สื่อนอกประจานรพ.ภูเก็ต ทิ้งผู้ป่วยทั้งที่ช่วยจนรอดตาย
เว็บไซต์เมืองผู้ดี สัมภาษณ์แม่นักท่องเที่ยวหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน อาการสาหัส ประจานรพ.เอกชนในภูเก็ต ทอดทิ้งผู้ป่วย หลังประกันปฏิเสธการจ่ายเงินช่วยเหลือ ด้านรพ.สิริโรจน์ออกมาปฏิเสธไม่จริง ให้การรักษาดูแลจนพ้นขีดอันตรายแล้ว เตรียมส่งเข้ารักษาต่อที่รพ.รัฐ
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 พบว่าเว็บไซต์แมนเชสเตอร์อีฟนิงนิวส์ และมิร์เรอร์ เปิดเผยบทสัมภาษณ์ครอบครัวของนายเจค ทอนคิน อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษซึ่งเดินทางมายังประเทศไทย ก่อนประสบเหตุรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนางเจน ทอนคิน แม่ของนายเจค ระบุว่าลูกชายถูกปล่อยให้นอนรอความตาย เพราะโรงพยาบาลไม่ยอมรักษา หลังจากบริษัทประกันชีวิตปฏิเสธที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือ
รายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นวันอาทิตย์ รถจักรยานยนต์ซึ่งนายเจคนั่งซ้อนท้าย และเพื่อนเป็นคนขับขี่ ชนประสานงาเข้าอย่างจังกับรถยนต์ซึ่งเลี้ยวโค้งและแล่นผิดเลน ส่งผลให้ทั้งคู่กระเด็นจากรถจักรยานยนต์ โดยร่างของนายเจคกระแทกไปกับพื้น และไถลเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถคันดังกล่าว ต่อมาขับหนีไปอย่างไร้ร่องรอย นายเจคซึ่งหมดสติได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
นางเจน กล่าวอีกว่า รู้ข่าวร้ายจากเพื่อนของลูกชายที่อยู่ในไทย พวกเขาบอกกับตนว่า เจคมีอาการบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ ยังไม่รวมถึงกระดูกขา และกระดูกต้นขาที่หัก แต่แพทย์กลับไม่ยอมรักษาปล่อยให้นายเจคต้องนอนเจ็บปวดนานต่อเนื่องหลายวัน เพราะบริษัทประกันชีวิตปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ตนจึงติดต่อไปยังบริษัทซึ่งนายเจคทำประกันภัยกับบริษัทนี้มานาน 2 ปี และไม่เคยขอเคลมประกันจากอุบัติเหตุบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เลยสักครั้ง กระทั่งเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายเจคเกิดอุบัติเหตุข้อศอกหัก ทางบริษัทก็จ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมดอย่างไม่มีปัญหา แต่กรณีล่าสุดบริษัทระบุว่า ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาให้ได้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของนายเจคเป็นผลมาจากการขับขี่พาหนะโดยประมาท
ตนและครอบครัวจึงต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อนำไปรักษาลูกชาย ด้วยการเปิดระดมทุนผ่านเว็บไซต์ JustGiving ซึ่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคมากกว่า 9,000 ปอนด์ หรือราว 400,00 บาท เพียงวันเดียวที่เริ่มเปิดรับขอความช่วยเหลือ นางเจนกล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก หลังจากมีผู้คลิกบริจาค 10 ปอนด์ (ราว 448 บาท) เป็นรายแรก ไม่นาานก็มีผู้บริจาคหลายคนกดเข้ามาอีก 50 ปอนด์ (ราว 2,200 บาท) และนั่นทำให้ตนร้องไห้ เดิมทีตนไม่กล้าขอรับบริจาคแต่เพราะอาการของลูกชายสาหัสมาก และต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ครอบครัวจึงตัดสินใจขอรับบริจาคในที่สุด ทั้งนี้ ครอบครัวของนายเจคตั้งเป้าระดมทุนจ่ายค่ารักษาไว้ที่ 1.12 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมรายจ่าย จนนายเจคหายเป็นปกติ ด้านผู้สื่อข่าวระบุว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ JustGiving ในวันที่ 9 พ.ค. มียอดช่วยเหลือแล้วกว่า 766,000 บาท จากผู้บริจาค 616 คน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของโรงพยาบาลสิริโรจน์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ในเบื้องต้นทราบว่า MR.JACOB TONKIN ผู้ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา รายละเอียดตามที่รับรายงานทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้มาชนท้ายมอเตอร์ไซด์ คันที่ MR.JACOB ซ้อน ซึ่งระหว่างนั้นทราบว่าน่าจะอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อนำส่งมาโรงพยาบาลนั้น อาการหนัก แพทย์ได้ทำการผ่าตัดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากอาการหนัก จึงให้อยู่ในห้อง ไอซียู และเพิ่งออกจาก ICU มาพักฟื้นห้องปกติ ขณะนั้นทางโรงพยาบาลได้ประสานงานไปยัง บริษัทประกันฯ ต่างประเทศที่ MR.JACOB แจ้งใช้สิทธิ์เบิก แต่ทางบริษัทประกันปฏิเสธคุ้มครองค่ารักษา โรงพยาบาลจึงแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น ลูกค้าต้องชำระค่าใช้จ่ายเอง ก่อนจะแจ้งไปทางญาติทราบ
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่โรงพยาบาลจะปฏิเสธการรักษา หรือไม่ดูแลรักษา MR.JACOB เพราะได้ทำการรักษา และช่วยเหลือจนอาการของ MR.JACOB ปลอดภัย และดีขึ้นตามลำดับ โดยที่โรงพยาบาลไม่ได้คำนึงว่าประกันจะคุ้มครองหรือไม่ แต่เมื่ออาการปลอดภัยแล้ว และทราบแล้วว่าประกันฯไม่คุ้มครอง จึงต้องแจ้งให้ทางญาติทราบ หากจำเป็นก็ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าหากโรงพยาบาลไม่ดูแลจริงก็ต้องส่งไปโรงพยาบาลของรัฐตั้งแต่แรกแล้ว
ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบสาเหตุว่า ทำไมบริษัทประกันภัยถึงปฏิเสธคุ้มครองค่ารักษา ซึ่งปกติการเคลมประกัน ถ้าบริษัทอนุมัติให้เคลม เค้าจะให้เคลมเต็มยอด ถ้ามีส่วนเกินค่าใช้จ่ายลูกค้าก็ต้องจ่ายเอง แต่เคสนี้ประกันปฏิเสธการจ่าย แสดงว่าต้องมีเงื่อนไขอะไรที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง และจากประวัติทราบว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน MR.JACOB ได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ แล้ว 1 ครั้ง โดยครั้งนั้นได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ก่อนประสบเหตุอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ค.60
ซึ่งจากกรณี มีการเสนอข่าวในเว็บไซต์ แมนเชสเตอร์อีฟนิงนิวส์ และ เดย์ลี่มิร์เรอร์ เปิดเผย บทสัมภาษณ์ ครอบครัวของ MR.JACOB TONKIN อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งเดินทางมายังประเทศไทย และ ประสบเหตุรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมารดาของ MR.JACOB TONKIN ระบุว่า ลูกชายถูกปล่อยให้นอนรอความตาย เพราะโรงพยาบาลไม่ยอมรักษา หลังจากบริษัทประกันปฏิเสธที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือ จนทำให้มารดาและครอบครัวต้องระดมทุนเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แก่บุตร
สำหรับความคืบหน้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.60 เวลา 16.30 น.ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต จ.ภูเก็ต นายแพทย์ดุลย์ ดำรงศักดิ์ รองประธานคณะผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มภาคใต้ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิริโรจน์ แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเรื่องดังกล่าว ว่า เบื้องต้นทราบว่า MR.JACOB TONKIN ผู้ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ในวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา รายละเอียดตามที่รับรายงานทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้มาชนท้ายมอเตอร์ไซด์ คันที่ MR.JACOB TONKIN นั่งซ้อนท้าย และรถพยาบาลฉุกเฉินมูลนิธิกุศลธรรมนำส่งผู้ป่วย มายังโรงพยาบาลสิริโรจน์ เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกาย และมีการส่งตรวจทางรังสีวินิจฉัย พบว่า ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและสมอง ร่วมกับมีกระดูกขาขวาหัก
ทางโรงพยาบาล ได้รับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยวิกฤตทันที โดยมีทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาแบ่งเป็น 2 ทีม นำโดยนายแพทย์เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและสมอง หลังจากการติดตามอาการ คณะแพทย์ตัดสินใจดูแลรักษาโดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด
ส่วนอาการบาดเจ็บกระดูกขาขวาหัก นายแพทย์ศุภชัย พันธ์พิเชฐ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ได้ทำการผ่าตัด ในเวลา 21.25 น. โดยใช้เวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมง 20 นาที หลังผ่าตัดผู้ป่วยยังคงได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ที่แผนกผู้ป่วยวิกฤต ต่อมาในวันที่ 10 พ.ค.2560 เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ทางทีมแพทย์ จึงได้ย้ายผู้ป่วยไปยังหอผู้ป่วยสามัญ และจนถึงขณะนี้ ผลการรักษาเป็นไปด้วยดี ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ด้านบริษัทประกันของ MR.JACOB TONKIN นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประสานงานไปยังบริษัทประกัน ซึ่งทราบว่าบริษัทประกันของผู้ป่วยปฏิเสธความคุ้มครอง จึงได้ทำการติดต่อแจ้งให้ทางญาติผู้ป่วยทราบ
โรงพยาบาลสิริโรจน์ ขอยืนยัน ว่า โรงพยาบาลไม่ได้ปฏิเสธการดูแลรักษา MR.JACOB TONKIN เพราะได้ทำการรักษา และ ช่วยเหลือทันที จนปัจจุบัน MR.JACOB TONKIN ปลอดภัย และมีอาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โรงพยาบาลสิริโรจน์คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลักก่อนเสมอ มิใช่ประเด็นเรื่องการเงินเป็นสำคัญ
