เคลียร์ปัญหาสนามบินเน่า ทำภาพลักษณ์ภูเก็ตเสียยับ

         ผู้ว่าฯภูเก็ต ตีเรียกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานฯ เข้าหารือแก้ปัญหาการให้บริการผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต ที่คาราคาซังมานาน จนทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวเสียหาย รวมทั้งการสูญเสียโอกาสได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่จะเดินทางเข้ามา แต่ไม่มี Siot ให้เครื่องลง ทั้งที่นั่ง ห้องน้ำ ในอาคารก็ไม่พอรองรับ เพราะใหพื้นที่ร้านค้ามากเกินไป แอร์ไม่มี ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากรไม่พอบริการต้องรอคิวยาว

เรียกประชุมทุกหน่วยงาน

เคลียร์ปัญหาสนามบินเน่า

         เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 ที่ผ่านมา นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม เรื่องการบริหารจัดการเกี่ยวกับท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมี นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นางศิรวลี วาเลาะห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ของท่าอากาศยานภูเก็ต ททท. ตรวจคนเข้าเมือง  ศุลกากร ท่าอากาศยานภูเก็ต ตัวแทนจากหอการค้า สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้อง POC ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

         ทั้งนี้เพื่อร่วมกันหารือพิจารณาถึงแนวทางการบริหารจัดการท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมีเรื่องพิจารณาร่วมกัน ซึ่งเป็นปัญหาการที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยานภูเก็ต ที่มีการหารือกันในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตในครั้งที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆ นี้ (กรอ.) เช่น ปัญหา Slot ของสายการบิน ปัญหาที่นั่งไม่เพียงพอ แอร์ไม่มี ห้องน้ำไม่พอ ร้านค้ามีมากจนเกินไป ฯลฯ และปัญหาที่มีการร้องเรียนผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆ

         โดยเฉพาะปัญหาในเรื่อง Slot ของสายการบิน ที่ทางภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้มีการนำเสนอเมื่อการประชุม กรอ.วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าสายการบินจากยุโรป รัสเซีย และอีกหลายประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพของภูเก็ต ไม่สามารถขอ Slot เพิ่มได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางภาคเอกชนได้ไปทำตลาดส่งเสริมการขาย และเจรจาจนสายการบินตกลงที่จะบินมาภูเก็ต แต่เมื่อขอ Slot กลับไม่ได้ เป็นการเสียโอกาสในการที่จะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาภูเก็ต จึงขอให้ทางสำนักงานการบินพลเรือน พิจารณาอย่างเป็นธรรมในการพิจารณา Slot ให้กับสายการบิน และให้หน่วยงานภาคเอกชนในภูเก็ตที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสายการบินและการท่องเที่ยวได้มีส่วนในการนำเสนอข้อมูลเพื่อให้สายการบินจากยุโรปได้ขอ Slot เพิ่มได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ตได้นำเสนอข้อมูลถึงการขอ Slot และสถานการณ์ของเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต และทางจังหวัดภูเก็ตรับที่จะประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการอนุมัติ Slot เพิ่มให้กับสายการบิน

         นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันหารือถึงปัญหา ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีที่นั่ง ที่นั่งไม่เพียงพอ ห้องน้ำไม่เพียงพอ ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยทางภาคเอกชนมองว่า ปัญหาที่นั่งไม่เพียงพอ เกิดจากการท่าอากาศยานภูเก็ต นำพื้นที่ไปให้เอกชนทำร้านค้ามากจนเกินไป น่าที่จะลดพื้นที่ร้านค้าลงให้เหลือแค่ครึ่งหนึ่งน่าจะเหมาะสม เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับให้บริการผู้โดยสารมากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า  อาคารผู้โดยสารภายในประเทศอยู่ในช่วงของการปรับปรุง ก่อนหน้านี้มีปัญหาแอร์ไม่มี ทำให้ผู้โดยสารที่มารอขึ้นเครื่องร้อนมากๆ แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้หมดไปแล้ว โดยทางการท่าอกาศยาน ได้เช่าแอร์ตู้มาติดตั้งเต็มพื้นที่ทั้งหมดแล้ว และในส่วนของที่นั่งไม่เพียงพอ ขณะนี้ได้ทยอยเปิดพื้นที่ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จเพิ่มเติมแล้วในแต่ส่วน รวมไปถึงห้องน้ำ และในเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ปัญหาน่าจะหมดไป พร้อมๆกับการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศแล้วเสร็จเปิดใช้พื้นที่ทั้งหมด ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

         อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาความล่าช้าของการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาให้หมดไป ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินลงพร้อมๆ กันหลายๆ เที่ยวบิน ในช่วงดึกและช่วงเช้า ทำให้ผู้โดยสารต้องต่อแถวยาวมาก รวมทั้งปัญหากำลังพลไม่เพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาทาง ตม.ได้มีการแก้ปัญหามาโดยตลอด โดยการเพิ่มกำลังพล และตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มกำลังอีก 39 นาย เพื่อให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และการให้บริการของตม.นั้นเป็นไปตามมาตรฐานสากล คนละไม่เกิน 1 นาที แต่ที่ต้องต่อแถวยาวเพราะไฟล์บินลงมาพร้อมๆ กัน

         ในส่วนของศุลากรนั้น ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีปัญหาเกิดขึ้น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ปัญหาภายในที่เกิดจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และปัญหาการร้องเรียนผ่านทางสื่อโซเชียลเรื่องการให้บริการที่ล่าช้า

         นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา เรื่องการใช้ Digital มาช่วยเรื่องการรับแท็กซี่/รถสาธารณะ การสนับสนุนงบประมาณโครงการ Land Slide การบริหารจัดการขยะ น้ำเสีย แผนการขยายท่าอากาศยานในอนาคต และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเสียงจากสนามบินภูเก็ต

         นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาด้านการท่องเที่ยวถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดภูเก็ต การเดินทางเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากที่สุด การเชิญเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานภูเก็ต ภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้อง มาหารือกันในวันนี้ เพื่อที่จะร่วมกันรับทราบและพิจารณาแก้ไขปัญหาด้านการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน และมีการร้องเรียนผ่านมาทางผู้ว่าฯ สื่อโชเซียล ประกอบกับปัจจุบันมีการปรับปรุงท่าอากาศยานทำให้ปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

         อย่างไรก็ตาม จากการหารือกันในวันนี้ ทำให้รับทราบว่าปัญหาหลายๆอย่างได้ถูกแก้ไขไปแล้ว และหลายปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทางการท่าอากาศยานภูเก็ต มีแนวทางในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นพร้อมที่จะให้การสนับสนุน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะสนามบินถือเป็นห้องรับแขกแรกของภูเก็ต ที่ทุกภาคส่วนจะช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อเกิดภาพลักษณ์ที่ดีกับเมืองท่องเที่ยวต่อไป

กรีดรถยนต์ในอาคาร

การท่าฯแค่บอกเสียใจ

         จากกรณีที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ร้องเรียนเกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจอด ณ ทภก. และโดนกรีดบริเวณประตูผู้โดยสารด้านซ้ายจนได้รับความเสียหายพร้อมทั้งมีการนำกระดาษที่เขียนข้อความว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถของ VIP นั้น ทภก. ได้ดำเนินการสืบสวนพบว่ามี 2 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์แรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 เนื่องจากมีผู้ใช้บริการนำรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อมาสด้า สีดำ มาจอด ในอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น บริเวณทางด้านทิศใต้ บริเวณตู้รับบัตรจอดรถที่ไม่ได้มีการใช้งาน ระหว่างเวลา 13.00 – 23.30 น. ซึ่งหลังจากที่เจ้าของรถกลับมาที่รถได้พบว่า รถยนต์ของตนนั้นโดนกรีดจนเป็นแผลบริเวณประตูด้านผู้โดยสาร จึงได้ดำเนินการแจ้งความ และประสานมายัง ทภก. เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด

         ส่วนของเหตุการณ์ที่สองนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 โดยเกิดในพื้นที่เดียวกันแต่เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี สีดำ โดยผู้ใช้บริการนำรถยนต์มาจอด และมีการนำข้อความว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดสำหรับ VIP มาติดไว้บริเวณที่ปัดน้ำฝนของรถ

         จากทั้งสองเหตุการณ์นั้น ทภก. ขอชี้แจงให้ทราบว่า อาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น นั้นเป็นการให้สัมปทานแกบริษัทภายนอกเข้ามาดำเนินการจัดการ และมิได้มีการกำหนดจุดจอดรถสำหรับ VIP แต่อย่างใด เว้นแต่การจัดพื้นที่สัมปทานสำหรับจอดรถยนต์เช่า โดยจะมีการกันพื้นที่สำหรับสัมปทานอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีป้ายแจ้งให้ทราบว่า เป็นพื้นที่ของผู้รับสัมปทานรายใด อีกทั้งในพื้นที่ที่เกิดเหตุทั้ง 2 ครั้งนั้น แต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อใช้เป็นจุดรับบัตรจอดรถ

         เมื่อไม่ได้มีการใช้งาน ทภก. ได้ดำเนินการนำแผงกันมากันไว้ สำหรับผู้โดยสารและผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้เดินเข้า-ออกได้ อีกทั้งเพื่อใช้ในการนำอุปกรณ์ดับเพลิงเข้าสู่อาคารจอดรถยนต์ ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งระหว่างเวลาที่เกิดเหตุนั้นพื้นที่ดังกล่าวได้มีผู้ใช้บริการสัญจรตลอดเวลา อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าวมีตู้เก็บเงินติดตั้งอยู่ การบันทึกภาพของกล้องวงจรปิดถูกบดบัง ซึ่งมาตรการการรักษาความปลอดภัยของ ทภก. ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจรถยนต์ทุกคันที่จะขึ้นไปจอดยังอาคารจอดรถยนต์

         สำหรับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้น จะเป็นความรับผิดชอบของผู้ได้รับสัมปทาน ซึ่ง ทภก. สามารถสนับสนุนกำลังได้ทันทีในกรณีที่มีการร้องขอ ซึ่งนอกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ร้องเรียนเข้ามาว่า เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้บริการได้นำรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีขาว จอดบริเวณชั้น 3 ของอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ระหว่างเวลา 13.00 – 01.00 น. โดยเมื่อกลับมาที่รถพบว่ารถของตนได้ถูกกรีดเป็นรอยบริเวณประตูด้านคนขับ

         จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ใช้บริการได้นำรถมาจอด โดยมิได้มีการนำเข้าจอดในช่องจอดรถ ซึ่งระหว่างเวลาที่เกิดเหตุได้มีการเคลื่อนรถคันดังกล่าวเพื่อเปิดช่องทาง เพื่อให้รถยนต์คันอื่นสามารถเข้า-ออกได้ ประกอบกับได้มีรถคันอื่นมาจอดบดบังมุมของกล้องวงจรปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าความเสียหายเกิดจากอะไร

         อย่างไรก็ตาม ทภก. รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในกระบวนการสืบสวนนั้น ทภก. ได้ดำเนินการในทางลับเพื่อมิให้มีผลต่อรูปคดี และหากมีความคืบหน้าจะดำเนินการชี้แจ้งเพื่อให้รับทราบเป็นลำดับต่อไป