รองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที้นำหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบการรุกล้ำพื้นที่หาดนุ้ยเพื่อทวงคืนผืนป่าให้คนไทยใช้ประโยชน์
รองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที้นำหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบการรุกล้ำพื้นที่หาดนุ้ยเพื่อทวงคืนผืนป่าให้คนไทยใช้ประโยชน์
วันนี้ 12 มีนาคม 2567 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จังหวัดกระบี่, พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รองผู้กำกับการ (ป.) สภ.กะรน และฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลัง อส. กว่า 50 นาย พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 11 มีนาคม 2567 เพื่อเข้าตรวจค้นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด บริเวณหาดนุ้ย หมู่ที่ 2 ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต หลังพบว่ามีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้มี นายธนากร เสียมหาญ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบุคคลที่อ้างเป็นผู้ครอบครองพื้นที่รับทราบหมายค้นและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพื้นที่และตรวจสอบทรัพย์ที่มีการปลูกสร้างในพื้นที่เพิ่มเติม ในเนื้อที่กว่า 18 ไร่
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การบูรณาการกำลังลงพื้นที่ตรวจการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ในครั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ดำเนินการตามข้อกฎหมายกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่เข้าครอบครองพื้นที่ป่าไม้ โดยใช้ประโยชน์เพียงลำพัง เพื่อทวงคืนพื้นที่ป่าไม้ให้กับคนไทยทั้งประเทศได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
สำหรับ การนำกำลังและหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจสอบการปลูกสิ่งก่อสร้าง ทั้ง บ้านพัก จุดถ่ายภาพ หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ ว่ามีการเปลี่ยนสภาพเดิมมากน้อยเพียงใด และจะมีการจัดทำบัญชีตรวจยึดการก่อสร้างต่างๆ ทั้งหมด เพื่อเป็นบัญชีของกลางประกอบการดำเนินคดี ที่ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.กะรน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมายกับผู้ที่บุกรุก หรือถือครองผืนป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการยื่นฎีกาเกี่ยวกับเอกสาร สค.1 กระทั่งกระบวนการทางกฎหมายสิ้นสุด จนพื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตามเดิม ดังนั้นการดำเนินการในครั้งนี้ ถือเป็นการทวงคืนผืนป่าที่ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง และเป็นการดำเนินตามแนวทางของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ ที่ต้องการนำพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่สาธารณะ พื้นที่ชายหาด ต่างๆ คืนให้กับคนไทยทั้งประเทศใช้ประโยชน์ร่วมกัน และจะดำเนินการตามแนวทางการใช้พื้นที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยจะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมการรักษาพื้นที่ป่า โดยการมีส่วนของประชาชนเพื่อก่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป