สั่งรื้อส่วนเพิ่มบ้านหรูอ่าวเสน ลักลอบสร้างผิดแบบ
เทศบาลตำบลราไวย์ สั่งระงับการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศหรู 4 หลัง บนเนินเขาริมทะเล ทางไปอ่าวแสน ของนักธุรกิจกรุงเทพฯ หลังตรวจพบสร้างผิดแบบ พอเผลอแอบก่อสร้างต่อครั้งแล้วครั้งเล่า จนใกล้เสร็จ ล่าสุดสร้างสระว่ายน้ำต่อเติมผิดกฎหมายอีก ขณะที่โครงการคืบหน้ากว่า 70% แล้ว ล่าสุด รองผู้ว่าฯภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเอง สั่ง กำชับเทศบาลดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สั่งรื้อระเบียง และทางเชื่อม รวมสระว่ายน้ำแล้ว
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ชัชชนน ณ.ถลาง” ได้โพสต์รูปภาพการก่อสร้างบ้านพักหรูบนเนินเขาริมชายทะเลทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้เสร็จเรียบร้อย ลงในกลุ่ม “กลุ่มเสียงประชาชน คนภูเก็ต กระบอกเสียงคนภูเก็ต” พร้อมกับระบุข้อความว่า “เรื่องดังก็ระงับการก่อสร้าง พอเรื่องเงียบก็สร้างใกล้เสร็จ” นั้น
โดยการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศหรูทั้ง 4 หลัง ของนักธุรกิจจากกรุงเทพฯนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการนำมาโพสต์และแชร์กันในโชเซียล พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า เทศบาลตำบลราไวย์ อนุญาตให้ก่อสร้างได้อย่างไร จนกลายเป็นประเด็นร้อน กระทั่งเทศบาลตำบลราไวย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการอนุญาตก่อสร้าง และพบว่าการก่อสร้างผิดไปจากแบบที่อนุญาต จึงได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้ผู้ขออนุญาตได้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามแบบที่อนุญาตก่อสร้าง
ปรากฏว่า จุดที่ก่อสร้างบ้านพักตาอากาศหรูดังกล่าว อยู่ในพื้นที่บริเวณที่ 1 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือห่างจากน้ำทะเลขึ้นสูงสุด 20 เมตร สามารถสร้างได้เฉพาะบ้านเดี่ยวเท่านั้น และความสูงต้องไม่เกิน 6 เมตร เป็นส่วนใหญ่ มีบางจุดที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ 2 ห่างจากน้ำทะเลขึ้นสูงสุด 50 เมตร สร้างได้สูงไม่เกิน 12 เมตร และต้องเป็นบ้านเดี่ยวเท่านั้นเช่นกัน ซึ่งจากรายงานระบุว่า อาคารที่สร้างในขณะนั้นผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด และผิดไปจากแบบที่เทศบาลตำบลราไวย์อนุญาต
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าว “นสพ.ข่าวเศรษฐกิจธุรกิจจและเว็บไซต์ภูเก็ตไพรซ์” ได้สอบถามไปยัง นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ถึงข้อเท็จจริงและความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านตากอากาศหรูทั้ง 4 หลัง พื้นที่ 16 ไร่ ว่าการก่อสร้างบ้านหรูทั้ง 4 หลังนั้น ทางเทศบาลตำบลราไวย์ได้อนุญาตให้ก่อสร้างภายหลังจากที่เจ้าของโครงการได้มายื่นขออนุญาตก่อสร้าง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า แบบแปลนที่ยื่นนั้นเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และที่ดินมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่เมื่ออนุญาตไปแล้ว มีการร้องเรียนเข้ามาตั้งแต่ครั้งแรก ที่มีการโพสต์ และแชร์กันในโซเชียล ทางเทศบาลได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ และพบว่ามีการก่อสร้างที่ผิดไปจากแบบที่อนุญาต จึงได้สั่งระงับการก่อสร้างเป็นเวลา 30 วัน และสั่งรื้อสิ่งก่อสร้างที่ดัดแปลงเพิ่มเติมออกไป ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น หลังจากนั้นทางเจ้าของโครงการได้มีการแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดในเรื่องระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงและระยะถอยร่นจากถนน
นายอรุณ กล่าวต่อว่า จนเวลาผ่านไปเป็นปี ได้มีการร้องเรียนเข้ามาอีก ทางเทศบาลได้สั่งระงับการก่อสร้างที่ผิดแบบ และทางเจ้าของโครงการก็ได้ยื่นขอแก้ไขแบบตามที่กฎหมายกำหนดและก่อสร้างมาเรื่อยๆ มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70-80% จนล่าสุดเมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างอีกครั้งหนึ่ง พบว่ามีการก่อสร้างผิดจากแบบอนุญาตบริเวณด้านหน้าโครงการด้านริมทะเล เป็นสระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม
ทางเทศบาลจึงได้สั่งระงับการใช้อาคารเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้เจ้าของโครงการได้มายื่นเรื่องขอแก้ไขและดัดแปลงแบบให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และหากครบกำหนด 30 วัน ทางโครงการยังไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทางเทศบาลมีอำนาจในการสั่งรื้อการก่อสร้างที่ผิดไปจากแบบที่อนุญาต พร้อมแจ้งความดำเนินคดีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานได้ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดของปลัดเทศบาลและกองช่าง เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่ก่อสร้างมีคนงานอยู่ 2-3 คน และได้กำชับให้หยุดการก่อสร้างจนกว่าจะมีการยื่นขอแก้ไขแบบให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ต่อมา เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ปลัดเทศบาลตำบลราไวย์ ผอ.กองช่าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่การก่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศหรู ทางไปอ่าวแสน และหาดกระทิงดังกล่าว เพื่อตรวจสอบการก่อสร้างว่าเป็นไปตามคำสั่งของเทศบาลตำบลราไวย์ ได้มีการปรับปรุงแบบให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา หรือไม่
โดยทางเทศบาลได้มีคำสั่งให้ทางโครงการแก้ไขปรับปรุงในส่วนของการก่อสร้างอาคารที่การถอยร่นจากถนนจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด การเชื่อมตัวของตัวอาคารทั้ง 4 อาคารเข้าด้วยกัน เนื่องจากที่ดินดังกล่าวสามารถสร้างได้เฉพาะบ้านเดี่ยวเท่านั้น รวมไปถึงก่อสร้างอาคารจาก 3 ชั้น ให้เหลือ 2 ชั้น และจาก2 ชั้น เหลือ 1 ชั้น ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฏว่าได้มีการรื้อทุบทิ้งในส่วนที่ผิดกฎหมายจริง
แต่ทางโครงการได้มีการก่อสร้างที่ผิดไปจากแบบที่อนุญาตอีก จากการตรวจสอบเมื่อต้นเดือน ก.พ.2562 ที่ผ่านมา พบว่า มีการก่อสร้างสระว่ายน้ำด้านหน้าโครงการที่ติดทะเล สามารถมองเห็นวิวทะเล รวมถึงระเบียง และทางเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำ ทั้งๆ ที่ในแบบที่เทศบาลอนุญาตไม่มี ซึ่งทั้งหมดนี้เทศบาลได้มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างไปแล้ว และให้ยื่นขอดัดแปลงการก่อสร้างให้เจ้าหน้าที่พิจารณาภายใน 30 วัน หากครบ 30 วัน ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารทางเทศบาลสามารถสั่งรื้อและแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของระเบียง และทางเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำนั้น จะต้องรื้ออย่างแน่นอน และทางเทศบาลได้สั่งรื้อแล้ว ส่วนสระว่ายน้ำรอให้ครบ 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะเข้ารื้อทันที
นายอรุณ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการดังกล่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ทางเทศบาลดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้มีการตรวจสอบ และหากพบว่ามีการก่อสร้างที่ผิดจากแบบที่อนุญาตก็ได้ดำเนินการสั่งระงับการก่อสร้างและให้ทางโครงการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดมาโดยตลอด
#Phuket #Thailand #กินไหนดีภูเก็ต #มีเดียภูเก็ต #ข่าวภูเก็ต #ท่องเที่ยวภูเก็ต #อาหารภูเก็ต #ช้อปปิ้งภูเก็ต #โรงแรมภูเก็ต #อสังหาฯภูเก็ต #เศรษฐกิจภูเก็ต #www.phuketprice.com #ภูเก็ตไพรซ์