ภูเก็ตแฟนตาซี ฉลอง 20 ปี สุดยิ่งใหญ่ เปิดตัว “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่เดียวในโลก! ทุ่มงบกว่า 5,000 ล้านบาท
ภูเก็ตแฟนตาซี ฉลอง 20 ปี สุดยิ่งใหญ่ เปิดตัว “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่เดียวในโลก! ทุ่มงบกว่า 5,000 ล้านบาท จัดเต็มแสงสีเสียงโชว์อลังการ ตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเอเชีย
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 16.45 น. ที่ผ่านมา ดร.ผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหาร พร้อม นายกิตติกร คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ภูเก็ตแฟนตาซี และ บจก.คาร์นิวัลเมจิก แถลงข่าว ภูเก็ตแฟนตาซี ฉลองครบรอบ 20 ปี ด้วยการเปิดตัวโครงการธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรก และที่เดียวในโลก ด้วยงบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือของภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งอยู่ ณ หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใกล้กับภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งเป้าให้เป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่แห่งใหม่ของเอเชีย คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้มากถึง 1-2 ล้านคนต่อปี และคาดว่ามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี
นายกิตติกร คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ภูเก็ตแฟนตาซี และ บจก.คาร์นิวัลเมจิก เปิดเผยว่า “ปีนี้ภูเก็ตแฟนตาซี ครบรอบ 20 ปี เราขอฉลองการครบรอบด้วยการเปิดโครงการใหม่ที่พิเศษ ยิ่งใหญ่ไม่เหมือนใคร กับโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก” ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรกและที่เดียวในโลก เป็นสวนสนุกที่มีคอนเซปต์การจัดงานรื่นเริงสไตล์งานฟันแฟร์หรืองานวัดของไทย ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผสมผสานความสนุกสนานแบบไทย ๆ ในมาตรฐานระดับโลก สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจ และความปรารถนาที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ สิ่งที่โลก ไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งที่งดงามตระการตา มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย เป้าหมายของเรา คือ การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแบบแลนด์มาร์ค ที่สามารถสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเยือนภูเก็ตให้มากขึ้น ช่วยสร้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค”
สำหรับโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก” เป็นธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรกและที่เดียวในโลกประกอบไปด้วย 4 โซนหลัก ดังนี้
โซนที่ 1 คือ คาร์นิวัลฟันแฟร์ (Carnival Fun Fair) ตื่นตาตื่นใจกับถนนช้อปปิ้ง ที่จะพบกับสินค้าคุณภาพนานาชนิดจากทั่วภูมิภาคทั่วไทย ในร้านค้ามากมายที่ออกแบบตกแต่งอย่างงดงาม ตระการตา สีสันสดใสสไตล์คาร์นิวัล ในบรรยากาศแห่งความรื่นเริงสุขสันต์ของเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลิน ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่กำลังช้อปปิ้งอีกด้วย เช่น ถ้วยชาหมุน ชิงช้าสวรรค์ ขับรถแข่ง นั่งรถไฟ และม้าหมุนที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ
โซนที่ 2 ภัตตาคารเบิร์ดออฟพาราไดซ์ (Bird of Paradise) เป็นภัตตาคารบุฟเฟต์ที่สามารถรองรับผู้มาเยือนได้มากถึง 3,000 ที่นั่ง ในบรรยากาศการรับประทานอาหารเสมือนอยู่ในสวนแห่งสวรรค์ รายล้อมด้วยรูปปั้นนกยูงที่ยิ่งใหญ่ ภายในติดตั้งระบบปรับอากาศพร้อมด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ สามารถใช้จัดเลี้ยงส่วนตัวเฉพาะกลุ่มได้ทุกขนาด บริการเมนูอาหารเลิศรสกว่า 100 เมนู ซึ่งเป็นเมนูแบบตะวันตก และตะวันออก อาหารอินเดีย อาหารมังสวิรัติ และอาหารฮาลาล
นอกจากนี้ ยังมีภัตตาคารหรู 3 ชั้นอีกแห่ง มีชื่อว่า “River of Bliss Luxury Restaurant” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลลอยกระทง ภายในให้บริการอาหารแบบเซตเมนูที่ลูกค้าเลือกเองได้ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกระทงที่สวยงาม และอีกหนึ่งไฮไลต์ของภัตตาคารแห่งนี้ คือ ลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้จะต้องมาตรงกลางของ “น้ำตกแห่งความสุข” (Happiness Falls) ที่บริเวณทางเข้าเพื่อขึ้น “เรือแห่งความสุขสำราญ” (Barge of Happiness) ซึ่งเรือจะลอยขึ้นเหนือจากพื้นประมาณ 7 เมตร เพื่อเข้าสู่บริเวณภายในภัตตาคาร
โซนที่ 3 คือ โรงละครริเวอร์พาเลซ (River Palace) เป็นโรงละครขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่กว่า 16,000 ตรม. หรือ ประมาณ 10 ไร่ นับเป็นโรงละครที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็น 1 ในโรงละครที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยตัวอาคาร มีความยาวถึง 200 เมตร รองรับผู้ชมได้มากถึง 2,000 ที่นั่ง และภายในมีเวทีการแสดงที่กว้างถึง 70 เมตร สูง 22 เมตร พร้อมการแสดงบนเวทีในรูปแบบพาเหรดอินดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในชื่อ “ริเวอร์คาร์นิวัล” (River Carnival) เป็นการแสดงพาเหรดที่ผสมผสานศิลปะไทยกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าด้วยกัน มีความยาวประมาณ 60 นาที ไฮไลต์อยู่ที่ ขบวนรถพาเหรดที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 70 เมตร หรือเทียบเท่ากับเครื่องบินจัมโบ้ A380 และพบกับความยิ่งใหญ่ทำลายสถิติโลกของฉากเรือในขบวนแห่ และขบวนพาเหรดลอยฟ้าขนาดมหึมาที่ไม่มีใครสร้างมาก่อน พร้อมทั้งจอแอลอีดีที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา สำหรับการจัดการแสดงพาเหรดในโรงละครแห่งแรกของโลก เครื่องยนต์กลไกพิเศษ ระบบแสงและเทคโนโลยีสำหรับเอฟเฟกต์พิเศษที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
โซนที่ 4 คือ คิงดอมออฟไลทส์ (Kingdom of Lights) เป็นเมืองที่มีไฟประดับประดาสวยงามมากกว่า 40 ล้านดวงที่จะทำให้ทุกท่านได้เดินเที่ยวชมและสัมผัสกับแสงไฟที่สวยงามเหนือจินตนาการ ตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา ไฮไลต์ของโซนนี้ คือ “River of Lights” ที่มีการนำดวงไฟหลายล้านดวงมาประดับบนโครงเหล็กดัดลวดลายสวยงาม (Luminarie) ที่มีความยาวรวมถึง 50 กิโลเมตร เป็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ล้อมรอบทะเลสาบ โดยลูกค้าสามารถเดินผ่านสะพานเข้ามาในโซนนี้ เพื่อชมความอลังการของดวงไฟหลายสิบล้านดวงแบบพาโนรามารอบทิศทาง
สำหรับ กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้ “คาร์นิวัลเมจิก” เป็นที่รู้จักและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้น นายกิตติกร ระบุว่า เราเน้นการทำแผนสื่อสารการตลาดเชิงรุก แบบ 360 องศา มีทั้งการทำออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะเราเน้นการทำโปรโมตทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่ชื่นชอบการมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกว่า 40 ประเทศ มีการทำโร้ดโชว์ไปยังสถานที่สำคัญทั่วทั้งภูเก็ต และจังหวัดสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งเอเย่นต์ทัวร์ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศที่เป็นพันธมิตรกับเรามาอย่างยาวนานกว่า พันแห่ง และแน่นอนว่าเราหันมาสร้างการรู้จักแบรนด์ผ่านการใช้สื่อออนไลน์และTV ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปีหน้า โดยกลุ่มเป้าหมายของคาร์นิวัลเมจิกนั้น ได้วางสัดส่วนเป็นคนต่างชาติและคนไทยไว้ที่ 70:30 คาดว่าจะดึงดูด นักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้มากถึง1-2 ล้านคนต่อปี และคาดว่ามีรายได้ 1,500 ล้านบาทต่อปี
“คาร์นิวัลเมจิก คือ ความฝันและจินตนาการของเรา ที่เราต้องการจะมอบให้เป็นของขวัญให้กับชาวภูเก็ตและชาวไทยทุกท่าน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคาร์นิวัลเมจิกจะเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจ สร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับผู้ที่มาเที่ยวชม และสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยทุก ๆ คน”
นายกิตติกร ยังกล่าวถึง แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภูเก็ตในปีหน้าว่า ด้วยศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ที่มีทั้งชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ที่มาเยือนภูเก็ต ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนภูเก็ตตกปีละ 12–13 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจประมาณ 4 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีนักท่องเที่ยวกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ ฉะนั้นความร่วมมือของ ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและ ภาคเอกชนจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโตรุดหน้าไปได้มากกว่านี้ ซึ่งเราในฐานะเป็นภาคเอกชนก็มีส่วนในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ด้วยการสร้างสรรค์พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ดึงเอาเสน่ห์และความเป็นไทยมาสร้างเอกลักษณ์ให้ดูแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจ และบรรยากาศการลงทุนให้จังหวัดได้มากทีเดียว
ทั้งนี้ โครงการคาร์นิวัลเมจิก จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ประมาณต้นปี 2563 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร: 076 563 888 แฟกซ์: 076 563 889 อีเมล์ : info@carnivalmagicpark.com
#Phuket #Thailand #กินไหนดีภูเก็ต #มีเดียภูเก็ต #ข่าวภูเก็ต #ท่องเที่ยวภูเก็ต #อาหารภูเก็ต #ช้อปปิ้งภูเก็ต #โรงแรมภูเก็ต #อสังหาฯภูเก็ต #เศรษฐกิจภูเก็ต www.phuketprice.com #ภูเก็ตไพรซ์