ผอ.วชิระ​ภูเก็ต​ยัน “ชาวฮังการี” เสียชีวิต จากอุบัติเหตุ​จราจร​ ไม่ใช่ โรคโควิด 19

          ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตระบุผู้เสียชีวิตชาวฮังการีเสียชีวิตจากอาการไขสันหลังบาดเจ็บ เนื่องจาก กระดูกสันหลังส่วนคอหัก จากอุบัติเหตุจราจรไม่ได้เสียชีวิตจากโรคโควิด 19

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวชี้แจงกรณีมีการโพสต์ข่าวและแชร์ข้อมูลการเสียชีวิตของชาวฮังการี ว่า
Case ชายชาวฮังการี อายุ 25 ปี ดังนี้.
– เวลา04.30 น. 25 มีนาคม 2563 ​​ประสบอุบัติเหตุจราจร ศูนย์กู้ชีพไข่มุกนำส่งโรงพยาบาลฉลอง
– จากนั้นเวลา 05.30 น. 25 มีนาคม 2563​​ ส่งตัวมา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แรกรับรู้สึกตัวดี พูดคุยได้ แต่มีอาการชาและอ่อนแรงบริเวณแขน-ขาทั้งสองข้าง ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งประวัติเสี่ยง โควิด-19 ทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ได้รับการวินิจฉัยเป็นกระดูกสันหลังส่วนคอท่อนที่ 6 หัก ร่วมกับประสาทไขสันหลังบาดเจ็บ
– เวลา 15.30น. 25 มีนาคม 2563 ​​เข้ารับการผ่าตัดที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังผ่าตัดผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยได้ แต่ยังขยับแขน-ขาทั้งสองข้างไม่ได้ นอนติดเตียง
– 31 มีนาคม 2563 ​​​ ระหว่างนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ ซักประวัติเสี่ยงโควิด-19 กับผู้ป่วยอีกครั้ง ผู้ป่วยแจ้งว่าก่อนหน้าเกิดอุบัติเหตุไปเที่ยวผับที่บางลาติดต่อกันทุกคืนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แพทย์เจ้าของไข้ ส่งตรวจ โควิด-19 พบผล positive สั่งย้ายผู้ป่วยไป หอผู้ป่วยแยกโรคโควิด (ตึกน้อมเกล้า)
– แพทย์เจ้าของไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่สัมผัสผู้ป่วยทั้งหมด กักตัว 14 วัน
– 3 เมษายน 2563 ระหว่างนอนที่ตึกน้อมเกล้า ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง พูดคุยได้ ไม่มีหายใจเหนื่อย
ผู้ป่วยหยุดหายใจในหอผู้ป่วย เวลา 02.40 น. ทำการปั้มหัวใจกู้ชีพไม่สำเร็จ

สรุปสาเหตุการตาย จาก ไขสันหลังบาดเจ็บ เนื่องจาก กระดูกสันหลังส่วนคอหัก เนื่องจาก อุบัติเหตุจราจร

โรคร่วม : ปอดอักเสบติดเชื้อจากไวรัสโควิดรวมเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล 10 วัน ทั้งนี้ มีบุคลากร โรงพยาบาล ฉลอง และ โรงพยาบาล วชิระภูเก็ต สัมผัสรวม 112 ราย สัมผัสเสี่ยงสูง 108 ราย ต้องกักตัวที่มอ.วิทยาเขตภูเก็ต โรงแรมสุพิชฌาย์ และที่บ้าน เก็บผลตรวจแล้ว 94 ราย ผลเป็นลบ ที่เหลืออยู่ระหว่างการรอผลตรวจอย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าชายชาวฮังการีรายนี้ไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19แต่เป็นการเสียชีวิตจาก บาดแผลและอาการที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ดังนั้น ขอความกรุณาอย่าแชร์ข้อมูลที่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก

 

ขอบคุณ​ข้อมูล​และภาพประกอบ​จาก…..
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต