เจ้าท่าฯภูเก็ต สนธิกำลังออกตรวจตราปราบปรามผู้ฝ่าฝืนนโยบายจังหวัดภูเก็ต บริเวณแหลมงา เกาะมะลิ และเกาะแพพบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ จำนวน 17 ลำจึงแจ้งข้อกล่าวหาและทำการเปรียบเทียบปรับอัตราโทษสูงสุดลำละ 10,000 บาท
เจ้าท่าฯภูเก็ต สนธิกำลังออกตรวจตราปราบปรามผู้ฝ่าฝืนนโยบายจังหวัดภูเก็ต
บริเวณแหลมงา เกาะมะลิ และเกาะแพพบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ จำนวน 17 ลำ
จึงแจ้งข้อกล่าวหาและทำการเปรียบเทียบปรับอัตราโทษสูงสุดลำละ 10,000 บาท
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้นายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ดร.สมคิด ช่อคง ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ชุดที่ 1 โดยมีนายสมศักดิ์ นิลตีบ ตำแหน่ง นักวิชาการขนส่งชำนาญการ เป็นหัวหน้าชุด ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือภูเก็ต ศรชล.ภาค 3 และ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมบูรณาการสนธิกำลังออกตรวจตราปราบปรามบริเวณแหลมงา เกาะมะลิ และเกาะแพ โดยใช้เรือของศรชล.ภ.3 ชื่อ ศรชล. 4005 ซึ่งออกตรวจตราปราบปรามผู้ฝ่าฝืนตามนโยบายจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
ผลการตรวจตรา พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ จำนวน 17 ลำ จึงได้แจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือเปรียบเทียบปรับ เป็นความผิดตามมาตรา 9 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2481 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 60 (ฉบับ 14) พ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และได้ทำการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุดลำละ 10,000 บาท พร้อมนี้ได้แจ้งกำชับให้ผู้ประกอบการห้ามใช้เจ็ตสกีออกบริการนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาดจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป