“แสนสิริ” เผยความสำเร็จตลาดคอนโดภูเก็ต เตรียมปิดการขายเดอะเบส 2
แสนสิริเผยข่าวดีรับปลายปี เตรียมปิดการขายอีก 2โครงการจาก เดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต และโครงการเดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต ในสิ้นปี 2560 ล่าสุดสร้างยอดขายได้แล้ว กว่า 98% เชื่อจากปัจจัยผลตอบแทนค่าเช่าสูงดึงนักลงทุน บวกดีมานด์แรง จากผู้ซื้อคนไทย – ต่างชาติ ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวพร้อมวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์เดอะ เบส ในปีหน้า ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์เดอะเบสในภูเก็ตที่พัฒนามาแล้วถึง 3 โครงการ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในปี 2560 นี้ แสนสิริได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตโดยรวมที่มีการฟื้นตัวขึ้น สืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตมากขึ้น ทั้งการใช้จ่ายของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจด้านการบริการ และการบริโภคของเอกชนปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ทั้งปัจจัยเกื้อหนุนด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น รวมถึงนโยบายการพัฒนาเมืองภูเก็ต เฟส 3 เช่น โครงการภูเก็ต สมาร์ทซิตี้, การพัฒนารถไฟฟ้ารางเบา LRT ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2564 ตลอดจนแผนการขยายท่าเรือน้ำลึก เพื่อให้รองรับเรือโดยสารระหว่างประเทศและเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และแผนการแก้ปัญหาการจราจรด้วยการสร้างอุโมงค์ รองรับการขยายตัวของเมืองภูเก็ตในอนาคต ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจึงทำให้โครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี 2016-2017 ทีเดียวและสะท้อนแนวโน้มของกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์แสนสิริเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”
“นอกจากนั้นทางฝั่งของภาคเอกชนอย่างกลุ่มเซ็นทรัล ได้ทุ่มทุนกว่า2 หมื่นล้านบาทในการพัฒนาส่วนต่อขยาย เพื่อปั้นโรงแรมระดับพรีเมี่ยม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแหล่งท่องเที่ยว เป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกพร้อมเปิดบริการปีหน้า ซึ่งคาดว่าปัจจัยบวกเหล่านี้ สามารถช่วยผลักดันเศรษฐกิจ และยิ่งดึงดูดดีมานด์ทั้งชาวไทยและต่างชาติเติบโตสูงขึ้นในอนาคต รวมถึงนักลงทุน และนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตได้อีกมาก ภูเก็ตนับเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงของทั้งกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ขณะที่แสนสิริเองยังมองทิศทางการพัฒนาโครงการในภูเก็ต โดยเน้นขยายฐานกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการขายในทำเลที่มีศักยภาพที่ภาครัฐได้ลงทุนระบบสาธารณูปโภค (Infrastructure) รวมถึงปัจจุบันลูกค้าต่างชาติยังมีสิทธิ์ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตได้แบบฟรีโฮลด์ ในสัดส่วนตามโควต้าที่กำหนดได้อีกด้วย”
“สำหรับการปิดการขายโครงการเดอะ เดค ป่าตอง คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ทำเลใจกลางป่าตอง มูลค่า 1,500 ล้านบาทที่ผ่านมา แสนสิริได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไทย และต่างชาติ ในสัดส่วน51:49% ซึ่งนับว่าเต็มโควต้าการขายตลาดต่างชาติ โดยโครงการเดอะ เดค ป่าตอง สามารถตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดที่พักอาศัยในรูปแบบฮอลิเดย์โฮมในทำเลท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทั้งจากลูกค้าชาวไทยที่ซื้อเพื่อตอบโจทย์ด้านการลงทุนจากตลาดปล่อยเช่าที่ให้ผลแทนสูงถึง 4-5% สำหรับค่าเช่าโครงการที่อยู่ติดหาดจะได้รับความนิยมโดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 70,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันทำเลป่าตองยังคงได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทำงาน หรือเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่และพักผ่อนอย่างต่อเนื่อง”
“สำหรับซิตี้คอนโด อย่างโครงการเดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต และ เดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ท่ามกลางแหล่งวัฒนธรรมตามแบบฉบับชิโน โปรตุเกส ที่ยังคงเป็นเสน่ห์ของภูเก็ตอยู่เสมอ โดยปัจจุบันผลการตอบแทนการให้เช่าคอนโดมิเนียมในเมืองอยู่ที่ประมาณ 5-8 % ต่อปี หรือค่าเช่าเริ่มต้นที่ 18,000-25,000 บาทต่อเดือน สำหรับ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนอยู่ที่ 38,000-45,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุน และจากกระแสการตอบรับที่ดีของลูกค้าในโครงการที่ผ่านมา ความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และวิสัยทัศน์ในการเฟ้นหาทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเมืองของแสนสิริในจังหวัดภูเก็ต จึงคาดว่าจะปิดการขายอีก 2 โครงการภายในปีนี้ ได้แก่ เดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต และ เดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต โดยมีมูลค่ารวมทั้งหมด 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นเดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต มูลค่าโครงการ1,000 ล้านบาท ขณะนี้มีห้องชุดเหลือ 10 ยูนิตสุดท้าย และ เดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท ซึ่งเหลือ 5 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น ด้วยปัจจัยของการเป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และพร้อมโอน จึงสามารถเข้าอยู่หรือนำไปลงทุนปล่อยเช่าได้ทันที ซึ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสนสิริจึงวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์เดอะเบสในปีหน้า เพื่อแสดงความเป็นผู้นำของตลาดของซิตี้คอนโดในภูเก็ต” นายอุทัย กล่าวเสริม
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดมีดีมานด์สูงและมีความคึกคักทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต แสนสิริจึงได้จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี 2560 สำหรับ โครงการบ้านไม้ขาว ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับพรีเมี่ยม และเป็นอีกหนึ่งโครงการมียอดการตอบรับที่ดี ซึ่งกวาดยอดขายไปกว่า 80% แล้ว ตั้งอยู่ริมหาดไม้ขาว ชายหาดที่เงียบสงบ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง16 กิโลเมตร โดยมีราคาเริ่มต้นยูนิตละ 8.99 ล้านบาท แสนสิริมอบข้อเสนอพิเศษรับคืนเงินสูงสุด 20% ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบชุดซื้อห้องชุดแล้วพร้อมปล่อยเช่าได้ทันที พร้อมฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนจนถึงสิ้นปีนี้