พ่อเมืองภูเก็ตเตรียมจัดเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น อปพร.ดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาดไปชั่วคราว
ภูเก็ตจะไม่มีไลฟ์การ์ดตามหาดต่างๆ แล้ว หลัง 30 ก.ย.ที่บริษัท ภูเก็ตไลฟ์การ์ดสิ้นสุดระยะจ้างกับอบจ.ภูเก็ต เผยไม่ประมูลต่อเพราะวงเงินที่สภาอบจ.อนุมัติ 19.8 ล้านบาท ไม่เพียงพอในการบริหารจัดการตลอดทั้งปี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 ก.ย.60 บริษัท ภูเก็ตไลฟ์การ์ด จำกัด แถลงข่าวสรุปผลการทำงานไลฟ์การ์ด เรื่อง ผลการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ในรอบปี 2560 ที่ผ่านมา โดยมี นายประทัยยูธ เชื้อญวน ประธานชมรมไลฟ์การ์ดภูเก็ต พร้อมด้วย ไลฟ์การ์ดจากหาดต่างๆ ในภูเก็ต เข้าร่วม ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้
โดยทางบริษัท ภูเก็ตไลฟ์การ์ด ซึ่งได้รับการว่าจ้างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ในการบริหารจัดการไลฟ์การ์ดตามชายหาดต่างๆ ประจำปี 2560 ทั้งนี้เพื่อดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ที่ทำกิจกรรมบนชายและนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำ โดยได้ดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งสามารถช่วยนักท่องเที่ยวจากการจมน้ำและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนชายหาดและในทะเลได้เป็นจำนวนมาก
โดยไลฟ์การ์ดแต่ละหาด ระบุว่า ถึงแม้ว่าทางไลฟ์การ์ดจะพยายามที่จะป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากการลงทุนเล่นน้ำ เพื่อลดสถิตินักท่องเที่ยวจมน้ำให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามป้ายที่ห้าม หรือไม่ฟังคำเตือนของไลฟ์การ์ด ลงไปเล่นน้ำในช่วงจังหวะเวลาที่ขึ้นธงแดง เล่นน้ำนอกเขตโซนนิ่งที่กำหนดให้เล่นน้ำ กระแสน้ำและคลื่นที่แรง และเล่นน้ำตามหาดที่ไม่มีไลฟ์การ์ดพประจำ ลงไปถ่ายรูปตามโขดหินต่างๆ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจมน้ำและได้รับอันตราย ที่ต้องให้ไลฟ์การ์ดลงไปให้การช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ ตามหาดต่างๆ ในภูเก็ต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไลฟ์การ์ดที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีค่อยดูและให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่อไป
นายประทัยยูธ เชื้อญวน ประธานชมรมไลฟ์การ์ดภูเก็ต กล่าวว่า ตลอดปี 2560 นี้ ไลฟ์การ์ดที่ประจำอยู่ตามหาดต่างๆ ในภูเก็ต สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทั้งหมด 337 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย 35 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 302 คน การให้การช่วยเหลือลดลงจากปี 2559 ที่มีทั้งหมด 761 และเสียชีวิต 7 คน ทั้งนี้เนื่องจากทางไลฟ์พยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับนักท่องเที่ยวที่อยู่บนชายหาด แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนธงแดง ไม่ฟังคำเตือน เล่นน้ำนอกเขตที่กำหนด เป็นต้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไลฟ์การ์ดประจำตามหาดต่างๆ ค่อยดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ฝ่าผืนคำเตือนอยู่เป็นประจำ
นายประทัยยูร กล่าวเพิ่มว่า บริษัท ภูเก็ตไลฟ์การ์ดจะครบกำหนดสัญญาว่าจ้างกับ อบจ.ภูเก็ต ในวันที่ 30 ก.ย.2560 นี้ ซึ่งเท่าที่รับทราบขณะนี้ทางสภา อบจ.ภูเก็ต ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับจัดจ้างไลฟ์การ์ดตามหาดต่างๆ เป็นเวลา 1 ปี ด้วยวงเงิน 19.8 ล้านบาท และขณะนี้กำลังเปิดให้ผู้ที่สนใจยืนซองประมูลดังกล่าวอยู่ แต่ทางบริษัท ภูเก็ตไลฟ์การ์ดไม่ได้เข้าไปยื่นซองประมูลดังกล่าว แม้ว่าทางอบจ.ภูเก็ตจะเชิญชวนเข้ามาก็ตาม ทั้งนี้วงเงินงบประมาณที่สภาอบจ.ภูเก็ต อนุมัติ 19.8 ล้านบาทนั้น ทางบริษัทไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เพียงพอในระยะเวลา 1 ปี จึงตัดสินใจไม่ยืนประมูลดังกล่าว
โดยเมื่อครบสัญญาว่าจ้างในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทางบริษัทและไลฟ์การ์ดทั้ง 90 กว่าคน ที่ประจำตามชายหาดสำคัญๆ ของภูเก็ต ก็จะเลิกปฏิบัติงานออกจากหาดทั้งหมดในเวลา 18.30 น.และขณะนี้ทางบริษัทกำลังประสานกับหน่วยงานราชการ ที่จะนำป้ายแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ไม่มีไลฟ์การ์ดปฏิบัติงานตามชายหาด ด้วยข้อความ ” WARNING NO LIFEGUARD ON DUTY SWIM AT^ YOUR RISK “ ติดตั้งตามชายหาดต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทราบ และได้ระมัดระวังในการลงเล่นน้ำ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีไลฟ์การ์ดค่อยดูแลและให้การช่วยเหลือ
“เชื่อว่าหลังวันที่ 30 ก.ย.ที่ครบกำหนดสัญญาจ้างกับอบจ.แล้ว และไม่มีไลฟ์การ์ดทำหน้าที่บนชายหาด ทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีแนวทางในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวจมน้ำโดยไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบดูแลไม่ได้ จะทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต”
นายประทัยยูร ระบุเพิ่มว่า วงเงินงบประมาณที่จะเพียงพอในการบริหารจัดการตลอดทั้งปี อยู่ที่ 22 ล้านบาท ตามที่ อบจ.ภูเก็ต เคยจัดสรรมาก่อนหน้านี้ และในปีนี้เท่าที่ทราบส่วนงานที่รับผิดชอบได้เสนอของบประมาณในวงเงิน 22 ล้านบาท ไป แต่ถูกตัดให้เหลือ 19.8 ล้านบาท ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา อบจ.ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางสภา อบจ.ภูเก็ต มีเหตุผลอะไร จึงอนุมัติงบให้เพียง 19.8 ล้านบาท แทนที่จะเป็น 22 ล้านบาท ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
พ่อเมืองภูเก็ตเตรียมจัดเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น อปพร.ดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาดไปชั่วคราวก่อน แต่ทางอบจ.ภูเก็ตเตรียมคุยกับบริษัทเดิมเพื่อขอจ้าง 2 เดือนก่อนหลังหมดสัญญา และเตรียมยกร่าง TOR ใหม่ในการหาผู้จ้างไลฟ์การ์ดตามชายหาดต่างๆ
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ทางอบจ.ภูเก็ตได้เปิดให้ผู้ที่สนใจมายืนซองประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 11.00 น. แต่เมื่อครบตามกำหนดเวลา 1 ชั่วโมง ไม่มีผู้มียืนซองประมูลจึงปิดการประมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทาง อบจ.ได้ดำเนินการหาผู้รับจ้างอยู่แต่ยังไม่มีผู้มายื่นประมูลซึ่งอาจเกิดจากเรื่องของค่าจ้างที่น้อยไปไม่น่าสนใจ ซึ่งดูจากข้อเท็จจริงของการจ้างๆของปีที่ผ่านมาๆ ก็พบว่ามีการลดงบประมาณลงเรื่อยๆ เคยตั้งสูงสุดถึงประมาณ 25 ล้าน ต่อมาลดลงเหลือ 22 ล้าน และล่าสุดปีงบประมาณ 2561 ถูกตัดเหลือ 19 ล้านเศษ โดยวันนี้ไม่มีผู้มายื่นประมูลแต่อย่างใด ทางจังหวัดได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่อปพร.ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ชายหาดทั่วเกาะภูเก็ต จึงขอให้นักท่องเที่ยวและประชาชนมั่นใจว่า ทางจังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวในระดับสูงสุด เพื่อดูแลความปลอดภัย ของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายนรภัทร กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาให้ความสนใจและกำชับให้ตนแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากการให้ความดูแลนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดภูเก็ต
ด้าน นายเสถียร แก้วพระปราบ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การแก้ปัญหาในระยะสั้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จะใช้วิธีการกระบวนการทางงบประมาณที่กฎหมายสามารถเปิดช่องให้ทำได้คือ จะใช้วิธีจัดจ้างพิเศษเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดจากบริษัทไลฟ์การ์ดเดิมในอัตราค่าจ้างเท่าเดิมในช่วง 1 เดือนแรกหลังวัน 30 ก.ย.เป็นต้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดชุดเดิมได้ทำหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยระยะเวลา 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 -31 ตุลาคม 2560 เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในระยะยาวก็จะดำเนินการแก้ไขโดยการยกร่าง TOR ใหม่ เพื่อกำหนดเงื่อนไขการจ้างต่างๆขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดในปัจจุบัน
ขณะที่ นายมนูญ เขียวคราม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางสภาอบจ.ได้อนุมัติผ่านสภาด้วยงบประมาณ 19 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัทเดิมไม่เห็นด้วยกับงบประมาณดังกล่าว จึงไม่มีการยื่นซองประมูล ตนจึงอยากให้บริษัทอื่นๆ เข้ามายื่นประมูลในครั้งนี้