ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตจัดวิ่งหยุดความรุนแรงในครอบครัว Phuket Family Run
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการคุ้มครองสวัสดิภาพ : เสริมสร้างกลไกป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว กิจกรรม เดิน – วิ่ง รณรงค์หยุดความรุนแรงในครอบครัว (Phuket Family Run)
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562 เวลา 06.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลวิชิต เทศบาลตำบลฉลอง และเทศบาลตำบลราไวย์ จัดโครงการคุ้มครองสวัสดิภาพ : เสริมสร้างกลไกป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว กิจกรรม เดิน – วิ่ง รณรงค์หยุดความรุนแรงในครอบครัว (Phuket Family Run) โดยมี นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิด นายสุรศักดิ์ สีตะวัน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงาน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างกลไกป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และปรับทัศนคติเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวให้กับชุมชนและรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวทุกรูปแบบ โดยจัดกิจกรรม เดิน – วิ่ง หยุดความรุนแรงในครอบครัว
สำหรับเส้นทาง เทศบาลตำบลวิชิต – แหลมพรหมเทพ ระยะทาง 14.9 กิโลเมตร นอกจากนี้ภายในงาน มีการจัดบูธอาหาร นิทรรศการ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมงานในการรณรงค์หยุดความรุนแรงต่อเด็กและสตรีและส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายโดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 800 คน
ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 27 มกราคม 2562 เวลา 06.00 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต จัดโครงการคุ้มครองสวัสดิภาพ : เสริมสร้างกลไกป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว กิจกรรม เดิน – วิ่ง รณรงค์หยุดความรุนแรงในครอบครัว (Phuket Family Run) โดยมี นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิด นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวรายงาน
สำหรับเส้นทางสวนสาธารณะสะพานหิน และเส้นทางย่านเมืองเก่า โดยแบ่งประเภทการเดิน – วิ่ง เป็น 2 ประเภท คือ 1.ประเภท เดิน – วิ่ง ครอบครัว ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร (เป็นทีมๆละ 2 คนขึ้นไป) ผู้เข้าเส้นชัย 500 ท่านแรกได้รับเหรียญที่ระลึก 2. ประเภท เดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพ ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร ผู้เข้าเส้นชัย 300 ท่านแรกได้รับเหรียญที่ระลึก
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดบูธอาหาร นิทรรศการ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ในการรณรงค์หยุดความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน