วิธีทำแป้งร่ำ เครื่องประทินโฉมและเคล็ดลับความหอมของหญิงไทยแต่โบราณ

         หากใครที่ได้ดูละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ที่ออกอากาศในคืนวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา จะเห็นว่าคุณหญิงจำปา มีการสอน แม่หญิงการะเกด ให้ทำ “แป้งร่ำ” หรือเครื่องประทินโฉมของหญิงไทยในสมัยก่อน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่ได้ชมแล้วหลายคนคงจะอยากรู้ว่า แป้งร่ำ คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร และมีวิธีการทำอย่างไรกันบ้าง ?

        วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำวิธีทำแป้งร่ำกระแจะจันทร์ เครื่องหอมตำรับชาววัง โดยอาจารย์คมสัน ทินกร ณ อยุธยา จากเพจ วิชชาลัยแพทย์แผนไทย พิพิธเภสัชบริษัท มาสอนให้สาว ๆ ได้ลองศึกษาและทำตามกันดูค่ะ นอกจากจะได้เรียนรู้ว่าในสมัยก่อนหญิงไทยมีเคล็ดลับทำให้ตัวหอมอย่างไรแล้ว ยังได้เป็นการอนุรักษ์สูตรการทำแป้งร่ำแต่โบราณให้อยู่สืบไปอีกด้วย ^^

          เริ่มต้นจักกล่าวถึงภูมิรู้ในการปรุงเครื่องหอมแลเวชปฏิบัติเพื่อความสบาย อันนำมาซึ่งความงามทั้งภายนอกกายทั้งภายในกาย คือใจให้สบายแลบำรุงราศีให้ปรากฎขึ้นกรรมวิธี แลสูตรตำรับเหล่านี้ประดิษฐ์ขึ้นมาจากองค์ความรู้ทางเวชกรรมและเภสัชกรรมในราชสกุลแพทย์หลวง “ทินกร” แต่ครั้งสำนักหมอหลวงในพระบรมมหาราชวังหลวงที่กรุงเทพฯ สิ่งของหอม กายหอม ใจหอม นำมาซึ่งสุขภาพกายที่งามใจที่สบายทั้งสิ้นเพื่อความไม่ป่วยในผู้ไม่เจ็บเทียบได้กับคำว่า Wellness ในปัจจุบันนี้

         โดยจะกล่าวนำถึงการปรุงเครื่องหอมเพื่อใช้ในการเวชปฏิบัติ ของหอมนั้นทำให้หัวใจชุ่มชื่นเป็นองค์ความรู้ทางนามโดยการใช้สุคนธบำบัดเข้ามาช่วย การอบแป้งร่ำเพื่อใช้ในการขัดผิว การตกแต่งผิวกายให้ผ่อง น้ำลอยดอกไม้หอมเพื่อใช้เข้าสำรับปรุง การอบร่ำผ้าผ่อนเพื่อให้มีกลิ่นจรุงใจ กลิ่นหอมเหล่านี้จักเข้าไปในใจให้ใจสบาย เป็นเผดิมก่อนจะเวชปฏิบัติในขั้นตอนต่าง ๆ เริ่มที่เส้นผม ไปผิวกาย ท้ายที่ผิวหน้า ให้ความผ่องใสราศีจักบังเกิด ผิวภายนอกกายจะงาม เส้นผมจะสลวยหอมรัญจวน ผิวหน้าจะงามใสไร้ราคีมาแปดเปื้อน ใจก็จักสบาย กายก็จักงาม ใจสบาย ความป่วยไข้ถ้ามีก็บรรเทาลงด้วยใจ แต่ถ้าไม่ป่วยไข้ความสบายนั้นย่อมทำให้ห่างหายเพราะกายใจแข็งแรงพร้อม ถ้าไม่ป่วยควรจะงามพร้อม ป่วยไข้แล้วก็พึ่งจะงามใจจากงามกาย การปรุงสำรับและขั้นตอนการเวชปฏิบัติที่จะบรรยายต่อไปนี้ผู้ปรุงผู้กระทำเวชต้องทำให้ครบตามสำรับ ปฏิบัติให้ครบทุกขั้นตอน ห้ามขาด ห้ามข้าม ห้ามเกิน !

         ทั้งนี้ แป้งร่ำ นั้นหมายถึง แป้งที่มีน้ำหอมเจือแทรก นำมาร่ำตามเนื้อตัวให้หอมกรุ่นติดผิวเนื้อผิวกายจะย่างจะเยื้องเป็นได้กลิ่นติดจมูกกับผู้อยู่ใกล้ ใช้ผัดหน้าผัดผิวให้ขาวผ่องหอมละไม ชาววังแต่นานมาท่านปรุงแป้งร่ำไว้ใช้เองแลจำเป็นต้องใช้ ด้วยจะขึ้นเฝ้าเจ้านายจำต้องมีกลิ่นสะอาดแลผิวต้องหมดจดสดชื่น แม้เมื่อลุกออกจากที่ไปแล้ว แผ่นกระดานพื้นที่สาวชาววังนั่งอยู่นั้นยังติดกลิ่นหอมไปจนถึงเนื้อกระดานดั่งที่มาของคำว่า “หอมติดกระดาน” นั่นเอง

         ตกมาถึงยุคนี้มีรองพื้นขายกันเกลื่อนกลาด แป้งร่ำค่อย ๆ สูญหายหมดสิ้นไปตามกาลเวลาที่ผันผ่าน หากมีผู้ค้นคิดต่อยอดของโบราณนำแป้งร่ำมาขยับใส่ตลับเติมสีสันให้เข้ากับผิวด้วยสมุนไพรธรรมชาติ เช่น ฝางเสนทำให้สีออกอมแดง ก้านดอกกรรณิการ์ทำให้มีสีออกอมเหลือง กลิ่นแบบไทย ๆ สุขุมนุ่มลึกไม่ฉุนเฉียวไป อาจขายได้ขายดิบขายดีก็เป็นได้

         จึ่งขอคัดวิธีทำแป้งร่ำไว้เผื่อมีผู้ค้นคิดพัฒนาต่อยอด เป็นการช่วยผดุงรักษาสมบัติของชาติไว้ได้อีกชิ้นดั่งจักแจ้งนี้

วิธีอบ “แป้งร่ำกระแจะจันทร์”

เครื่องปรุงที่ต้องตระเตรียม

          1. แป้งหินหรือแป้งนวล ทำมาจากดินขาว เป็นเม็ดสีขาวไม่มีกลิ่น แนะนำให้ซื้อที่ร้านถาวรธนสาร แถวสำเพ็ง

          2. น้ำอบไทย เครื่องหอมที่เป็นน้ำ แนะนำให้ใช้น้ำอบแท้ตรานางลอยดีที่สุด

          3. น้ำดอกไม้ น้ำที่ผ่านการลอยดอกไม้หอมมาชั่วคืน ผ่านการอบต่อด้วยเทียนหอมแล้ว จึ่งได้น้ำดอกไม้

          4. ชะมดเช็ด ไขของตัวชะมดราคาแพงมากต้องนำมาสะตุให้สิ้นฤทธิ์เสียก่อน จึ่งนำมาใช้ได้ ซื้อได้ที่ บริษัท ภูลประสิทธิ์ จำกัด

          5. พิมเสนอย่างดี ต้องเป็นพิมเสนจากต้นพิมเสนมิใช่พิมเสนสังเคราะห์ ซื้อได้ที่ ร้านโพธิ์ประดิษฐ์ แถววัดสระเกศ

          6. ผิวกำยาน เป็นยางไม้จากต้นกำยานมีกลิ่นหอมมาก ซื้อได้ที่เดียวกันกับพิมเสน

          7. ผิวมะกรูด ด้วยต้องการน้ำมันหอมระเหยที่แทรกอยู่ในเนื้อผิวมะกรูด

          8. น้ำตาลทรายแดง ด้วยต้องการความหอมหวานของอ้อยแลเป็นเชื้อให้เกิดความร้อนเวลาอบเครื่องกระแจะ

          9. หัวน้ำดอกไม้เทศ ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดอกกุหลาบมอญ ซื้อได้ที่ร้านถาวรธนสาร

          10. สี สีเหลืองส้ม จากก้านดอกกรรณิการ์, สีอมแดง จากฝางเสนต้มเคี่ยว, สีเขียว จากใบเนียมหอมคั้นน้ำ

เครื่องใช้สำหรับอบกระแจะจันทร์

          1. โถเคลือบ

          2. เชิงตะคันแลตะคัน

          3. โกร่งบดยา

          4. เตาอั้งโล่

วิธีปรุงแป้งร่ำ รอบที่ 1 การอบควันเทียน

          1. นำแป้งนวลออกผึ่งแดดให้จางกลิ่นสาบดินเสียก่อน

          2. วางเชิงตะคันกลางโถเคลือบ

          3. ติดเทียนอบใต้ฝาโถเคลือบ

          4. โรยแป้งนวลลงในโถเคลือบให้กระจายทั่วกันรอบ ๆ เชิงตะคัน

          5. ติดเชื้อไฟที่เทียนอบแล้วดับปิดฝาให้ควันเทียนคลุ้งกระจายภายในโถ ทำแบบนี้ 3 รอบจึ่งแล้ว

          6. นำเทียนอบออกจากฝาแลปิดฝาให้สนิทใช้ผ้าชุบน้ำปิดรอบโถกันกลิ่นออก

วิธีปรุงแป้งร่ำ รอบที่ 2 การอบกระแจะหอม

          1. ผสมเครื่องอบเข้าด้วยกันมี น้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน/ผิวกำยานตำละเอียดกึ่งส่วน/ผิวมะกรูดหั่นฝอยหนึ่งในสามส่วน

          2. เผาตะคันในเตาอั้งโล่จนร้อนจัด

          3. นำวางบนเชิงตะคัน แล้วหยอดเครื่องอบ ปิดฝาให้ดีใช้ผ้าชุบน้ำปิดรอยต่อฝาโถกับตัวโถ

          4. นำตะคันใหม่ไปเผาไฟจนร้อนจัดเพื่อสับเปลี่ยนกับตะคันเก่าในโถ

          5. แล้ววนทำกลับดุจเดิมให้ได้ถึงห้ารอบอบจึ่งแล้ว

วิธีปรุงแป้งร่ำ รอบที่ 3 การอบค้างดอกไมัหอม

          1. เมื่อโถอบเย็นตัวลงเข้าพลบค่ำนำดอกไม้หอมประดามีหาได้โปรยลงในโถแต่พองาม

          2. ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ชั่วหนึ่งคืน พอตะวันเริ่มแจ้งให้รีบนำดอกไม้ออกจากโถเสีย

วิธึปรุงแป้งร่ำ รอบที่ 4 การเข้าเครื่องหอม

          1. นำพิมเสนดีแลหญ้าฝรั่นแยกกันยีให้ละเอียดแล้วนำมาผสมเป็นเนื้อเดียวกัน

          2. นำชะมดเช็ดที่สะตุแล้วแทรกผสมในข้อที่ 1 แล้วยีจนเข้ากัน

          3. นำแป้งร่ำที่อบค้างแล้วมาบดละเอียดในโกร่งบดยา

          4. นำเครื่องหอมดั่งข้อสองผสมลงไปในเนื้อแป้งเติมน้ำอบไทยเติมน้ำดอกไม้เทศลงไป

          5. ยีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวออกเหลว ๆ จึ่งแล้วเสร็จ

วิธีปรุงแป้งร่ำ รอบที่ 5 การอบหอมซ้ำ

          1. นำเชิงตะคันวางในโถเคลือบแล้วเทแป้งเหลวที่ได้รอบ ๆ เชิงตะคัน

          2. ทำซ้ำดั่งรอบที่ 2 อีกห้ารอบ

          3. ทำซ้ำดั่งรอบที่ 3 ปิดฝาโถทิ้งไว้ กึ่งชั่วยาม (ประมาณ 2 ชั่วโมง) ให้เสร็จในกาลเช้า

วิธีหยอดแป้งร่ำเหลว

          1. ตักแป้งร่ำเหลวที่อบซ้ำแล้วในกรวยทองแดง

          2. หยอดแป้งร่ำลงบนผ้าต่วนเนื้อมันละเอียดเป็นจุด ๆ

          3. นำผึ่งลมไว้ในที่อับ เช่น กำปั่นเหล็ก จนแห้งสนิท

          4. เมื่อแห้งแล้วเพียงพลิกผ้าต่วนอย่างเบามือ แป้งร่ำจักร่วงหล่นลงมาเอง

วิธีเก็บความหอมของแป้งที่ร่ำแล้วให้หอมยิ่ง

          1. นำแป้งที่ร่ำแล้วใส่โถแก้วใสที่มีฝาปิดมิดชิด

          2. ยามพลบค่ำนำดอกไม้หอม (แนะนำให้ใช้เพียงกลีบกุหลาบ) วางไว้ในโถ พอเริ่มแจ้งนำออก

          3. ทำดั่งนี้ทุกคืนไป

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก วิชชาลัยแพทย์แผนไทย พิพิธเภสัชบริษัท

ภาพจาก : Instagram bellacampen, broadcastthaitv, mello.me