Kaidee เผยสถิติผู้ใช้งานต้นปี 2561 ในจังหวัดภูเก็ต เปิดตัวครั้งแรกกับ FarmKaidee แพลตฟอร์มเพื่อเกษตรชาวไทย พร้อมแผนเดินหน้าในช่วงครึ่งปีหลัง
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 Kaidee แหล่งซื้อ-ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยคนภูเก็ตเข้าใช้งานกว่า 1 ล้านครั้งใน 6 เดือนแรกของปี 2561 มีมูลค่าการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 114.8 ล้านบาท จากประกาศกว่า 4,047 รายการ ที่ขายได้ผ่าน Kaidee พร้อมเปิดตัว FarmKaidee ครั้งแรกที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางให้เกษตรกรชาวไทยสามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์
นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee เปิดเผยว่า “ถึงแม้ว่าการใช้งานของชาวภูเก็ตจะอยู่ในอันดับกลางๆ บนแพลตฟอร์มของเรา แต่ก็มีความน่าสนใจมาก เห็นได้จากหมวดหมู่ยอดนิยมในบางอันดับก็เป็นหมวดหมู่ที่โดดเด่นขึ้นมาในจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น หรือแม้กระทั่งคำค้นหายอดนิยมของชาวภูเก็ตก็แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน เฉลี่ยในแต่ละเดือนมีคนภูเก็ตเข้ามาใช้งานประมาณ 116,700 ครั้ง” จากสถิติผู้เข้าใช้งานใน Kaidee ของประเทศไทย ที่ได้จัดอันดับ ดังนี้ สำหรับอันดับที่ 1 คือ กรุงเทพมหานคร อันดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ อันดับที่ 3 จังหวัดชลบุรี ส่วนจังหวัดภูเก็ตติดอยู่อันดับที่ 13 ของประเทศ ส่วนค่าบริการในการโพสต์ประกาศในครั้งแรกทาง Kaidee จะไม่คิดค่าบริการใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่ต้องการให้เป็นตลาดนัดซื้อขายออนไลน์ ที่ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและสามารถเข้ามาโพสต์ขายได้ แต่จะมีบางหมวดหมู่ที่มีข้อจำกัด อย่างเช่น หมวดหมู่อสังหาริมทรัพย์ ในการโพสต์ขายครั้งแรกที่ Kaidee จะฟรี แต่เมื่อมีการโพสต์ขายได้แล้ว ถ้าประสงค์จะลงประกาศอันที่2 จะต้องมีการเก็บค่าบริการ โดยคิดค่าประกาศ ละ 200 บาทต่อ 1 เดือน เป็นต้น
สำหรับ คำค้นหายอดนิยมจากผู้ใช้งานใน Kaidee ที่จ.ภูเก็ตใช้ค้นหา โดยจัด 5 อันดับแรก ได้แก่ PCX, ดรีม125, Yamaha, NMD และ Martin ตามลำดับ ส่วนหมวดยอดนิยมที่มีคนเข้ามาใช้งานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 RodKaidee อันดับที่ 2 MocyKaidee อันดับที่ 3 อสังหาริมทรัพย์ อันดับที่ 4 มือถือและแทบเล็ต และอันดับที่ 5 อะไหล่รถ ประดับยนต์
นอกจากนี้ นายทิวา ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้เปิด FarmKaidee ขึ้นบนแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ให้กับเกษตรกรชาวไทย เปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงผู้ซื้อในช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น และในขณะเดียวกันผู้ซื้อชาวไทย ก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเกษตรกรได้โดยตรงผ่านตลาด FarmKaidee ซึ่งการสร้างตลาดนี้ก็เป็นการเน้นย้ำจุดยืนของ Kaidee ที่ยังคงมุ่งมั่นสร้างตลาดซื้อ-ขายเพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะ”
ทั้งนี้ นอกจากตลาด FarmKaidee แล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ ทาง Kaidee ก็ยังมีแผนที่จะเปิดตลาดแนวดิ่งเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนไทย (Growing More Verticals) เพราะจุดแข็งอีกอย่างของ Kaidee คือ การที่ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานจากหมวดหมู่หนึ่งสู่อีกหมวดหมู่ ทำให้เป็นตลาดที่มีความคึกคัก ผู้ซื้อ-ผู้ขายเชื่อมต่อกันได้เร็วขึ้น ใน 6 เดือนหลังนี้ จะมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยน เพื่อผู้ใช้งานให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอีก 2 ตลาด ได้แก่
1. ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ประเภทของอสังหาฯ
2. ตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นหมวดยอดนิยมอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอะไหล่รถที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างเช่น เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา Kaidee ก็ยังได้เปิดตัวโครงการ Kaidee Bootcamp 2018 เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ นักศึกษาเข้ามาแข่งขันวางแผนการตลาดดิจิทัล พร้อมลงมือทำเพื่อเสริมประสบการณ์จริง และรับการติวเข้มจากเมนเทอร์นักการตลาดชื่อดังของเมืองไทย จากบริษัทชั้นนำ เพื่อชิงเงินรางวัลสูงสุด 50,000 บาท และเข้าร่วมฝึกงานเพื่อรับประสบการณ์จริงที่ Kaidee เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน
ส่วนในอีก 6 เดือนต่อจากนี้ของปี 2561 เรายังจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อเจาะตลาดแนวดิ่งเพิ่มมากขึ้น และยังจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อที่เราจะสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากขึ้นในทุกเพศทุกวัย รวมถึงจะเข้าสู่ตลาดภูมิภาคให้เพิ่มมากขึ้น เช่น ภูเก็ต หรือจังหวัดใกล้เคียง เราเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้การใช้งานจะเพิ่มขึ้นอีก 50%” นายทิวา กล่าวสรุปทิ้งท้าย