“อิเกีย ยกเลิกการจำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้ ภายในเดือนตุลาคม ปี 2564
สร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้ในทุกๆ วันที่บ้าน
อิเกีย ก้าวต่อไปอีกขั้นในการมุ่งมั่นสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้นในทุกๆ วันที่บ้าน ด้วยการยกเลิกการจำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้ในสโตร์อิเกียทั่วโลกภายในเดือนตุลาคม ปี 2564 มุ่งหวังให้ลูกค้าที่ใช้แบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้อยู่เป็นประจำ หันมาใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและยังช่วยลดปริมาณขยะให้กับโลกอีกด้วย
“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับการยกเลิกการจำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ที่จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสโตร์อิเกียทั่วโลก พร้อมๆ กับการหันมาส่งเสริมการใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ให้มากขึ้น” ลาร์ช สเวนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเม็กซิโก กล่าว “เราหวังว่า นี่จะเป็นก้าวที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปลี่ยนมาเลือกใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ ซึ่งมีราคาสบายกระเป๋า ใช้งานง่าย สามารถยืดอายุการใช้งานทั้งผลิตภัณฑ์และวัสดุ และยังช่วยลดปริมาณขยะ รวมถึงประหยัดกว่าแทน”
แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ รุ่น LADDA/ลัดด้า ของอิเกีย สามารถชาร์จไฟได้สูงสุดถึง 500 ครั้ง และเป็นแบตเตอรี NiMH จากการวิจัยเชิงเปรียบเทียบเพื่อประเมินวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ แสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี NiMH แบบชาร์จไฟได้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเทียบกับแบตเตอรีอัลคาไลน์ เมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไปซึ่งใช้พลังงานสูงและต้องชาร์จไฟอย่างสม่ำเสมอ เช่น ของเล่น ไฟฉาย ลำโพงหรือกล้องถ่ายรูปแบบพกพา เป็นต้น
แบตเตอรี NiHM แบบชาร์จไฟได้ อย่างรุ่น LADDA/ลัดด้า ที่จำหน่ายในสโตร์อิเกียนั้น พบว่าเมื่อชาร์จไฟไปแล้ว 10 ครั้ง จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาน้อยกว่าแบตเตอรีอัลคาไลน์เมื่อใช้พลังงานเท่ากัน และหลังจากที่ชาร์จไป 50 ครั้ง จึงได้ข้อสรุปว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของแบตเตอรีชนิด NiMH มีน้อยกว่าหรือเท่ากับผลกระทบที่เกิดจากการใช้แบตเตอรีอัลคาไลน์
“นี่จะเป็นทางเลือกที่ประหยัดและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าในระยะยาว เมื่อเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและหันมาใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยความคุ้มค่าสูงสุด” ลาร์ช สเวนสัน กล่าว ก่อนเสริมต่อว่า “ทั้งยังช่วยลดการสร้างขยะด้วย”
ปีที่แล้ว อิเกีย จำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์ไปทั้งหมด 300 ล้านชิ้นทั่วโลก เฉพาะสโตร์อิเกียทั้ง 9 แห่งที่เปิดให้บริการในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ลูกค้าซื้อแบตเตอรีแบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ไปกว่า 3.4 ล้านห่อ หากลูกค้าอิเกียทุกคนเปลี่ยนจากแบตเตอรีแบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ มาใช้แบตเตอรีชาร์จไฟได้ รุ่น LADDA/ลัดด้า สำหรับอุปกรณ์กินไฟสูง (และชาร์จไฟใช้ประมาณ 50 ครั้ง) การร่วมด้วยช่วยกันเปลี่ยนคนละเล็กน้อยเพียงแค่นี้ จะสามารถลดขยะโลกไปได้กว่า 5,000 ตันต่อปี
ในที่สุด ผู้คนจะค่อยๆ ลด ละ และเลิกใช้แบตเตอรี รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ซึ่งจะส่งผลให้แบตเตอรีรุ่นดังกล่าวค่อยๆ หายไปจากสโตร์เช่นกัน ซัพพลายเออร์จะอาศัยช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ปรับตัวรับพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกัน สโตร์อิเกียแต่ละแห่งก็จะมีเวลาเพียงพอให้จำหน่ายสินค้าคงคลังที่มีอยู่ กระบวนการยกเลิกการจำหน่ายแบตเตอรี รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ จะจบสมบูรณ์พร้อมกันทั่วโลกภายในเดือนตุลาคม ปี 2564 ส่วนแบตเตอรีลิเธียมไอออน รุ่น PLATTBOJ/พลัทบอย จะยังคงอยู่ในรายการสินค้าของอิเกียต่อไป เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางชิ้นยังต้องใช้แบตเตอรีชนิดนี้เพื่อการใช้งาน