อำเภอเมืองภูเก็ต เปิดรับสมัครคู่สมรสที่ประสงค์จดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

อำเภอเมืองภูเก็ต เปิดรับสมัครคู่สมรสที่ประสงค์จดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

สำนักทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตประชาสัมพันธ์การจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568

                วันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 14.00 น ณ ห้องประชุมมุกอันดา ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โครงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายสำคัญ ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (กิจกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน) นำโดย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานกล่าวเปิด และมี นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต เข้าร่วมแถลงข่าว กิจกรรมเชิญชวนประชาสัมพันธ์การจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568 มีหน่วยจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สื่อมวลชนภูเก็ต เข้าร่วม

                นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า อำเภอเมืองภูเก็ต ได้จัดทำโครงการส่งเสริมสถาบันครอบครัว การจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก (วันวาเลนไทน์) เพื่อเชิญชวน และรณรงค์ให้บุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายอันเป็นการสร้างความอบอุ่น ความมั่นคงให้กับครอบครัว เป็นการรักษาสิทธิสถานภาพบุคคลของประชาชน อีกทั้งยังส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีแก่สถาบันครอบครัวอันเป็นรากฐานที่มั่นคงของสังคมไทย โดยจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ สำนักทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
โดยสำนักทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต เปิดรับสมัครคู่สมรสที่ประสงค์จดทะเบียนสมรสตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น ในวันที่ 1-12 กุมภาพันธ์ 2568 วันและเวลาราชการ ณ สำนักทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต
โดยคู่สมรสทุกคู่จะได้รับของที่ระลึก และมีสิทธิ์ลุ้นจับจับรางวัลของขวัญพิเศษจากทางอำเภอเมืองภูเก็ต หลักเกณฑ์การยื่นคำขอจดทะเบียนสมรส มีดังนี้.

1. กรณีคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ้ายยังไม่บรรลุนิติภาวะ (บุคคลอายุ 18 ปีบริบูรณ์แต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์) ต้องได้รับความยินยอมจากบิตาและมารตาที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยบิตาและมารดาต้องมายินยอมด้วยตนเอง กรณีบิดาหรือมารตาบุคคลโดบุคคลหนึ่งเสียชีวิตต้องมีใบมรณบัตร
มาแสดง

2. กรณีเคยจตทะเบียนมาก่อน ต้องมีใบหย่า หรือใบมรณบัตรของคู่สมรสเดิม กรณีฝ่ายโดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายเคยสมรสมาก่อน
3. กรณีฝ่ายหญิงที่สามีเสียชีวิตหรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่นจะทำการจดทะเบียนสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
– คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
– สมรสกับคู่สมรสเดิม
– มีใบรับรองแพทย์ ประกาศนียบัตรหรือปริญญาซึ่งเป็นผู้ประกอบการรักษาโรคในสาขาเวชกรรมได้ตามกฎหมายว่า มิได้มีครรภ์
– มีคำสั่งของศาลให้สมรสได้ (มาตรา 1453)
4. การจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติต้องมีหนังสือรับรองจากสถานทูตหรือกงสุลของผู้ร้องในประเทศไทยหรือจากองค์การที่รัฐบาลประเทศนั้นมอบหมาย และแปลข้อความเป็นภาษาไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับรองสถานภาพการสมรส ยื่นคำขอล่วงหน้าเพื่อบันทึกปากคำคู่สมรสพร้อมพยาน 2 คน
5. หลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ทั้งสองฝ่าย
6. พยานบุคคล 2 คน
7. ใบเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)