ภูเก็ตน้ำท่วมขังซ้ำซาก ไร้จริงจัง-จริงใจแก้ไขต้นเหตุ
เป็นที่ทราบกันดีว่าในพื้นที่ทะเลอันดามัน จะมีปริมาณฝนตกค่อนข้างมากในแต่ละปี แม้ว่าในระยะหลังๆ สภาวะอากาศจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมาก็ถือว่ามากอยู่ สำหรับจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าจะมีฝนตกหนักและนานเพียงใด แต่เมื่อฝนหยุดตกทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติ และพื้นที่ที่เกิดปัญหาก็มักจะเป็นจุดเดิมๆ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นในเขตพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต หรือป่าตอง ซึ่งเราจะเห็นหน่วยงานต่างๆ ดาหน้ากันออกมาตรวจสอบหรือบอกว่าระหว่างการแก้ไขทุกครั้งที่มีปริมาณฝนตกหนักและน้ำท่วมขังเป็นข่าวออกไป และหลังจากนั้นทุกอย่างก็จะเงียบหายไป
เข้าใจได้ว่าน้ำท่วมของภูเก็ตเป็นลักษณะของการท่วมขัง เพื่อรอการระบาย และเมื่อฝนหยุดตกทุกอย่างก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเหตุผลที่ได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตลอด คือ น้ำทะเลหนุน มีขยะและสิ่งปฎิกูลกีดขวางอยู่ในลำคลอง รวมไปถึงการสร้างสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำหรือการถมพื้นที่รับน้ำเพื่อการพัฒนา เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ เจ้าของพื้นที่ต่างทราบกันเป็นอย่างดี แต่จนปัจจุบันก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้
คนที่น่าเห็นใจมากที่สุด คือ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและกลายเป็นรับน้ำ แม้ว่าน้ำบนพื้นถนนจะแห้งหายไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมว่า ส่วนหนึ่งของปริมาณน้ำนั้นได้ไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน และบางจุดก็ไหลเข้าสู่สถานที่ราชการ ซึ่งแต่ละครั้งก็สร้างความเสียหายพอสมควร แต่เราอาจจะไม่เห็นการออกมาร้องเรียนหรือร้องขอความเห็นใจ อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาช่วงที่เคยเกิดปัญหาครั้งสองครั้งแรกได้ร้องเรียนไปแล้วแต่เรื่องเงียบ เลยทำใจ และหาทางช่วยเหลือตัวเอง
อย่างไรก็ตามทราบมาว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมขังของจังหวัดภูเก็ต ได้รับงบประมาณในการแก้ไขหลายร้อยล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่เทศบาลนครภูเก็ตกับเทศบาลเมืองป่าตอง แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ฝนที่ตกลงมาก็ยังคงมีการท่วมขังและสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ และทุกครั้งที่มีน้ำท่วมขังหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะลงไปดูพื้นที่กันครั้งหนึ่ง เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติทุกอย่างก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคงไม่ใช่เหตุผลที่ฟังจนคุ้นหู แต่ต้องหารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาหาแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะปัญหานี้ไม่ใช่พึ่งเกิดเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา แต่เกิดมาหลายปีมากแล้ว และโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งพื้นที่รับน้ำเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากการเติบโตของเมือง ซึ่งเราคงไม่สามารถไปห้ามการเจริญเติบโตได้ แต่เราจะเตรียมรับมือกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร การบังคับใช้กฎหมายที่จริงจังกับผู้ที่ทิ้งขยะลงไปในแม่น้ำลำคลอง หารขุดลอกคลองธรรมชาติสายหลักหรือสายรอง รวมไปถึงคูระบายน้ำต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมักพบเห็นดินทรายลงไปอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก
หลายๆ ปัญหาสามารถวางแผนในการแก้ไขได้ เพราะต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า ในจะมาช่วงใด อย่าอ้างว่ามีงานอื่นๆ ที่สำคัญกว่าต้องทำมากมาย เพราะหากยังคงปล่อยให้มีน้ำท่วมขังรอการระบายอยู่เช่นนี้ ภาพลักษณ์ของเมืองก็เสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมาตามแก้ภายหลังน่าจะหนักว่าการป้องกันนะ..เจ้านาย..