ภูเก็ตจัดกิจกรรมผู้ว่าฯพบสื่อมวลชน ชี้แจงความเข้าใจการขับเคลื่อนกฎกระทรวงฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566
ภูเก็ตจัดกิจกรรมผู้ว่าฯพบสื่อมวลชน ชี้แจงความเข้าใจการขับเคลื่อนกฎกระทรวงฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กทั่วประเทศ มีโอกาสเข้าเกณฑ์ขอรับใบอนุญาตโรงแรมได้มากขึ้น และส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วย
วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00-11.00 น. ณ ห้องประชุมมุขหน้า ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตในการแถลงข่าวตามโครงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายสำคัญ ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (กิจกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดพบสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต) โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฯ มีหัวหน้าส่วนราชการมาทางภาครัฐเอกชนและสื่อมวลชนเข้าร่วม
โดยนายอนันต์ ชูช่วย นายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ตและนางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) ร่วม แถลงข่าวเกี่ยวกับกฎกระทรวงฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กทั่วประเทศ มีโอกาสเข้าเกณฑ์ขอรับใบอนุญาตโรงแรมได้มากขึ้น และยังคงเล็งเห็นความสำคัญของโครงสร้างอาคารที่จำเป็นต้องมีความแข็งแรงปลอดภัย ตามเกณฑ์การขอใบอนุญาตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ผู้ประกอบการเองหากเข้าเกณฑ์ได้รับใบอนุญาตจะสามารถขอสินเชื่อเงินทุนขยายปรับปรุงกิจการ ต่อยอดธุรกิจเพิ่มเม็ดเงินลุงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่อไปซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วย
โดยนายอนันต์ ชูช่วย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2566 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 140 ตอนที่ 36ก ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2566 แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 เพื่อให้อาคาร ที่มีอยู่ก่อนวันที่ 19 สิงหาคม 2559 สามารถนำอาคารดังกล่าว ที่ประสงค์จะเปลี่ยนการใช้อาคารมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ให้เข้าสู่ระบบการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ โดยได้รับการผ่อนผัน ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับที่ว่างของอาคาร ช่องทางเดินในอาคาร ความกว้างของบันได ระยะถอยร่นแนวอาคาร ฯลฯ แต่ทั้งนี้ อาคารที่จะเปลี่ยนการใช้ดังกล่าวต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและมีระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว จะสามารถเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับชุมชน และระดับประเทศ เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
ด้าน นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ กล่าวว่า “ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีโรงแรมที่เปิดให้บริการ 4,600 แห่ง มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย 900 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต 3,700 แห่ง ดังนั้นหากโรงแรมขนาดเล็กได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้อง จะทำให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 10,000คน/วัน(Ocp60%) 2.19 ล้านคน/ปีสร้างรายได้ 16,202 ล้านบาท/ปีทั้งนี้ โรงแรมขนาดเล็กมีรายได้ค่าห้องพักจากนักท่องเทียวเพียง10%กว่า 1,620 ล้านบาท/ปี และจะทำให้มีเงินสะพัดไปกิจการอื่นๆกว่า2,500แห่ง กว่า14,585ล้านบาท/ปี และเกิดการจ้างงานมากกว่า 25,000คน
สำหรับ ผลที่คาดว่าจะได้รับต่อผู้ประกอบการ SMESโรงแรมขนาดเล็กที่ได้รับใบอนุญาตมีดังนี้
โรงแรมอยู่ในระบบที่ถูกต้องของภาครัฐสามารถกำกับดูแลและควบคุมได้/ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพิ่มรายได้จากสินทรัพย์ของตนเอง เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวเกิดการจ้างงานจ้างอาชีพ ส่งผลให้ครอบครัวสังคมและชุมชนมีความเข้มแข็งมั่นคง สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ลดการพึงพาความช่วยเหลือจากภาครัฐ/ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากจากจุดเริ่มต้นกระจายรายได้ให้แก่ supply chain อื่นๆ เชีน taxi เรือ ทัวร์ ร้านอาหาร ซักรีด ร้านค้า เป็นต้น ดังที่ ทางผอ.ททท ประจำประเทศสิงค์โปร์และฟิลิปปินส์ได้บรรยายสรุปสถิติค่าใช้จ่ายของนักท่องเทียวทั้งสองประเทศต่อการเดินทางไปเทียวต่างประเทศจะมีรายได้ต่อหัวต่อวันอย่างต่ำวันละ 6,000฿ และกว่า 70% จะถูกกระจายไปสู่เครือข่ายชุมชน เพิ่มภาษีและรายได้รวมของจังหวัดภูเก็ตและประเทศเตรียมความพร้อมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้าน Supply Side เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังจะหลังไหล้เข้ามาท่องเที่ยวในช่วง High Season ตามเป้าหมายเพิ่มปริมาณจำนวนนักท่องเที่ยว ปี2566 จำนวน 30 ล้านคน ของสภาอุตสาหกรรมท่องเทียวแห่งประเทศไทย (สทท)”
นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ดังนั้นในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กจึงอยากจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ โรงแรมขนาดเล็กที่ได้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อให้ทันในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาถึงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว”