เกษตรกรภูเก็ตกว่าหมื่นรายฟื้น “9101ตามรอยพ่อ”ชุบชีวิตให้
“โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ทำให้เกษตรกรในจังหวัดภูเก็ตเกือบ 15,000 ราย ได้รับประโยชน์ทั่วถึง ลืมตาอ้าปากได้ และสามารถสร้างรายได้ในชุมชนเฉลี่ยคนละ 6,000 บาท/เดือน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.60 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวผลสำเร็จของการดำเนินงาน “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ของจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายปารเมศ ทองปรีชา เกษตรจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มเกษตรกร และสื่อมวลชน เข้าร่วม
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ของจังหวัดภูเก็ต ดำเนินโครงการในพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอ 16 ตำบล 21 ชุมชน แบ่งเป็นโครงการด้านการผลิตพืชและพันธุ์พืช 12 โครงการ ด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ 12 โครงการ, ด้านการจัดการศัตรูพืช 2 โครงการ, ด้านฟาร์มชุมชน 2 โครงการ, ด้านการผลิตอาหาร การแปรรูปผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 10โครงการ, ด้านปศุสัตว์ 8 โครงการ, ด้านประมง 11 โครงการ และด้านการปรับปรุงบำรุงดิน 2 โครงการ รวมทั้งหมดจำนวน 59 โครงการ งบประมาณ รวม 19,724,700 บาท ขณะนี้มีการ เบิกจ่าย 19,543,162.63 บาท (ร้อยละ 99.08)คงเหลือ 181,537.37 บาท
โดยผลการดำเนินการ มีจำนวนสมาชิกในชุมชนทั้งหมดในจังหวัด 948 ราย ซึ่งมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว จำนวน 14,998 ราย และสามารถสร้างรายได้ให้กับแรงงานในชุมชนเฉลี่ยคนละ 6,000 บาท/เดือน ด้านความยั่งยืน เกษตรกรร้อยละ 90 มีการดำเนินการต่ออย่างต่อเนื่อง โดยการบริหารจัดการรายได้ที่ได้มาเป็นทุนหมุนเวียน โดยกลุ่มมีเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 50,000 – 150,000 บาท/กลุ่ม
นอกจากนี้ได้มี การจัดตั้งเครือข่ายและการเชื่อมโยง ได้แก่ เครือข่ายตามประเภทโครงการ เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ การเชื่อมโยงเพื่อเอื้อประโยชน์ด้านการผลิต การลดต้นทุน และการตลาด โดยให้มีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรหรือ ศพก.และเครือข่ายเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาภาคการเกษตรของชุมชนให้มีส่วนร่วมแบบประชารัฐอย่างยั่งยืนโดยพัฒนาความร่วมมือกับ บริษัทประชารัฐ รักสามัคคี จังหวัดภูเก็ต ที่จะมาส่งเสริมด้านการตลาด
นอกจากจะทำให้เกิดการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนแล้วยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกการทำงานในพื้นที่ ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์และนำไปปฏิบัติจริงเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นและชุมชนอันจะส่งผลต่อเนื่องให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวย้ำว่า ขอให้เกษตรกรต่อยอดโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองและชุมชนอย่างยั่งยืนด้าน นายสุชาติ เกิดหอม กลุ่มเลี้ยงกบ บ้านนากก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตนและสมาชิกทั้งหมด 15 คน ที่ได้เข้ามาร่วมในโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน”ของจังหวัดภูเก็ต ด้วยการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดินที่มีน้ำหมุนเวียนตลอดเวลา ทำให้ผลผลิตกบที่ออกมาเป็นที่ต้องการของตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการ ในเบื้องต้นได้เลี้ยงไปประมาณ 7,000-8,000 ตัว ตอนนี้ เริ่มจับกบขายได้บ้างแล้ว ในขนาด 3 – 4 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท ส่งให้ร้าอาหาร ขายปลีกตามตลาดนัด สร้างรายได้ให้ผู้ร่วมโครงการเดือน 7,000 – 8,000 บาท ทำให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ นายสมพร แทนสกุล ประธานชุมชนไม้ขาว 2 ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” กล่าวว่า ทางกลุ่มได้เพาะเลี้ยงกุ้งขาวที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคด้วยระบบควบคุมป้องกันโรคที่ใช้จุลินทรีย์แทนสารเคมี ได้ลงกุ้งไปเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 90 วัน เพื่อให้ได้กุ้ง 30 ตัวต่อกิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ตอนนี้ได้ลงกุ้งไปแล้ว 2 บ่อ ประมาณ 120,000 ตัว
นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีการปลูกเมร่อนพันธุ์จากญี่ปุ่นในพื้นที่บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาวอีกด้วย โดยผลเมร่อนที่ปลูกจะสามารถเก็บขายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ทั้งหมด 480 ผล ราคากิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งแต่ละผลมีน้ำหนัก 3-4 กิโลกรัม