“พอร์ต มัจฉานุ” แถลงข่าวชี้แจงและยื่นฟ้อง เรียกค่าเสียหาย คู่กรณีกว่า 1 ล้านบาท
“พอร์ต มัจฉานุ” แถลงข่าวชี้แจงและยื่นฟ้อง
เรียกค่าเสียหาย คู่กรณีกว่า 1 ล้านบาท
บริษัท ภูเก็ตซุปเปอร์ยอร์ชมารีน่า จำกัด ในนามท่าเรือ “พอร์ต มัจฉานุ” ได้ให้การสนับสนุน การจัดการแข่งขันไตรกีฬาระยะไกล “พอร์ตมัจฉานุ คนเหล็กไทย ภูเก็ต 2566” โดยกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ภายในท่าเทียบเรือพอร์ตมัจฉานุ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่ปรากฎว่าก่อนถึงวันแข่งขันประมาณ 2 สัปดาห์ ทางคู่กรณีจัดการแข่งขัน ซึ่งได้รับมอบหมายจากสมาคมกีฬาไตรกีฬาแห่งประเทศไทย ที่รับผิดชอบจัดการแข่งขัน แจ้งว่า ไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ โดยอ้างว่าจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันมีจำนวนน้อยเกินไป และจะทำการคืนเงินที่ทาง บริษัท ภูเก็ตซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด สนับสนุนการจัดการแข่งให้แต่ผลปรากฏว่าเงียบหายไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด
วันที่ 15 ส.ค.66 เวลา 10.30 น. ณ The PlayYard นายธีระวัฒน์ วัฒนโสภณกุล ฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด และ นายวีระศักดิ์ พรหมทอง ทนายความ ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีการยื่นฟ้องร้องคู่กรณี หลังจากที่มีการแจ้งยกเลิกการจัดการแข่งขันกระทันหัน ทั้งในส่วนที่สนับสนุนสมาคมฯ และการมอบหมายให้กับทางผู้รับผิดชอบจัดการแข่งขัน แต่ปรากฎว่ายังไม่ได้เงินคืน, และยังสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงบริษัทฯ
นายธีระวัฒน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของบริษัทฯ และผู้สนับสนุนรายอื่นๆ เป็นอย่างมาก รวมถึงในส่วนของผู้ที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทางบริษัท ภูเก็ตซุเปอร์ยอร์ชฯ ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ผ่านทางนายดำรง ไชยเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต (กกท.ภูเก็ต) ร้องขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ในการดำเนินการดังกล่าว และบริษัทได้รับแจ้งว่า มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อจัดการแข่งขัน ดังนี้.
สำหรับ เงินบริจาคให้กับทางสมาคมกีฬา ไตรกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 5 แสนบาท ,ค่าจ้างจัดกิจกรรมการแข่งขันไตรกีฬา และ ทวิกีฬา จำนวน 5 แสนบาท,ค่าจัดทำวีดิโอประชาสัมพันธ์งาน จำนวน 2 แสนบาท,ค่าจัดงานแถลงประชาสัมพันธ์งาน จำนวน 1 แสน บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ พร้อมทั้งมีการลงนามว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง จัดการแข่งขัน เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 โดยการดำเนินการนั้นทางบริษัทยืนยันไม่จัดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ หลังจากนั้น บริษัท ฯได้มีการติดตามงานมาอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่าการดำเนินงานไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง เช่น การจัดการประชาสัมพันธ์ไม่มีการจัดทำป้าย และ การประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตกลงกัน ต่อมาทางคู่กรณีได้ขอยกเลิกการจัดการแข่งขันดังกล่าว เพียง 2 สัปดาห์ ก่อนวันจัดการแข่งขัน โดยอ้างว่ามีจำนวนผู้สมัครน้อย ไม่เป็นไปตามเป้า มีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันไม่ถึง 100 คน ซึ่งการยกเลิกงานดังกล่าว ทำให้ทาง ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า และผู้สนับสนุนการจัดงานรายอื่นๆ เกิดความเสียหายกันถ้วนหน้า และมีการพูดต่อ ๆ กันไปอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นการหลอกลวง จัดงานขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเองสร้างความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากมาย รวมทั้งชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทางบริษัทฯ ได้ทำการยื่น Notice ไปให้บุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ แต่ยังเพิกเฉย ไม่มีการติดต่อใดๆ ไม่มีการแสดงความจริงใจใดๆ ในการแก้ปัญหานี้ ดังนั้นจากการกระทำของบุคคลและกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทฯ จึงต้องรักษาภาพลักษณ์ที่เสียไปจากการยกเลิกการจัด การแข่งขันไตรกีฬาระยะไกล พอร์ต มัจฉานุ คนเหล็กไทย ไตรกีฬา ภูเก็ต 2566 จึงได้มอบหมายให้ทนายดำเนินการฟ้องร้อง ดำเนินคดีตาม กฎหมาย ต่อศาลจังหวัดภูเก็ตไปเรียนร้อยแล้ว
สำหรับการแข่งขัน “พอร์ตมัจฉานุ คนเหล็กไทย ภูเก็ต 2566” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดข้างเคียง และ เพื่อให้นักกีฬาและผู้ที่สนใจในกีฬาไตรกีฬา เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต และเกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนทั่วไปในจังหวัดภูเก็ต เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับจังหวัดและระดับประเทศ และเพื่อให้เกิดการพัฒนากีฬาไตรกีฬาให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงการพัฒนานักกีฬาไทยให้มีความสามารถทัดเทียมนานาชาติและเป็นตัวแทนทีมชาติต่อไปในอนาคตได้ เผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดผ่านการแข่งขันงานไตรกีฬาดังกล่าว และสามารถยกระดับการแข่งขันไตรกีฬานี้เป็นการแข่งขันที่จะจัดขึ้นทุกๆ ปี เพื่อให้นักกีฬาและนักท่องเที่ยววางแผนการแข่งขันและท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจัดการแข่งขันโดยคณะกรรมการ ไตรกีฬากลุ่มอายุประเทศไทย รับรองการแข่งขันโดยสมาคมกีฬาไตรกีฬาแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การว่ายน้ำช่องแคบภูเก็ตไปพังงา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร, ปั่นจักรยานจากภูเก็ตผ่านเส้นทางที่สวยงามไปยังจังหวัดพังงา และจากพังงากลับภูเก็ต เส้นทางวิ่งจะวิ่ง รอบละ 7 กิโลเมตร โดยเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยและร่มไม้ป่ายางพาราที่สวยงาม