่องเที่ยว ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ที่ให้ฝนตกชะล้างน้ำเสีย กลิ่เหม็นลงทะเล ที่นายกบอกว่าขุดลอกแล้วแก้ได้แล้วไซร้ ไม่บอกว่า น้ำใสเพราะเครื่องบำบัดใช้ได้ดี #ไหนว่าเดินเครื่องทุกวัน #ฝนหยุดตก น้ำคลอง สกปรกเหมือนเดิมนะ จะบอกให้”

พบรายงานระบบบำบัดเสีย

อยู่ระหว่างการแก้ไข

         จะอย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาในพื้นที่บริเวณโซนคลองบางเทา ปรากฏว่า มีโพสต์ในไลน์ของ “อพปร.รวมใจเป็นหนึ่ง” โดยผู้ใช้ชื่อ “vinit” แชร์เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2562 มีใจความว่า

เรียน   ท่านรอง (ไม่มีชื่อ) ผมประสานการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวดังนี้

         1. บริเวณโซนคลองบางเทา รับน้ำเสียพื้นที่เลียบคลองบางเทา ยกเว้นพื้นที่ในเขต ทต.เชิงทะเล มีระบบบำบัดน้ำเสียรวมขนาด 2,800 ลบ.ม. เดิมเครื่องมือและอุปกรณ์ชำรุด เนื่องจากไม่ใช้งาน

         2. ปัจจุบัน มีการดำเนินการแก้ไขปัญหา

                     2.1 ซ่อมแซมเครื่องมือและอุปกรณ์ระบบฯ เช่น ปั๊มเติมอากาศ ให้สามารถทำงานได้ (เสร็จและทำงานแล้ว)

2.2 ขุดลอกทราย ขยะในบ่อดักน้ำเสีย เนื่องจากทรายท่วมปั๊มสูบน้ำเสียหาย จึงไม่สามารถสูบน้ำเสียเข้าระบบฯได้ (คาดว่า เสร็จประมาณ 1 สัปดาห์) ปัจจุบันน้ำเสียสูบเข้าระบบฯประมาณ 10%

2.3 น้ำเสียจากบ้านเรือน ร้านค้า สถานประกอบการ ที่ตั้งอยู่ริมคลอง 100% ไม่เชื่อมท่อน้ำเสียเข้าระบบบำบัดน้ำเสียรวม และปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองบางเทาโดยตรง

ประเด็นนี้ รับทราบว่า นายก อบต.อยู่ระหว่างดำเนินการ

         ทั้งนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 จะมีหนังสือแจ้ง/ เสนอแนะให้ อบต.เชิงทะเล บังคับใช้กฎหมาย โดยให้ผู้ประกอบการดำเนินการเชื่อมท่ออีกทางหนึ่งครับ

         จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบครับ

         ท้ายหนังสือฉบับนี้ ก็ไม่มีชื่อว่าใครเป็นผู้ทำหนังสือชี้แจงการแก้ปัญหา โดยเฉพาะระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งขัดกับการชี้แจงของนายศิริ ยกทอง รองนายก อบต.เชิงทะเล ที่รายงานกับคณะของจังหวัดที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่ว่าระบบบำบัดน้ำเสียทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำเน่าโผล่อีกแล้ว

หลังน้ำใสแค่แป๊บๆ ครั้งนี้ดำสนิทเหมือนเดิม

         จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่หาดบางเทา จ.ภูเก็ต ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียจากคลองบางเทาไหลลงทะเลบริเวณชายหาดบางเทา ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและนักท่องเที่ยว รวมทั้งทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว

         ล่าสุด วันที่ 14 พ.ค.62 ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณสะพานใกล้กับหาดบางเทาพบว่ามีน้ำสีดำไหลลงคลอง และ ไหลลงไปบริเวณชายหาดอีกแล้ว หลังจากเมื่อช่วงเช้าวานนี้พบว่าน้ำในคลองมีความใสสะอาดและน้ำที่ไหลลงทะเลก็มีความใส แต่ผ่านไปเพียงชั่วค่อนวันกลับพบว่าน้ำในบริเวณดังกล่าวมีสภาพเน่าเหม็นเหมือนเดิม และนำยังไหลลงคลองตามปกติ

         นายเกชา เกาะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เชิงทะเล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบหลังจากพบว่าวันนี้มีน้ำเสียไหลลงทะเลที่หาดบางเทาอีก จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณปากท่อที่เชื่อมจากระบบบำบัดซึ่งปกติจะปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดมาลงคลองบริเวณสะพานก่อนถึงชายหาดมีน้ำสีดำล้นท่อออกมา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำที่ล้นระบบบำบัดน้ำเสีย

         จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบว่า ระบบบำบัดน้ำเสียของ อบต.เชิงทะเล สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบน้ำในคลองซึ่งอยู่เหนือจากจุกที่มีการท่อลงมาพบว่าน้ำในคลองปกติ แม้ว่าจะชาวบ้านที่ต่อท่อน้ำเสียลงคลองบ้างก็ตาม แต่ปริมาณก็ไม่มากจนทำให้น้ำในคลองเน่าเสียจนเป็นสีดำเหมือนจุดที่มีน้ำล้นออกมา

         เรื่องนี้คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ซึ่งงบประมาณในการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียจำนวนหลายร้อยล้านบาทซึ่งสร้างเสร็จมาแล้ว 2 ปี แต่ชาวบ้าน และ นักท่องเที่ยวยังคงประสบปัญหาน้ำเน่าเสียไหลลงคลองและชายหาดบางเทาอยู่


#Phuket
#Thailand
#กินไหนดีภูเก็ต
#มีเดียภูเก็ต
#ข่าวภูเก็ต
#ท่องเที่ยวภูเก็ต
#อาหารภูเก็ต
#ช้อปปิ้งภูเก็ต​
#โรงแรมภูเก็ต​
#อสังหาฯภูเก็ต​
#เศรษฐกิจ​ภูเก็ต​
#www.phuketprice.com
#ภูเก็ตไพรซ์