อุทยานฯแพ้ความแพ่ง คดีรุกอุทยานฯสิรินาถ

          เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งจ.ภูเก็ต ขึ้นบัลลังก์ตัดสินที่คดีบริษัทนุ่นจำกัด โจทก์ที่ 1 นายเบอร์นาร์ดเกอเย่ โจทก์ที่ 2 และ นายพรศักดิ์ ปานมาศ โจทก์ที่ 3 ฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย 45 ล้านบาท จำเลยประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายดำรง  พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำเลยที่ 2 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม อดีตหัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต จำเลยที่ 3 นายสมยศเสริมมั่น รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะอดีตผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 16 เชียงใหม่ จำเลยที่ 4 นายจงคล้าย วรพงศธร ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ในฐานะผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ. 16 จำเลยที่ 5 นายชาคริต อุตรพงศ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส จำเลยที่ 6 นายเสถียร ตามพระหัตถ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ และ จำเลยที่ 7 นายสุนทร วัชรกุล ดิลก อดีตที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ และ จำเลยที่ 8 กรมอุทยานฯ จากกรณีที่จำเลยที่ 1 สั่งให้จำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 7 เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่เรียกว่า บ้านฝรั่งที่อยู่ในภายใต้การครอบครองของบริษัทนุ่น ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมตรีสรา (ทรีดอลฟิน) พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบรังวัด ว่าพื้นที่ดังกล่าวบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ

          โดยศาลพิพากษาว่าบ้านฝรั่งออกเอกสารสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย ยกฟ้องนายดำรงค์และจำเลยที่ 3-6 โดยให้จำเลยที่ 2 คือนายชีวะภาพ จ่ายค่าเสียหายจำนวน 2 แสนบาท และ  นายสุนทร จำเลยที่ 7 จ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 2 แสนบาทเช่นกัน ส่วนกรมอุทยานแห่งชาติ จำเลยที่ 8 จ่ายค่าเสียหาย 1.5 ล้านบาท รวมค่าดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ละเมิดคือวันที่ 26 สิงหาคม 2555 เกี่ยวกับคดีนี้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม อดีตหัวหน้าอุทยานฯสิรินาถ จำเลยที่ 2 กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ก็ต้องอุทธรณ์ไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามรู้สึกกังวล และเป็นห่วงต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้อยู่ในช่วงของการทำงานในเชิงรุก เจ้าหน้าที่อาจจะต้องทำงานลำบากมากยิ่งขึ้น

          ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายวิฑูรย์ เดชประมวลพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ คนปัจจุบัน กล่าวว่า ตนเองนั้นเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมาแต่ก็พอจะทราบรายละเอียดในคดีดังกล่าวบ้างพอสมควร ซึ่งคำพิพากษาในครั้งนี้ ยังอยู่ในศาลชั้นต้น แน่นอนว่า ทางกรมอุทยานฯ อาจจะต้องสู้ในชั้นอุทธรณ์และฎีกาต่อ ซึ่งตนเองก็ต้องดูคำสั่งของ กรมฯว่า จะให้ดำเนินการอย่างไร ตนเองในฐานะผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่นั้นก็ยืนยันว่าพร้อมปฏิบัติงานต่อ โดยอาจจะต้องสนับสนุนด้านข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่คดีนี้ และยังค้างอยู่อีกหลายคดี ก็ต้องดำเนินการต่อ 

          ทั้งนี้ ยอมรับว่ารู้สึกเสียกำลังใจบ้างเล็กน้อยที่เห็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ต้องถูกฟ้องร้อง แต่อย่างไรก็ต้องดำเนินการต่อในส่วนคดีที่ยังค้างอยู่ เพื่อความถูกต้องและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยส่วนตัวนั้นคงจะเพิ่มความละเอียดรอบคอบในการดำเนินการให้มากขึ้น สำหรับการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถนั้นยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีหลายคดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญ และบางส่วนมีประมาณ 10 กว่าคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษแล้ว

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น